สุราษฎร์ธานี - อดีตสามีแหม่มยูเครนที่ถูกฆ่าบนเกาะสมุย เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด เผยภรรยาเก่าป่วยเป็ยไบโพลาร์ ขอบอกเลิกและหย่ากันเมื่อ 2 เดือนก่อน ไปอยู่กับผู้ชายคนใหม่ได้มาสักประมาณ 1 เดือนเศษ ก่อนหายตัว และตนเองได้แจ้งความไว้แล้วเมื่อ 25 พ.ค. เชื่อเป็นฝีมือผู้ใกล้ชิด
วันนี้ (8 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี พบศพ น.ส.โอลฮา ฟลาวโลว่า อายุ 32 ปี สัญชาติยูเครน สภาพศพซุกในร่องน้ำกลางสวนของชาวบ้าน ทางขึ้นภูเขาทีปังกร หมู่ 4 ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยสภาพศพถูกอำพรางปกบิดด้วยทางมะพร้าว ข้างศพมีกระเป๋าสะพายหลัง ยี่ห้อเฟอร์รารี่สีเทา ในกระเป๋าพบเงินสดจำนวนหนึ่ง และ อุปกรณ์สายชาร์จ และสายหูฟังโทรศัพท์ ยังอยู่ ส่วนโทรศัพท์ไอโฟน และแล็ปท็อป ได้หายไป
ล่าสุด นายดรีมาส ฟลาวโลว่า อายุ 40 ปี สัญชาติยูเครน อดีตสามีผู้ตาย อาชีพ ช่างถ่ายภาพอิสระบนเกาะสมุย ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สุพจน์ ขาวขวัญ รอง สว.สอบสวน สภ.บ่อผุด เจ้าของคดี โดย มีล่ามแปล ซึ่งนายดรีมาส เปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ว่า น.ส.โอลฮา ผู้ตายได้อยู่กินกับตัวเองมา 12 ปี มีลูกชาย 1 คน และต่อมาผู้ตายได้ไปคบหากับเพื่อนชายคนใหม่ เป็นชาวต่างชาติ และ เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ผู้ตายขอหย่าขาดกับตนเพื่อไปอยู่กับชายคนใหม่ และแยกออกไปจากบ้านที่อยู่กับตนประมาณ 1 เดือน
นายดรีมาสยังกล่าวอีกว่า น.ส.โอลฮา ป่วยอารมณ์รุนแรง เป็นโรคไบโพลาร์ หรือ โรคอารมณ์สองขั้ว และรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนบนเกาะสมุย ต่อมาผู้ตายได้หายตัวไปตนติดต่อไม่ได้ และ ตนได้ไปแจ้งคนหายไว้ที่ สภ.บ่อผุด เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา จนกระทั่งมาพบศพ ซึ่งตนติดใจในการเสียชีวิตของอดีตภรรยา และตนเชื่อว่าอดีตภรรยาของตนถูกฆาตกรรม และเป็นฝีมือคนใกล้ตัว ขอให้ทางตำรวจคลี่คลายคดีนี้ให้กระจ่าง ว่าอดีตภรรยาตนเสียชีวิตจากอะไร ใครเป็นคนทำ ตนขอความเป็นธรรมให้อดีตภรรยาตนด้วย
ขณะที่ทาง ร.ต.อ.สุพจน์ ขาวขวัญ รอง สว.สอบสวน สภ.บ่อผุด เจ้าของคดี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในเบื้องต้นได้รายงานให้ทางสถานทูตยูเครน ประจำประเทศไทยทราบแล้ว พร้อมกันนี้ ศพของผู้ตายต้องส่งไปผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดที่สถาบันนิติวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ว่า ผู้ตายเสียชีวิตจากสาเหตุใด คาดว่าจะทราบผลภายใน 1 อาทิตย์ ในส่วนของคดีต้องทำการสอบปากคำผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ตาย และได้ประสานกับตำรวจสืบสวนติดตามตัวเพื่อนชายคนใหม่ของผู้ตายมาสอบปากคำ เพื่อเชื่อมโยงกับคดี
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับที่เกิดเหตุ เป็นที่เปลี่ยว ไม่ค่อยมีผู้คนใช้เส้นทาง ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ที่ผู้ตายไปที่เกิดเหตุด้วยตนเอง ด้านตำรวจสืบสวน สภ.บ่อผุด ได้ทำการแกะรอย ตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลัง เพื่อหาเบาะแสคลี่คลายคดี และหาตัวฆาตกรรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป