ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 แถลงสรุปคดีฆ่าแล้วเผา 2 ศพ ชี้ชัดผู้ก่อเหตุคือ “ไอ้แวว” เพียงคนเดียว สาเหตุมาจากเรื่องชู้สาวที่ผู้ตายทั้ง 2 คนร่วมกันข่มขืนภรรยาจนเสียสติ
วันนี้ (26 พ.ค.) ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าแล้วเผา 2 ศพ โดยผู้เสียชีวิตคือ นายอนุชา สุภานิตย์ อายุ 27 ปี หรือปูน และนายประเสริฐ ธรรมรักษา อายุ 20 ปี หรือบอย โดยมัดร่างติดกัน ทิ้งศพบริเวณชายป่าข้างบ่อขยะเทศบาลนครหาดใหญ่ พื้นที่หมู่ 3 บ้านพรุจูด ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และศพถูกพบเมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา
กระทั่งเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบตัวผู้ต้องสงสัย 3 คน หนึ่งในนั้นคือ นายวิรัตน์ แก้วทองพันธ์ อายุ 35 ปี หรือแวว ซึ่งอยู่ในกลุ่มค้ายาเสพติดเดียวกัน จึงนำตัวมาสอบสวนและให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าและจุดไฟเผาผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน
ล่าสุด ที่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้แถลงสรุปคดีนี้ โดยเปิดเผยว่า จากการสอบสวนพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายวิรัตน์ เพียงคนเดียว หลักฐานสำคัญคือรถยนต์กระบะที่ขับออกจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นรถของ นายวิรัตน์ และพรมสีส้มที่บ้านก็ตรงกับพรมที่จุดไฟเผา รวมทั้งอาวุธปืนกล๊อก 9 มม. ปลอกกระสุนปืน 6 ปลอก และกองเลือดที่บ้านของนายวิรัตน์
ซึ่งคดีนี้เจ้าหน้าที่มีทั้งหลักฐานในที่เกิดเหตุ หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และคำรับสารภาพของผู้ต้องหา และรอหลักฐานเพิ่มบางอย่างทั้งหัวกระสุนปืนที่ศพคนตาย ซึ่งนำมาเปรียบเทียบกับอาวุธปืนที่ยิง และผลตรวจดีเอ็นเอจากเลือดที่เกิดเหตุและเลือดที่บ้านมาประกอบ หากตรงกันก็จบ
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า สำหรับสาเหตุของคดีนี้แม้ว่าทั้งผู้ตายและผู้ต้องหาจะอยู่ในกลุ่มค้ายาเสพติดกลุ่มเดียวกัน แต่จากคำให้การของ นายวิรัตน์ ผู้ต้องหากลับบอกว่าสาเหตุที่ต้องฆ่าทั้ง 2 คนเนื่องมาจากเรื่องชู้สาว เพราะทั้ง 2 คนได้รุมข่มขืนภรรยาของตนซึ่งอายุ 29 ปี และก่อนเกิดเหตุ 2 วันเมียมาบอก ซึ่งขณะนี้เมียของ นายวิรัตน์ สติฟั่นเฟือนพูดจาไม่รู้เรื่อง ซึ่งนายวิรัตน์ บอกว่ามีสาเหตุมาจากที่ถูกรุมข่มขืนจนทำให้เสียสติ
ในวันเกิดเหตุทั้ง 2 คนได้มาที่บ้านของ นายวิรัตน์ และพูดในทำนองว่า กูรู้ว่ามึงทั้ง 2 คนทำอะไรเมียกู และทั้ง 2 คนก็ทำสีหน้าเงิกงัก สุดท้ายนายวิรัตน์ ก็ใช้อาวุธปืนจ่อยิงทั้ง 2 คนจนตายคาบ้าน โดยยิง นายอนุชา ก่อนและยิง นายประเสริฐ ตามหลัง ก่อนที่จะนำศพของทั้ง 2 คนใส่รถกระบะไปเผาอำพรางคดีในที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เผยประเด็นที่ นายวิรัตน์ อ้างว่าเมียถูกผู้ตายทั้ง 2 คนรุมข่มขืนจนเสียสตินั้น เจ้าหน้าที่จะต้องผลตรวจของทางจิตแพทย์และร่องรอยการถูกข่มขืนมายืนยันอีกครั้ง โดยเฉพาะสาเหตุที่สติฟั่นเฟือนเกิดขึ้นก่อนหรือหลังที่จะถูกข่มขืน
ส่วน นายวิรัตน์ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งดำเนินคดี 4 ข้อหาคือ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.ทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย 3.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และ 4.ลักทรัพย์ (รถจักรยานยนต์) หรือรับของโจร
ในขณะที่ผู้ต้องสงสัยอีก 2 คนคือ นายบาวและนายเอ๊กซ์ ซึ่งทีแรกบอกว่าเกี่ยวข้องนั้น เป็นเพียงคำให้การของผู้ต้องหาที่สงสัยว่าจะข่มขืนเมียตนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
หลังการแถลงข่าวได้มี นายศุภชัย ธรรมรักษา พ่อของนายประเสริฐ ได้นำช่อดอกไม้มาขอบคุณ พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.ภ.จว.สงขลา ทั้งน้ำตาที่สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้น พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา ได้ควบคุมตัว นายวิรัตน์ ไปชี้จุดที่นำผู้ตายทั้ง 2 คนไปจุดไฟเผาในบริเวณชายป่าข้างบ่อขยะ ซึ่งนายวิรัตน์ ก็บอกถึงขั้นตอนทุกอย่างโดยใช้รถกระบะบรรทุกศพเข้ามา และใช้ยางในยางรถจักรยานยนต์และเบาะลมจุดไฟ เมื่อไฟลุกขึ้นมาก็ขับรถออกไปทันที โดยไปตัดหญ้าให้วัวต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ส่วนเหตุผลที่นำศพมาเผาตรงจุดนี้เนื่องจากเคยมาและข้างในเป็นจุดที่วัยรุ่นมั่วสุมขายยาเสพติดกัน ส่วนสาเหตุที่ต้องฆ่าเพราะแค้นที่รุมข่มขืนภรรยาตนหากไม่ทำกับตนก่อนตนก็ไม่ทำ
มีรายงานจากคำให้การของนายวิรัตน์ เกี่ยวกับประเด็นที่อ้างว่าผู้ตายทั้ง 2 คนรุมข่มขืนเมียตนเองว่า ผู้ตายและเพื่อนจำนวน 5 คนได้หลอกภรรยาตนไปที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง โดยอ้างว่าตนได้พาผู้หญิงไปนอน ภรรยาจึงตามไปดู แต่ปรากฏว่าผู้ตายและเพื่อนได้รุมข่มขืนภรรยาตนภายในรีสอร์ตจนทำให้ภรรยาเสียสติ จึงเป็นที่มาของความแค้น