คอลัมน์ : จากนาบอนถึงริมฝั่งเจ้าพระยา / โดย... ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที ผู้ดำเนินรายการสภากาแฟช่อง NEWS 1
ตั้งใจจะเขียนเล่าเรื่อง “พี่ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง” เพื่อส่งให้บรรณาการให้ทันก่อนเปลวเพลิงจะชำระร่างกายของพี่
“พี่ตั้ว” เป็นพระเอก เป็นดารา เป็นผู้กำกับ เป็นผู้สร้างหนัง เป็นผู้ทำละคร เป็นสามีที่ดีของภรรยา เป็นพ่อที่ดีของ 2 ลูกสาว เป็นพี่และเป็นน้องที่ดีของผู้คนมากมาย
ที่สำคัญเป็นพี่ชายที่ดีมากมายของพวกเรา พวกเราที่ร่วมทำหน้าที่ในฐานะ “คนสื่อ” ผู้ร่วม “ถือธรรม” และ “ชูคบไฟ” เดินนำหน้าสังคม
และที่สำคัญอย่างมากคือ “พี่ตั้ว” ยังเป็น “จำเลย” ร่วมกับแกนนำและพี่น้อง “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” หลายคน โดยมีรายที่ศาลจะเรียกชื่อก่อนมาถึงพวกผม
ชื่อของ “ศรัณยู วงษ์กระจ่าง” จะถูกเรียกขานหน้าบัลลังก์ศาลก่อนหน้าชื่อ จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ก่อนหน้าชื่อ เติมศักดิ์ จารุปราณ และก่อนหน้าชื่อผม ในใจลึกๆ ก็แอบอุ่นใจว่าช่วงชีวิตหนึ่งของผมมี “พี่ตั้ว” อยู่ด้วย
การที่มีชื่อนำหน้าเรา สิ่งนี้ทำให้เราสบายใจกันว่า “พี่ตั้วคงให้การต่างๆ แทนเราได้”
พบกันครั้งหลังที่ศาลอาญา “พี่ตั้ว” ยังแข็งแรง แก้มยังเปื้อนรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา ทักทายทุกคนที่ได้พบ กอดทุกคนที่เข้ามาขอกอด ถ่ายรูปอย่างให้เกียรติทุกคนที่เข้ามาถ่ายรูป
ในโลกโซเชียลมีเดียที่ผมได้เห็นเสมอๆ คนที่รักและศรัทธามักนำภาพมาโพสต์เพื่อรำลึกถึงกัน แทบทุกรูปสื่อแววตามากสมาธิของ “พี่ตั้ว” สื่อแสดงออกถึงความสนใจต่อผู้คนแบบให้ความสำคัญกับทุกคน ช่างเป็นภาพที่อบอุ่นยิ่งนัก ซึ่งอานุภาพของรูปภาพเหล่านี้จึงอยู่ในใจคนนับหมื่นนับแสนมาตลอด
ผมเองมีโอกาสรับรู้ความยากลำบากจากพี่ๆ ที่รัก “พี่ตั้ว” อยู่บ้างเหมือนกัน
“พี่ตั้ว” เป็นแกนนำพันธมิตรฯ รุ่นที่สอง หากเลือกได้ผมว่าพี่เขาคงไม่อยากออกมานำหรอก แต่ก็เพราะพี่เขามีจิตใจเสียสละและด้วยการถูกเชิญมากกว่า การทำหน้าที่สามารถสร้างกำลังใจให้แก่มวลชนได้อย่างดียิ่ง
หลังการมาเป็นแกนนำพันธมิตรฯ รุ่นสอง หน้าที่การงานที่เคยล้นมือลดน้อยถอยลงไปมาก นำความยากลำบากมาให้ครอบครัว เพราะผู้ลงทุนในวงการบันเทิง เจ้าของสถานีโทรทัศน์ สปอนเซอร์ต่างๆ แม้จะยังรัก “พี่ตั้ว” แต่ก็คงไม่อยากที่จะแบกรับความเสี่ยงใดๆ ไว้บนบ่า
อย่างไรก็ตาม “พี่ตั้ว” เองก็พยายามดิ้นรนทุกวิถีทาง ความที่เป็นคนมากความฝันและมุ่งมั่น ทำให้ใครต่อใครยังได้เห็นแววตาที่ดูสดใสอย่างไม่สร่างซา
เมื่อผมนำความมุ่งมั่นและตั้งใจเหล่านี้ไปเล่าให้พี่ๆ ที่รักและศรัทธา “พี่ตั้ว” ได้รับฟังบนโต๊ะอาหาร ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ค้าขายเหล็ก เจ้าของโรงงานทำรองเท้า คนขายอาหาร ฯลฯ พี่น้องเหล้านั้นมักจะพูดติดตลกกลับมาว่า
“ฉันจะขายเหล็กมาช่วยคุณตั้ว” บ้าง “ฉันจะระดมทุนช่วยพี่ตั้ว” บ้าง “ฉันจะขายหุ้นโรงงานมาช่วยตั้วเขา” ฯลฯ ซึ่งเราเองก็ได้แต่คิดในใจว่า ทำไมมีแต่คนรัก “พี่ตั้ว” กันมากมายขนาดนี้
พี่เปี๊ยก-อ.พิภพ ธงไชย เล่าให้ผมฟังว่า กำลังหาช่องทางไปซื้อคืนบ้านให้ “พี่ตั้ว” กองบังคับคดีที่ได้ยึดทรัพย์ไปแล้วนั้นได้ยึดเอาบ้านไปด้วย ซึ่งก็เพิ่งมารู้กันในภายหลัง
แทบไม่มีใครรู้มาก่อนเลยว่าครอบครัว “วงษ์กระจ่าง” ต้องถูกยึดทรัพย์ในคดีที่ถูกเชิญให้มาเสียสละเป็นแกนนำพันธมิตรฯ รุ่นที่สอง “พี่ตั้ว” ไม่เคยเล่าหรือปริปากบอกพวกเราในเรื่องนี้ แม้จะได้มาเจอกันช่วงที่ขึ้นศาลอาญาอยู่บ่อยครั้ง
อีกสิบกว่าวันหรือวันพุธที่ 1 กรกฎาคม 2563 นี้ คนสื่อในเครือผู้จัดการ-NEWS 1 ที่อดีตเคยเป็น ASTV อย่างพวกเราต้องไปรวมตัวกันที่ศาลอาญากันอีกหน ในคดีที่นำประชาชนออกมาทำกิจกรรมทางการเมืองบนท้องถนน
คดีนี้ “ศรัณยู วงษ์กระจ่าง” ถูกระบุเป็นแกนนำ ตามมาด้วย จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ, เติมศักดิ์ จารุปราณ, เก๋-กมลพร วรกุล และ วรรษมน ช่างปรีชา และมีผมรวมอยู่ในฐานะจำเลยร่วมที่มีเกือบร้อยคนด้วย หากมีการเรียกขานชื่อจำเลยในศาลเหมือนทุกครั้ง ผมตั้งใจบอกกับกับศาลว่า
“พี่ตั้ว” หรือ “นายศรัณยู วงษ์กระจ่าง” ต่อไปนี้ไม่สามารถมาศาลได้อีกต่อไปแล้วครับ
ต่อแต่นี้ไปหากค่ำคืนไหนเดือนมืด เห็นดาวชัด ผมจะชวนลูกชายออกไปนั่งชมดาวเดือนบนท้องฟ้าด้วยกัน เราจะไปยืนบนดาดฟ้าที่บ้านของเรา ผมจะชวนลูกชายชี้มือไล่เรียงไปตามดวงดาวบนฟ้า ดาวไหนโดดเด่นมีประกายแวววาว ถ้าเป็นที่ตกลงเราจะร่วมกันตั้งชื่อดวงดาวดวงนั้นว่า…
“ดาวศรัณยู”!