ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหัดภูเก็ตเดินมาใกล้ถึงจุดที่ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว หลังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ครบ 28 วัน ในวันพรุ่งนี้ เข้าสู่สถานะพื้นที่ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 39/2563 โดยมีนายวงศกร นุ่มชูคันธ์ นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์เฉลิมพงศ์ สุคนธผล ผอ.โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
โดยนายแพทย์ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ถึงวันนี้ จังหวัดภูเก็ตไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นเวลา 27 วันแล้ว และในวันพรุ่งนี้ (21 มิ.ย.) จะครบ 28 วัน ที่ภูเก็ตไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะทำให้จังหวัดภูเก็ตจะถูกปรับจากการอยู่ในพื้นที่สีเหลืองมาเป็นพื้นที่สีเขียว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัย แต่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องเฝ้าระวังกลุ่มที่เข้าข่ายเสี่ยงต่อการติดเชื้อ (pui) นอกจากนี้ ทาง สสจ.และโรงพยาบาลต่างๆ ได้ทำการตรวจหาเชื้อผู้ต้องสงสัยโดยการตรวจจากน้ำลายแทนการเก็บสารคัดหลั่งทางจมูกจำนวนกว่า 1,400 ราย ว่าไม่พบผู้ติดเชื้อ ทำให้จนถึงวันนี้ภูเก็ตพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 227 ราย
ด้าน นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตไม่พบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 รายใหม่ ติดต่อกันเป็นวันที่ 27 แล้ว ในวันพรุ่งนี้ภูเก็ตจะถูกปรับให้เป็นจังหวัดที่อยู่ในโซนสีเขียว ไม่พบผู้ติดเชื้อติดต่อกันเป็นเวลา 28 วัน ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ร่วมกันดำเนินการจากที่จังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่ที่มีการติดเชื้อสูง (พื้นที่สีแดง) มีการปิดเกาะ ปิดรอยต่อตำบล ตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก จนลดลงเหลืออยู่ในพื้นที่สีเหลือง และในวันพรุ่งนี้จะครบ 28 วัน ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ จังหวัดภูเก็ตจะเข้าสู่โซนสีเขียวแล้ว หากไม่มีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภูเก็ตจะเดินทางมาถึงวันที่ไม่พบผู้ติดเชื้อติดต่อกันถึง 28 วัน แต่อยากจะให้ทุกภาคส่วน ทั้งส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา เร่งรณรงค์ สร้างการรับรู้และความเข้าใจในการดำเนินชีวิตแบบวิถีใหม่ (New Normal) แก่พี่น้องประชาชนตามมาตรการป้องกันโรค โดยปฏิบัติตามแนวทางดังต่อไปนี้
ขอความร่วมมือสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้ง เมื่อออกจากเคหสถานหรือเข้าร่วมกิจกรรมที่มีผู้คนแออัด รักษาสุขอนามัยด้วยการล้างมือด้วยสบู่แอลกอฮอล์เจลหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมกิจกรรมหรือไปในสถานที่ที่มีผู้ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ถือหลักการเว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร หลีกเลี่ยงการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างกัน และทำความสะอาดที่อยู่อาศัยหรือสถานที่ประกอบกิจการหรือกิจกรรมโดยการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสก่อนและหลังการจัดกิจกรรมและให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน รวมไปถึงใช้แอปพลิเคชัน "ไทยชนะ" เมื่อไปยังสถานที่หรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อประโยชน์ในการสอบสวนโรคย้อนหลัง