นราธิวาส - ตำรวจสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส แถลงปิดคดีฆ่าโหดสาวใหญ่ หลังตามรวบตัวหนุ่มวัย 31 ปี ผู้ต้องหาได้แล้วขณะหลบหนีกบดานบ้านเพื่อนใน อ.สุไหงปาดี เผยเหตุจูงใจลงมือฆ่ากลัวผู้ตายแฉเรื่องกำลังคบหากัน
วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส นายพิมล จงรักษ์ ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ.สุไหงโก-ลก พ.ต.สุกกฤษฐ์ กาญจนคลอด รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้กันร่วมแถลงข่าวการจับกุมตัว นายมะหะมะ ยอ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 235/4 ซอย 13 ถนนเจริญเขต ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีฆ่าทุบศีรษะ และรัดคอ น.ส.โรส เปาะมา อายุ 56 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่พื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เสียชีวิตที่บ้านเช่าเลขที่ 105/101 หมู่ 6 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมของกลาง 5 รายการ ได้แก่ 1.สร้อยคอทองคำพร้อมจี้รูปหัวใจ 1 เส้น 2.แหวนทองคำ 1 วง 3.ท่อนไม้ที่ใช้ก่อเหตุ 4.ไม้แขวนเสื้อที่ใช้รัดคอผู้เสียชีวิต และ 5.เงินสด จำนวน 2,700 บาท
พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าวว่า คดีดังกล่าวนี้พยานบุคคลที่อาศัยอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จนนำไปสู่การจับกุมตัวนายมะหะมะ ผู้ต้องหาที่หลบหนีไปอาศัยอยู่ที่บ้านเพื่อนในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี ซึ่งอยู่ในอาการคล้ายคนติดยาเสพติด และเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจปัสสาวะก็พบสารเสพติด จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนถึงกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.โรส ซึ่งนายมะหะมะ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง และได้ควบคุมตัวไปยังบ้านพัก และพบเสื้อผ้าที่ใส่ขณะใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง
ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บนเสาไฟฟ้า ที่บันทึกได้ถึงพฤติกรรมของนายมะหะมะ ซึ่งได้ขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนภายในเขตเทศบาล ซึ่งนายมะหะมะ ให้การรับสารภาพว่า ในช่วงเย็นของวันที่ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์นำสร้อยคอทองคำ และแหวนของผู้เสียชีวิตไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนายมะหะมะ ไปยังร้านทองดังกล่าวเพื่อเอาของกลางคืน ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดที่ร้านทองสามารถบันทึกพฤติกรรมของนายมะหะมะ เอาไว้ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหายังให้การถึงเหตุจูงใจที่ลงมือฆ่าโหด น.ส.โรส เนื่องจากผู้ตายมีความประสงค์ให้ผู้ต้องหาย้ายไปสร้างครอบครัวในประเทศมาเลเซียด้วยกัน โดยยื่นคำขาดหากปฏิเสธจะนำเรื่องที่ผู้ตายได้คบหากับผู้ต้องหาประกาศให้ผู้อื่นได้รับทราบ จนผู้ต้องหาเกิดความอับอายที่อายุน้อยกว่า จึงได้รอจังหวะที่ผู้ตายนอนหลับ ก่อนจะใช้ท่อนไม้ที่เตรียมไว้ทุบศีรษะ และใช้ไม้แขวนเสื้อรัดคอจนเสียชีวิต ก่อนที่จะเอาสร้อยคอทองคำ และแหวนของผู้ตายหลบหนีออกจากบ้านไป ทำทีคล้ายถูกคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์ เพื่อเบี่ยงเบนการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ และเงินที่ได้จากการขายสร้อยคอทองคำ และแหวน ผู้ต้องหาได้นำไปซื้อยาเสพติดมาเสพดังกล่าว