พัทลุง - ยังไม่หมด สารวัตรลูกนักการเมืองท้องถิ่นคนดังเมืองพัทลุง มีเยาวชนมาแฉเพิ่ม อ้างตำรวจลูกน้องสารวัตรยึดจักรยานยนต์โดยไม่ได้มีความผิด ซ้ำต้องเอาเหล้า 1 ลังแลกรถคืน
ความคืบหน้ากรณีแม่ค้าหอยร้องเรียนว่า ถูกตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง ที่มีนายตำรวจระดับสารวัตร ยศ พ.ต.ท. สภ.เมืองพัทลุง พร้อมลูกน้องจับข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขณะเดินทางกลับจากไปรับซื้ออาหารทะเลจาก อ.กันตัง จ.ตรัง เมื่อคืนวันที่ 2 มิ.ย. โดยตำรวจชุดดังกล่าวได้เรียกเงินจำนวนมาก จนต่อรองกันเหลือ 10,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว โดยแม่ค้าหอยจ่ายเงินสดไป 5,700 บาท ที่เหลือถูกยึดเอาอาหารทะเลและบังคับให้แม่ค้าแกะหอยนางรมให้กินแกล้มเหล้าภายในอาคารหลังเก่าของ สภ.เมืองพัทลุงนั้น
วันนี้ (8 มิ.ย.) มีเยาวชนชายวัย 18 ปี ได้มาร้องเรียนตำรวจชุดดังกล่าวเพิ่มเติม อ้างว่า ตำรวจชุดนี้ได้ยึดรถจักรยานยนต์ของตนแล้วบังคับให้นำเหล้ายี่ห้อรีเจนซี่ จำนวน 1 ลัง มาแลกกับรถจักรยานยนต์ที่ถูกยึดไว้ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง
เด็กหนุ่มคนดังกล่าว ระบุว่า ขณะที่ตนไปหาเพื่อนในพื้นที่ ต.ท่าแค ได้จอดรถจักรยานยนต์ไว้ที่หน้าบ้านของเพื่อน ในช่วงจังหวะนั้น ตำรวจชุดสารวัตรคนดังกล่าวได้เข้าไปในพื้นที่เพื่อจับกุมยาเสพติดที่บ้านอีกหลัง เมื่อตนจะกลับบ้าน พบว่าจักรยานยนต์ได้หายไป สอบถามจนทราบว่า ตำรวจได้ยกรถของตนขึ้นรถไปที่โรงพักเมืองพัทลุง จึงเดินทางไป สภ.เมืองพัทลุง เพื่อจะเอารถกลับคืน แต่ปรากฏว่า ตำรวจในชุดดังกล่าว บอกว่า ให้เอาเหล้ารีเจนซี่ 1 ลังมาแลกกับการรับรถจักรยานยนต์กลับคืน โดยตนต้องยืมเงินจากเพื่อน 3,000 กว่าบาทไปซื้อเหล้ารีเจนซี่ขนาดขวดแบน 1 ลัง ไปมอบให้แก่สารวัตรคนดัง จึงได้รถจักรยานยนต์กลับคืนมา
“ในวันเกิดเหตุ ผมไปทำธุระที่บ้านเพื่อน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเข้าจับกุมของตำรวจเลย ทั้งไม่มั่วสุมยาเสพติดด้วย ไม่เข้าใจว่า ทำไมตำรวจต้องยึดรถของผมไปโรงพัก และเมื่อไปรับคืน ต้องนำเหล้าไปแลกกลับด้วย”
ทั้งนี้ สำหรับสารวัตรคนดังพร้อมพวก ล่าสุด อยู่ระหว่างการตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัยและอาญาของตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ในกรณีแม่ค้าหอยร้องเรียนสื่อว่าถูกเรียกเก็บเงิน โดย ภ.จว.พัทลุง ระบุใช้เวลาในการสอบสวนรวม 7 วัน ล่าสุด โดยวันนี้เป็นวันที่ 3 ของการตั้งกรรมการสอบสวน โดยในการสอบสวน คณะกรรมการจะต้องเรียกสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจในชุด สื่อมวลชน รวมทั้งแม่ค้าอาหารทะเลสดที่ร้องเรียนต่อสื่อมวลชน แต่กลับมีข่าวว่า แม่ค้าอาหารทะเลสดกลับคำไปเข้าข้างเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยระบุว่าไม่มีเรียกเก็บเงินจากเจ้าหน้าที่ เงินที่โอนให้เจ้าหน้าที่เป็นการชดใช้หนี้ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งในชุดเท่านั้น
ส่วนผู้เสียหาย 2 รายใหม่ยังไม่กล้าไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ เนื่องจากกลัวอิทธิพล หวั่นว่าจะไม่ปลอดภัย