ชาวบ้านตรังเดือดร้อนหนักต้องนำเงินเยียวยาซื้อท่อระบายน้ำฝังหน้าบ้าน หลัง อบจ.ทำโครงการปรับปรุงถนน

ตรัง - ชาวบ้านใสเดือย ม.4 ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง เดือดร้อนหนัก จากการที่ต้องนำเงินเยียวยาและกู้หนี้ยืมสิน เพื่อซื้อท่อที่ไม่ได้มาตรฐานมาฝังคูน้ำหน้าบ้านตนเอง หลัง อบจ.ทำโครงการปรับปรุงถนนแต่ไร้งบประมาณ

วันนี้ (8 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านใสเดือย ม.4 ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง ว่า หลังการปรับปรุงถนนของ อบจ.ตรัง ที่มีชื่อว่า โครงการปรับปรุงขยายผิวทางถนนแบบพาราแอสฟัลต์คอนกรีตสายบ้านน้ำผุด-บ้านไสเดือย ม.4 ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง-ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ขนาดกว้าง 6 เมตร ไหล่ทางข้างละ 1.50 เมตร ระยะทาง 1,800 เมตร งบประมาณ 8,970,000 บาท แต่ค่าก่อสร้างตามสัญญาจ้าง 7,020,000 บาท อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ชาวบ้านประมาณ 40 ครัวเรือน ต่างได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากต้องออกเงินส่วนตัวซื้อท่อระบายน้ำใหม่ แทนท่อเดิมขนาด 60 ซม. ราคาลูกละ 600 บาท ที่ยังใช้งานได้อยู่ และอยู่ในสภาพดีและแข็งแรงทนทาน เนื่องจากเป็นท่อคอนกรีตเสริมเหล็ก

แต่เมื่อมีการรื้อท่อเก่าทิ้ง ทำให้ทุกบ้านต้องซื้อท่อใหม่ตามขนาดที่ อบจ.ต้องการและเห็นว่าเหมาะสม คือ ขนาด 80 ซม. ในราคาลูกละ 800 บาท โดยชาวบ้านทุกคนต่างตกในภาวะจำยอม เพราะหากไม่ใส่ท่อระบายน้ำก็ไม่สามารถเข้าบ้านได้ เพราะถนนผ่านหน้าบ้านมีคูระบายน้ำด้านข้างริมฝั่งถนนตลอดเส้นทาง ประกอบกับหากไม่ใส่ท่อระบายน้ำ ในฤดูน้ำหลากจะมีน้ำจากภูเขาไหลลงมาท่วมบ้านเรือน ทำให้แต่ละครอบครัวที่ซึ่งสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ อันเนื่องมาจากสถานการณ์โรคติดต่อ จนไม่มีเงินไว้ใช้จ่ายในครัวเรือน และผลผลิตการเกษตรกรก็มีตกต่ำอยู่แล้ว จำเป็นต้องนำเงินเยียวยาโควิด-19 มาซื้อท่อระบายน้ำคอนกรีตใหม่ ส่วนบางรายเงินไม่พอก็ต้องกู้หนี้ยืมสิน เพราะ อบจ.ได้สั่งให้ผู้ที่รับผิดชอบสั่งซื้อท่อมาลงไว้แล้ว


ทั้งนี้ ชาวบ้านต่างยืนยันว่า เดิมในการประชุมเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจในการปรับปรุงถนนดังกล่าว ทาง อบจ.ได้ชี้แจงว่า จะทำท่อบล็อกน้ำ จำนวน 2 จุด เพื่อเบี่ยงทางน้ำเข้าสวนยาง ไม่ให้ไหลไปตามคูและท่อระบายน้ำ เพราะจะเข้าท่วมบ้านเรือน แต่พอทำจริงปรากฏว่า ทาง อบจ.ไม่มีท่อบล็อกน้ำตามที่ได้ชี้แจงไว้ในที่ประชุม โดยอ้างว่างบประมาณไม่เพียงพอ ทำให้ชาวบ้านทั้งหมด ซึ่งนอกจากจำใจต้องซื้อท่อระบายน้ำเองแล้ว แต่กลับได้ท่อระบายน้ำที่ไม่มีมาตรฐาน ไม่เสริมโครงเหล็ก

ปรากฏว่าเมื่อนำมาจัดวางและเครื่องจักรเคลื่อนย้ายหรือขยับเขยื้อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ท่อคอนกรีตดังกล่าวก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ทันที ทำให้ชาวบ้านยิ่งไม่พอใจ เนื่องจากเกือบทุกครอบครัวได้จ่ายเงินซื้อท่อระบายน้ำไปแล้ว แต่ไม่แข็งแรงทนทานเท่าท่อเดิมที่เคยใช้ โดยชาวบ้านต้องซื้อท่อใหม่ครอบครัวละ 5-30 ลูก ขึ้นอยู่ความกว้างของทางเข้าบ้านและการใช้งาน

นายชูศักดิ์ หนูเลี่ยง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 155 ม.4 ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง กล่าวว่า ชาวบ้านเดือดร้อนหนักที่ต้องมาจ่ายค่าท่อคอนกรีตที่ทาง อบจ.สั่งให้ในพื้นที่จัดหาท่อมาลงไว้ แล้วให้ชาวบ้านออกเงินเองทั้งหมด ทั้งที่ของเดิมยังใช้อยู่และแข็งแรงทนทาน แต่ท่อใหม่ที่ได้รับกลับเป็นท่อที่ไม่มีโครงเหล็ก เป็นเพียงหินและคอนกรีตอัดแท่งเท่านั้น ซึ่งเปราะแตกง่าย และไม่เหมาะกับการใช้งาน เมื่อเทียบกับท่อเดิมที่ชาวบ้านใช้อยู่มีคุณภาพแตกต่างกันมาก ดังนั้น โดยส่วนตัวจะคืนท่อคอนกรีตนี้ไปทั้งหมด เพราะหากเอาไว้ใช้งานได้ไม่นานก็แตกพัง ต้องเสียเงินซื้อใหม่อีก ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้ การที่ชาวบ้านต้องนำเงินเยียวยามาซื้อ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเพราะแต่ละคนก็เดือดร้อนหนักอยู่แล้ว


ด้าน นายรมณ์ ช่วยชนะ ชาวบ้านอีกราย กล่าวว่า สำหรับการวางท่อระบายน้ำในครั้งนี้ไม่มีใครเห็นด้วย โดยชาวบ้านขอให้ฝังท่อขนาดใหญ่ 2 จุด เพื่อเบี่ยงทางน้ำไว้ระบายน้ำที่ท่วมขังบ้านเรือน และในการประชุมชี้แจงโครงการของ อบจ.กำหนดไว้แล้วว่าจะทำ แต่พอทำจริงกลับไม่มีการทำท่อบล็อกดังกล่าว โดยทาง อบจ.แจ้งว่างบประมาณไม่มี และท่อคอนกรีตที่ได้กลับไม่มีคุณภาพ แตกง่าย ส่วนตัวอยากคืนท่อทั้งหมดและคืนเงินให้ชาวบ้าน และ อบจ.ควรจะรับผิดชอบท่อระบายน้ำนี้เอง เพราะชาวบ้านจ่ายไปก็ใช้งานได้ไม่นาน และไหนชาวบ้านจะต้องมาเสียเงินเทคอนกรีตทำทางเข้าบ้านเองอีก

ส่วน นายประจวบ สีดำ สมาชิกสภา อบต. ม.4 ต.นาหมื่นศรี กล่าวว่า ชาวบ้านไม่ได้ต้องการถนน แต่ต้องการให้ อบจ.ลงท่อขนาดใหญ่ไว้ผันน้ำใน 2 จุด เพื่อแก้ปัญหาน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน แต่สุดท้าย อบจ.มาทำถนนต้องขุดคูใหม่ และไม่ฝังท่อขนาดใหญ่ตามที่รับปากไว้ ทั้งที่ชาวบ้านต่อรองแล้วว่าไม่ต้องการซื้อท่อระบายน้ำใหม่ เพราะของเก่าที่มีใช้งานได้อยู่ แข็งแรงทนทาน และเสริมเหล็ก

“แต่ อบจ.บอกว่าต้องใช้ท่อขนาดใหญ่ขึ้น จาก 60 ซม. เป็น 80 ซม. ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ส่วนตัวเองซื้อทั้งหมด 31 ลูก และซื้อเป็นลักษณะพิเศษเสริมเหล็กหลายชั้น ตกลูกละ 1,200 บาท เสียเงินไปเกือบ 4 หมื่นบาท ขณะที่ชาวบ้านคนอื่นๆ ต้องจ่ายคนละหลายพันถึงหลายหมื่นบาท และต้องเอาเงินเยียวยาโควิด-19 มาซื้อ แทนจะใช้จ่ายที่จำเป็น จึงอยากให้ อบจ.ออกมารับผิดชอบ” นายประจวบ สีดำ สมาชิกสภา อบต. ม.4 ต.นาหมื่นศรี กล่าว