ยะลา – รถตู้โดยสารยะลา-หาดใหญ่ และพื้นที่อื่นๆ ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เริ่มกลับมาเปิดให้บริการวันแรกสุดเงียบเหงา เน้นป้องกันโควิด-19 เข้มข้น หลังหยุดให้บริการนานหลายเดือน
จากกรณีที่ นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ออกคำสั่งมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จ.ยะลา ให้ผู้ประกอบการรถโดยสารงดเดินรถรับส่งผู้โดยสาร ระหว่างจังหวัดที่มีพื้นที่ จ.ยะลา เป็นจุดต้นทางหรือปลายทางเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น เพื่อป้องกัน และควบคุมมิให้มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขยายพื้นที่ในวงกว้าง
ล่าสุดวันนี้ (8 มิ.ย.) ที่บริษัทสหยะลาขนส่ง จำกัด เลขที่ 170 ถนนธนวิถี เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งเป็นบริษัทสัมปทานการเดินรถตู้ระหว่างยะลา-หาดใหญ่ และพื้นที่อื่นๆ ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ บรรยากาศทั่วไปในช่วงเช้านี้มีพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จ.ยะลา และในพื้นที่ใกล้เคียง เริ่มเข้ามาใช้บริการรถตู้โดยสารอย่างคึกคัก โดยมีการเปลี่ยนแปลงจุดจำหน่ายตั๋วให้มีความกว้างกว่าเก่า การถ่ายเทอากาศโล่งสบายมากขึ้น มีการจัดเตรียมแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ ผู้ที่มาใช้บริการต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนมาทุกครั้ง และเขียนที่อยู่ของบัตรประชาชนอย่างเคร่งครัด
พร้อมทั้งสวมหน้ากากทุกครั้งอีกด้วย และจัดเว้นระยะห่างของผู้มาใช้บริการ ส่วนรถตู้โดยสาร 1 คัน มีที่นั่ง จำนวน 9 คน พร้อมพนักงานขับรถยนต์รวม 10 คน ส่วนรถบัสโดยสาร 6 ล้อ 1 คัน มีที่นั่ง จำนวน 13 คน พร้อมพนักงานขับรถยนต์รวม 14 คน โดยมีการเว้นระยะห่างของการนั่งของผู้โดยสาร เพื่อป้องกัน และควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัดอีกด้วย สำหรับค่าโดยสารรถยะลา-หาดใหญ่ ยังใช้ระบบปกติ (ราคา 120 บาทต่อคน)
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 จ.ยะลา พบผู้ป่วยสะสมคงที่ จำนวน 133 ราย รักษาหายสะสม จำนวน 131 ราย เสียชีวิตสะสม 2 ราย ปัจจุบัน จ.ยะลา มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาลศูนย์ยะลา (ส่งจากด่านปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา) ยืนยันสะสม 1 ราย พบเชื้อรายสุดท้าย เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2563 ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ติดต่อกันเป็นวันที่ 28 ซึ่งเป็นโซนสีเขียวทั้ง จ.ยะลา อีกด้วย อย่างไรก็ตาม พี่น้องประชาชนในพื้นที่จะต้องปฏิบัติตนตามมาตรการ ล้างมือ สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ทำความสะอาด หลีกเลี่ยงที่แออัด เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่อาจจะมีการแพร่ระบาดในระลอก 2
