xs
xsm
sm
md
lg

สีสันทับชาวมานิ สกุล “ศรีบริพัตร” แห่งเดียวของ จ.สงขลา ร่วมพิทักษ์ผืนป่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ลงพื้นที่เยี่ยม และติดตามชีวิตเงาะป่าซาไก หรือชนเผ่ามานิ กลุ่มเดียวของ จ.สงขลา ที่ยังคงวิถีชีวิตของเงาะป่าแบบดั้งเดิม หาเผือกมัน และล่าสัตว์เป็นอาหาร ตั้งทับอาศัยอยู่ในบริเวณ “น้ำตกบริพัตร” อ.รัตภูมิ จ.สงขลา

วันนี้ (19 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง นำโดย นายพงศ์พยัคฆ์ ศรียา ผู้อำนวยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 และนายชาย สุวรรณชาติ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง จังหวัดสงขลา และสตูล เดินทางเข้าไปตรวจเยี่ยมเงาะป่าซาไก หรือชนเผ่ามานิ “ศรีบริพัตร” ซึ่งสร้างทับหรือที่อยู่อาศัยอยู่ในป่าใกล้กับน้ำตกบริพัตร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา มาหลายสิบปี และตั้งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยพิทักษ์ป่าเขาพระ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่พรุ ป่าเทือกเขาไฟไหม้ และป่าคลองกั่ว เขตรอยต่อ จ.สงขลา กับ จ.สตูล

โดยเป็นเงาะป่าซาไกแห่งเดียวของ จ.สงขลา และยังคงมีวิถีชีวิตแบบเงาะป่าดั้งเดิม ด้วยการเก็บของป่า เผือกมัน และการล่าสัตว์เล็ก ด้วยบอเลา หรือกระบอกตุกใส่ลูกดอกอาบยาพิษ ที่สกัดจากตันไม้มาเป็นอาหาร สร้าง “ทับ” เป็นที่อยู่อาศัย มีทั้งที่เป็นแบบดั้งเดิมที่นำใบไม้มาทำเป็นเพิง และนอนบนฟากไม้ไผ่ และที่สร้างเป็นกระท่อม มีความเชื่อเรื่องผีดูแลป่า ปัจจุบันตั้งทับอยู่ร่วมกัน 2 ครอบครัว จำนวน 18 คน ทั้งซาไกสูงอายุ ซาไกวัยหนุ่มสาว และเด็กซาไก และใช้นามสกุล “ศรีบริพัตร” ซึ่งเป็นนามสกุลพระราชทานจากสมเด็จย่า ซึ่งตั้งตามถิ่นที่อยู่อาศัยใกล้กับน้ำตกบริพัตร

ซึ่งทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ต้องการที่จะคงความเป็นชนเผ่าเงาะป่าซาไก หรือมานิ สกุล “ศรีบริพัตร” กลุ่มนี้ให้มีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมมากที่สุด ไม่ให้ถูกกลืนไปกับสังคมเมือง ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ผืนป่าต้นน้ำ สัตว์ป่า และทรัพยากรธรรมชาติ


โดยการดึงเงาะป่าซาไก “ศรีบริพัตร” เข้ามามีส่วนร่วมในอนุรักษ์ผืนป่า ปลูกเสริมป่า และเป็นแนวร่วมผู้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในการลาดตระเวนสอดส่องดูแลผู้กระทำผิดเกี่ยวกับป่าไม้ การล่าสัตว์เพื่อธุรกิจ ในช่วงที่ออกไปหาอาหารทุกวัน เป็นการแบ่งเบาภาระให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ และทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐถูกต้อง ชัดเจนแม่นยำยิ่งขึ้น ในกรณีที่พบเห็นการบุกรุกทำลายป่า หรือการล่าสัตว์ป่า ที่สำคัญคือต้องการให้ชนผ่ามานิเป็นแบบอย่างในการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ ในโครงการสวนป่าพระนามาภิไธยภาคใต้ หรือสวนป่าสิริกิติ์

ทางเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ได้มอบต้นจำปูหริ่ง ซึ่งเป็นผลไม้ป่าเดือนละ 100 กล้า หรือปีละประมาณ 1,000 กล้า ให้ชนเผ่ามานินำไปปลูกในป่าทุกครั้งที่ออกหาอาหารในป่า และแจ้งข่าวสารให้เจ้าหน้าที่เมื่อพบเห็นการบุกรุกทำลายบ่า ล่าสัตว์ป่า หรือพบเห็นสัตว์ป่าสำคัญ ซึ่งจะช่วยคืนระบบนิเวศให้แก่ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และทำให้ชนผ่ามานิสามารถดำรงชีวิตอยู่คู่กับป่าได้อย่างมีความสุข

นายพงศ์พยัคฆ์ ศรียา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 กล่าวว่า เงาะป่าซาไก หรือชนเผ่ามินิกลุ่มนี้รักธรรมชาติ และช่วยดูแลผืนป่าอย่างดีเยี่ยม เป็นเหมือนกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ โดยที่กรมอุทยานฯ หรือรัฐบาลไม่ต้องจ้าง และพูดได้ว่าเป็นเงาะป่าซาไกกลุ่มเดียวในประเทศไทย ที่ยังใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม และเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ป่าร่วมกับภาครัฐ

ด้าน นายชาย สุวรรณชาติ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง จังหวัดสงขลา และสตูล กล่าวถึงการดูแลเงาะป่า “ศรีบริพัตร” ว่า เงาะป่าศรีบริพัตร เป็นชนเผ่าที่สำคัญที่สุดที่อาศัยอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง และยังเป็นหนึ่งในคำขวัญเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ที่ว่า “โตนงาช้าง ใกล้ผาดำ ทับซาไก” และผืนป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ก็ยังเป็นป่าในโครงการสวนป่าสิริกิติิ์ ซึ่งเป็นบ้านเล็กในป่าใหญ่ ที่เจ้าหน้าที่จะต้องดูแลทั้งป่า และเงาะป่าซาไกไปพร้อมๆ กัน

ซึ่งบทบาทของเงาะป่าซาไกเหล่านี้ก็เป็นเหมือนกับหน่วยพิทักษ์ป่าหน่วยหนึ่ง ที่คอยทำหน้าที่ปกป้องผืนป่าไม่ให้มีใครมาบุกรุกทำลาย หรือล่าสัตว์ป่า และคอยรายงานความเคลื่อนไหวในป่าให้เจ้าหน้าที่ทราบทันที แต่ขณะนี้เริ่มมีคนบางกลุ่มพยายามที่จะนำเงาะป่าซาไกกลุ่มนี้ช่วยล่าสัตว์ป่า โดยให้อาวุธปืนมาใช้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จำเป็นที่ต้องเร่งเข้าไปสร้างเกราะป้องกันเงาะป่า และดึงให้มาอยู่กับภาครัฐ ไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของใคร และการเข้าไปดูวิถีชีวิตของเงาะป่า “ศรีบริพัตร” จะต้องติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้างเท่านั้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อการใช้ชีวิตของเงาะป่า


นายอนันต์ จันทร์คง อายุ 63 ปี หรือพี่ม่อน ซึ่งแต่งงานอยู่กินกับสาวชาวเงาะป่า “ศรีบริพัตร” มาเกือบ 30 ปี และมีลูกด้วยกัน 3 คน บอกว่า เงาะป่ากลุ่มนี้มาอาศัยอยู่ที่นี่หลายสิบปีแล้ว และยังคงใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม คนสูงอายุก็จะออกไปขุดเผือกขุดมันมากิน ส่วนคนหนุ่มสาวก็จะออกไปล่าสัตว์ป่า และทุกคนรักที่จะใช้ชีวิตอยู่ในป่า ทุกคนพร้อมที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ป่าบริเวณนี้ไม่ให้ถูกทำลาย

ด้าน นายยอด บริพัตร ซาไกวัยหนุ่มบอกเพียงสั้นๆ ว่า จะร่วมปกป้องป่า และวิถีแห่งซาไกให้เหมือนเดิมมากที่สุด เพราะป่าคือชีวิต และลมหายใจของชาวซาไกศรีบริพัตร

สำหรับหน่วยพิทักษ์ป่าเขาพระ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง รับผิดชอบพื้นที่ป่าประมาณ 37,508 ไร่ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของ “น้ำตกบริพัตร” มีชั้นน้ำตกที่สวยงามทั้งหมด 7 ชั้น หล่อเลี้ยงชีวิตประชากรในพื้นที่ ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ไหลลงสู่คลองลำแชง ไปยังทะเลสาบสงขลา

ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงช้าง จึงมีนโยบายในการรักษาความสมบูรณ์ของผืนป่าแบบบูรณาการ หยุดการทำลายป่า ปลูกเสริมป่า หยุดการล่าสัตว์ป่า การใช้ทรัพยากรจากป่าอย่างรู้คุณค่า ลดปัญหาความขัดแย้ง เพิ่มขนาดพื้นที่ป่า ไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนในพื้นที่ โดยผ่านทางชนเผ่ามานิ หรือซาไก ซึ่งชนเผ่าเหล่านี้ต้องอาศัยป่าเป็นแหล่งอาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค และเครื่องนุ่งห่ม ที่มีความสำคัญต่อชีวิตในรูปแบบของเครือข่าย ผ่านกระบวนการพึ่งพาอย่างยั่งยืน คืนระบบนิเวศให้แก่ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำให้ชนผ่ามานิซาไกสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุขในป่าที่เป็นบ้านของพวกเขาเอง








กำลังโหลดความคิดเห็น