พัทลุง - เงียบกริบ! ผลสอบ “แม่ค้าหอย” ยังไม่มีความคืบหน้า ขณะที่ผู้เสียหายรายอื่นที่ออกมาแฉพฤติกรรมตำรวจชุดดังกล่าวก็ยังเงียบ
จากกรณีเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2563 เวลา 11.30 น. น.ส.สุนิศา จีนเกลี้ยง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 267 หมู่ 3 ต.พญาขัน อ.เมือง จ.พัทลุง ได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชนว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทลุง ภายใต้การนำของสารวัตรนายหนึ่ง จับกุมในข้อหาออกนอกเคหสถานในช่วงเคอร์ฟิว และนำตัวมาที่ สภ.เมืองพัทลุง โดยกล่าวอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเรียกรับเงิน เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี โดยมีการต่อรองไกล่เกลี่ยเรียกรับเงิน และ น.ส.สุนิศา ได้โอนเงินเข้าบัญชีดาบตำรวจชุดจับกุมนายหนึ่ง โดยในบัญชีสลิปการโอนมีบันทึกว่า “ค่าโดนจับ”
ต่อมา เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2563 ช่วงเวลาประมาณ 16.40 น. น.ส.สุนิศา ได้มาให้ข้อมูลกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ต่อหน้าสื่อมวลชนทุกแขนงในจังหวัด โดย น.ส.สุนิศา ได้ให้ข้อมูลกลับคำว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไม่ได้เรียกเงินกรณีจับกุม น.ศ.สุนิศา แต่อย่างใด และเงินที่ตนโอนให้ดาบตำรวจชุดจับกุมนั้นเป็นการใช้หนี้ ที่ยืมดาบตำรวจคนดังกล่าวมา ซึ่งเป็นการกลับคำพูดของ น.ส.สุนิศา แม่ค้าอาหารทะเลสด
ในเรื่องดังกล่าวนี้ทำให้นักข่าว และองค์กรสื่อมวลชนทั้งสังคมได้รับความเสียหาย ทีมสื่อมวลชนใน จ.พัทลุง จึงส่งตัวแทนเข้าแจ้งความต่อแม่ค้าอาหารทะเลสดคนดังกล่าว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (10 มิ.ย.) ในส่วนความคืบหน้าของคดี ทางคณะกรรมการชุดสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง ยังไม่สรุปข้อมูลเบื้องต้นในการสอบสวน และยังไม่เรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวนหาข้อเท็จจริง โดยเฉพาะ นายไสว รุยันต์ ผู้สื่อข่าวที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ไปให้ปากคำเพิ่มเติมแต่อย่างใด หลังจากเมื่อวานนี้ได้มีการแจ้งความต่อแม่ค้าหอย ทางพนักงานสอบสวนก็ยังไม่ได้เรียกแม่ค้าหอยมาสอบปากคำด้วย
ขณะที่ผู้เสียหายที่ได้ออกมาแฉพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนี้อีก 2 ราย ทั้งในเรื่องยึดรถจักรยานยนต์แลกกับสุราต่างประเทศ 1 ลัง และจับกุมยาเสพติดในพื้นที่ ต.นาโหนด อ.เมืองพัทลุง จำนวน 5 ราย เรียกรับเงิน จำนวน 40,000 บาท ก่อนจะมีการปล่อยตัวไปนั้น ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ได้เรียกผู้เสียหายทั้งหมดเข้าพบพูดคุยแบบเงียบๆ แล้ว โดยมีการโพสต์ข้อความพร้อมคลิปเสียงลงในเฟซบุ๊ก “ตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง” แต่หลังจากมีการโพสต์ข้อความได้ไม่นาน ก็ได้มีการลบโพสต์ดังกล่าวออกไปแล้ว