xs
xsm
sm
md
lg

ยื้อไม่ไหว! โรงแรมในภูเก็ตแห่ขาย ขณะกลุ่มทุนกดราคายับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สุดยื้อ! วิกฤตเศรษฐกิจ-โรคระบาดโควิด-19 พ่นพิษ เจ้าของโรงแรมในภูเก็ตแห่ขาย หลังได้รับผลกระทบหนัก ระดับตั้งแต่ 3-6 ดาว ราคาตั้งแต่หลัก 10 ล้าน จนถึง10,000 ล้านบาท ขณะกลุ่มทุนกดราคายับ


จากสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อเนื่องมาอย่างน้อย 5-6 ปี และ ล่าสุดเกิดวิกฤตโรคโควิด-19 ระบาด ทำให้ส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในส่วนของผู้ประกอบการท่องเที่ยว และผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีรายได้หลักจากการท่องเที่ยวขาเดียว เมื่อนักท่องเที่ยวไม่เดินทางเข้ามารายได้ที่เคยได้รับก็หายไปทั้งหมด ทำให้ผู้ประกอบการที่สายป่านไม่ยาว ทุนไม่หนา ก็เริ่มที่จะประกาศขายโรงแรมกันแบบเงียบๆ ลักษณะแบบทีเล่นทีจริง เพื่อเป็นการโยนหินถามทาง บางคนก็บอกขายผ่านทางนายหน้า ส่วนใหญ่เจ้าของโรงแรมจะไม่ค่อยเปิดตัว ซึ่งมีทั้งโรงแรมระดับตั้งแต่ 3-6 ดาว ราคาตั้งแต่หลัก 10 ล้าน จนถึงเป็น 10,000 ล้านบาท

แหล่งข่าวแวดวงธุรกิจนายหน้าในพื้นที่ จ.ภูเก็ต กล่าวว่า การขายโรงแรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีมาระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ซึ่งรวมไปถึงเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวโดยตรง ทำให้เจ้าของโรงแรมต่างๆ เริ่มที่จะประกาศขายโรงแรมกันมา 5-6 ปีที่ผ่านมา แต่มาขายมากขึ้นก็ช่วงที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่รายได้จากการท่องเที่ยวเป็น 0 ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ในมือมีเจ้าของโรงแรมต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าตอง ฝากขายไม่น้อยกว่า 50 แห่ง มีอยู่ทุกถนน ทุกซอย ทั้งแต่หน้าหาด ไปจนถึงบนเขา ส่วนราคาก็อยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาท จนถึงถึงราคาเป็น 10,000 ล้านบาท


สำหรับระดับโรงแรมที่มีการประกาศขายมีทุกระดับ เช่นที่ป่าตอง บริเวณหน้าหาดก็จะเป็นโรงแรม 4-5 ดาว มีการขายจำนวนมาก ส่วนสาย 2 สาย 3 ก็จะอยู่ที่ 3-4 ดาว นอกจากนั้น ยังมีในส่วนของรีสอร์ตหรูบนเนินเขาถนน 50 ปี ที่มีราคาสูงถึง 6,000 ล้านบาท โดยราคาขายไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับทางเจ้าของโรงแรม และหลักทรัพย์ที่ต้องการขาย ซึ่งมีหลายราคา ส่วนกลุ่มคนซื้อก็มีสอบถามเข้ามาจำนวนมาก ส่วนใหญ่ก็ต้องการซื้อโรงแรมที่มีใบอนุญาตถูกต้อง ส่วนราคาก็พยายามที่จะกดกันอย่างเต็มที่

สำหรับรูปแบบการขายโรงแรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้นมีน้อยมากที่จะมีการปิดป้ายประกาศขาย หรือเจ้าของประกาศขายแบบชัดเจน เนื่องจากเจ้าของโรงแรมในภูเก็ตไม่ค่อยที่จะเปิดตัว การขายก็จะบอกกันในกลุ่มเพื่อนฝูง คนรู้จัก ลักษณะพูดแบบทีเล่นทีจริง ถ้าได้ราคาเท่านี้ เท่านั้นก็จะขาย หรือบางคนก็บอกขายผ่านทางนายหน้า ถ้าได้ราคาเป็นที่พอใจก็จะขาย แต่ถ้าราคาไม่เป็นที่พอใจก็ไม่ขาย แต่คนที่ต้องการขายจริงๆ ก็มี ซึ่งกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมระดับ 3-4 ดาว เป็นโรงแรมที่ไม่ใหญ่มาก เจ้าของทุนไม่หนาพอมองว่ายื้อต่อไปก็สู้ไม่ไหว เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่แน่ใจว่าจะลากยาวแค่ไหน และการท่องเที่ยวจะฟื้นเมื่อไหร่จึงเลือกที่จะขายเพื่อเก็บเงินสดไว้ก่อนแล้วค่อยกลับมาซื้อใหม่ หรือลงทุนใหม่ เนื่องจากมีภาระกับธนาคารที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยกันอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการขายโรงแรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตน่าจะมีเพิ่มขึ้นหลังจากนี้ แม้ว่าจะมีการผ่อนผันให้เปิดบริการได้แล้วก็ตาม เนื่องจากการเปิดบริการไม่ได้ยืนยันว่าจะมีรายได้เข้ามาจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพัก เพราะช่วงนี้คนที่จะมาเที่ยวคิดว่ามีจำนวนไม่มากนัก และเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่สุดในรอบหลาบสิบปีที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะกับเมืองที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว เมื่อรายได้เป็น 0 เขาก็ไม่รู้จะเอารายได้จากไหนมาเป็นค่าใช้จ่ายทั้งดอกเบี้ยธนาคาร ทั้งในส่วนของการบริหารจัดการ ค้าจ้างพนักงาน ซึ่งต้องจ่ายกันอยู่ทุกวัน การขายโรงแรมออกไปจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่มีทุนน้อย เพราะยื้อไปอาจจะต้องล้มทั้งยืน

ส่วนคนซื้อก็มีเข้ามาหลายกลุ่มทุน ทั้งทุน ไทย ทุนนอก ติอต่อผ่านนอมินี ที่พยายามที่จะเข้ามาซื้อแบบกดราคา บางรายขอซื้อในราคา 50% ของราคาที่บอกขาย ทำให้การเจรจาชื้อขายยังไม่ค่อยลงตัว เพราะมีความพยายามที่จะกดราคากันแบบสุดๆ ในส่วนของคนขายเองก็ไม่ยอมขายถ้าหากไม่ได้ในราคาที่ต้องการ

สำหรับจำนวนโรงแรมในภูเก็ต ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ มีประมาณ 3,000 แห่ง ซึ่งมีทั้งโรงแรมที่ใบอนุญาตถูกต้อง โรงแรมที่ได้รับการอนุญาตตามคำสั่ง คสช. และโรงแรมที่ยังไม่ได้รับอนุญาต ส่วนจำนวนห้องพักอยู่ที่ประมาณ 120,000 ห้องพัก


กำลังโหลดความคิดเห็น