พัทลุง - นักข่าวตัวแทนสื่อมวลชน จ.พัทลุง ปรินต์หลักฐานการแชตเฟซบุ๊กพร้อมบันทึกเสียงการพูดคุย เข้าแจ้งความ สภ.เมืองพัทลุง เอาผิด “แม่ค้าหอย” ฐานให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ หลังร้องสื่อโดนตำรวจรีดไถเงินแลกไม่ดำเนินคดีฝ่าเคอร์ฟิว แต่ต่อมากลับพลิกลิ้น ด้านองค์กรสื่อมวลชนรุดยื่นมือช่วยเหลือแล้ว
วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่ สภ.เมืองพัทลุง นายไสว รุยันต์ อายุ 50 ปี ผู้สื่อข่าวในนามของตัวแทนสื่อมวลชนใน จ.พัทลุง ได้นำหลักฐานซึ่งเป็นเอกสารข้อความการพูดคุยที่ปรินต์ออกจากช่องแชตใน Facebook จำนวน 12 แผ่น วิดีโอภาพ และเสียงขณะสัมภาษณ์ลงไดรฟ์ จำนวน 1 อัน เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ประเสริฐ ด้วงเอียด ร้อยเวร สภ.เมืองพัทลุง เพื่อให้ดำเนินคดีต่อ น.ส.สุนิศา จีนเกลี้ยง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 267 หมู่ 3 ต.พญาขัน อ.เมือง จ.พัทลุง แม่ค้าอาหารทะเลสด ในข้อหาแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียหรือเสียหาย ซึ่งขณะสื่อมวลชนเดินทางมาถึง สภ.เมืองพัทลุง ได้มีประชาชนชาวพัทลุง เดินทางมามอบช่อดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจให้กันเป็นจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2563 เวลา 11.30 น. น.ส.สุนิศา ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทลุง ภายใต้การนำของสารวัตร ยศ “พ.ต.ท.” จับกุมในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว และนำตัวมาที่ สภ.เมืองพัทลุง โดยกล่าวอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เรียกรับเงินเพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี โดยมีการต่อรองจำนวนเงิน และ น.ส.สุนิศา ได้โอนเงินเข้าบัญชีดาบตำรวจชุดจับกุมนายหนึ่งเป็นจำนวน 5,700 บาท โดยในหลักฐานสลิปการโอนมีบันทึกว่า “ค่าโดนจับ” ทั้งยังให้ น.ส.สุนิศา แกะหอยให้กินเป็นกับแกล้มด้วย
ต่อมา เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2563 ช่วงเวลาประมาณ 16.40 น. น.ส.สุนิศา ได้ให้ข้อมูลต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ต่อหน้าสื่อมวลชนทุกแขนงในจังหวัด โดย น.ส.สุนิศา ได้ให้ข้อมูลกลับคำว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไม่ได้เรียกเงินกรณีจับกุม น.ส.สุนิศา แต่อย่างใด และเงินที่ตนโอนให้ดาบตำรวจชุดจับกุมนั้น เป็นการใช้หนี้ที่ยืมดาบตำรวจคนดังกล่าวตั้งแต่สมัยที่ยังคบกันก่อนแต่งงานกับสามีคนปัจจุบัน ซึ่งการกลับคำพูดของ น.ส.สุนิศา แม่ค้าอาหารทะเลสด ในเรื่องดังกล่าวทำให้สื่อและองค์กรสื่อมวลชนทั้งสังคมได้รับความเสียหาย ทีมสื่อมวลชนใน จ.พัทลุง จึงส่งตัวแทนเข้าแจ้งความต่อแม่ค้าอาหารทะเลสดคนดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากกรณีที่เกิดขึ้นมีการแจ้งความกลับสื่อมวลชน ทางองค์กรกลางของสื่อมวลชนก็พร้อมที่จะจัดส่งทีมทนายความ เพื่อเข้ามาช่วยดูแลสื่อมวลชนในพื้นที่ จ.พัทลุง ต่อไป