สตูล - ตำรวจนราธิวาสรวบทันควัน 2 ผัวเมียฉกทองกว่า 7 หมื่นบาท ที่บาเจาะ ผู้ต้องหารับสารภาพทำไปเพราะต้องเลี้ยงลูก 1 คน และกำลังท้อง 7 เดือน
วันนี้ (9 มิ.ย.) ความคืบหน้าจากเหตุการณ์ 2 สามีภรรยาชาวมุสลิมฉกทองจากห้างทองริฎวาน ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 131/4 ม.1 ถ.เพชรเกษมสาย 42 เขตเทศบาลต้นไทร ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ซึ่งมี นายอับดุลฮาฟิส โต๊ะกูมิ อายุ 56 ปี เป็นเจ้าของห้างทองดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 8 มิ.ย.2563 ที่ผ่านมา โดยคนร้ายได้สร้อยคอทองคำรูปพรรณ จำนวน 3 เส้นๆ ละ 1 บาท รวมมูลค่า 78,000 บาท ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ซึ่งต่อมาหลังเกิดเหตุ พ.ต.ต.ลัทธวิชย์ แคยิหวา สารวัตรใหญ่ สภ.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ พร้อมด้วย พ.ต.ต.ธรรมนูญ แกล้วทนงค์ สารวัตรสอบสวน สภ.ปะลุกาสาเมาะ พร้อมชุดสืบสวน ชุดปฏิบัติการจู่โจม ชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวน ภ.จว.นราธิวาส ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบเหตุดังกล่าว พบว่า คนร้ายมีจำนวน 2 คน เป็นชาย 1 คน และหญิงอีก 1 คน ใช้ยานพาหนะเป็นรถ จยย. จำนวน 2 คัน โดยพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ได้เข้าตรวจเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด
จนนำไปสู่การสืบสวนติดตามคนร้าย โดยได้ไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ร้านทองที่เกิดเหตุ และกล้องไวไฟที่ติดตั้งไว้ตามเส้นทางถนนสายหลัก ปรากฏว่า พบภาพของคนร้ายใช้เส้นทางหลบหนีจากหน้าร้านทองที่เกิดเหตุ มุ่งหน้าผ่าน สภ.ปะลุกาสาเมาะ เลี้ยวเข้าถนนสายอีโยะ มุ่งหน้าแยกอาตาบือเร๊ะ อ.บาเจาะ โดยภาพสามารถเก็บภาพป้ายทะเบียนรถ จยย.คนร้ายเอาไว้ได้ คือทะเบียน ขธข 395 นราธิวาส ผู้ครอบครองคือ นายณูห์ บือราเฮง บ้านเลขที่ 53 หมู่ที่ 2 ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ประสานชุดสืบสวน สภ.บาเจาะ เข้าร่วมตรวจค้นที่บ้านของ นายณูห์ พบรถ จยย.คันที่คนร้ายซึ่งเป็นผู้หญิงได้ใช้ก่อเหตุจอดอยู่ที่บ้านดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัว นายณูห์ มาทำการสอบปากคำ
โดยนายณูห์ ยอมรับว่าก่อนเกิดเหตุ นายซุลกิฟลี สนิ เพื่อนของตนได้มาขอยืมรถ จยย.ไปใช้งาน จึงได้นำตัว นายณูห์ เข้าชี้ยืนยันบ้านของ นายซุลกิฟลี ที่บ้านเลขที่ 112 หมู่ที่ 6 ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ แล้วทำการตรวจค้นที่บ้านดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบ นายซุลกิฟลี สนิ และ น.ส.แวบะห์ ตาเย๊ะ อยู่ภายในบ้าน และยังพบของกลางเป็นรถ จยย.คันที่คนร้ายชายใช้ก่อเหตุจอดอยู่หลังบ้านดังกล่าวอีกด้วย
โดยภายในบ้านเจ้าหน้าที่ตรวจพบของกลางเพิ่มเติมเป็นเงินสด จำนวน 37,260 บาท รวมทั้งเสื้อผ้าและกางเกงที่คนร้ายใช้สวมใส่ตามวันเวลาเกิดเหตุ ซึ่งตรงกับภาพกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกเอาไว้ได้ และสอบถาม นายซุลกิฟลี และ น.ส.แวบะห์ แล้วให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ร่วมกันเข้าก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์เป็นสร้อยคอทองคำจากห้างทองริฎวานจริง
เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันจับกุมตัว นายซุลกิฟลี สนิ และ น.ส.แวบะห์ ตาเย๊ะ พร้อมด้วยของกลางที่ตรวจยึดมาดังกล่าว นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปะลุกาสาเมาะ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป
จากนั้น พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ได้เดินทางไปที่ สภ.ปะลุกาสาเมาะ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนจะเดินทางไปที่ห้างทองริฎวาน จุดเกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยได้นำตัว 2 สามีภรรยาที่ถูกใส่กุญแจมือไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ห้างทองริฎวาน ท่ามกลางบรรดาชาวบ้านที่มายืนดูอยู่ห่างๆ เป็นจำนวนมาก
โดยจุดที่ 1 ภายในห้างทองริฎวาน จุดเกิดเหตุฉกทอง จุดที่ 2 เป็นจุดที่คนร้ายที่เป็นสามีจอดรถจักรยานยนต์ไว้เยื้องๆ ร้าน ก่อนถอดเสื้อคลุมออก และจุดที่ 3 เป็นจุดที่ผู้หญิงซึ่งเป็นภรรยาจอดรถ จยย.ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร
ทางด้าน พล.ต.ต.นรินทร์ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยว่า มูลเหตุจูงใจที่ 2 สามีภรรยาก่อเหตุในครั้งนี้เพราะไม่มีเงิน อีกทั้งเคยก่อเหตุมาแล้ว 1 ครั้งที่ห้างทองในเขตเทศบาล ต.ยี่งอ อ.ยี่งอ เมื่อช่วงต้นเดือน พ.ค.2563 ที่ผ่านมา ได้ทองไปจำนวนหนึ่งไม่มากนัก จนชะล่าใจทำอีกเป็นครั้งที่ 2 หากเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไม่ได้จะนำไปสู่การก่อเหตุในครั้งต่อไปอีกได้
อย่างไรก็ตาม พบว่าคนร้ายซึ่งเป็นภรรยากำลังตั้งครรภ์ได้ 7 เดือนแล้ว นอกจากนี้ยังมีลูกชายวัย 2 ขวบอีก 1 คน ที่ต้องเลี้ยงดู ซึ่งหลังฉกทองที่ห้างทองริฎวานไปได้แล้ว ทั้งคู่ได้นำทองทั้ง 3 บาทไปขายที่ห้างทองในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ก่อนจะไปเยี่ยมญาติที่ อ.สุไหงโก-ลก และกลับมาบ้านพักในช่วงเย็น จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่บุกจับกุมตัวในที่สุด