คอลัมน์ : จากนาบอนถึงริมฝั่งเจ้าพระยา / โดย... ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที ผู้ดำเนินรายการสภากาแฟช่อง NEWS 1
ผมมีโอกาสออกเดินทางจากเมืองหลวงมุ่งหน้าเพื่อไปกราบมาพ่อแม่ครูอาจารย์ “หลวงพ่อสุดใจ ณ วัดบ้านตาด” ที่ จ.อุดรธานี ด้วยความตั้งใจไปให้ถึงบันไดกุฏิที่เพิ่งถูกไฟไหม้โดยเร็ว
เราฝ่าความมืดไปด้วยกัน ด้วยความมุ่งมั่น ด้วยวิสัยของนักข่าวที่พอมีทักษะทำข่าวสืบสวนอยู่บ้าง โดยเดินทางไปพร้อมกับ “พี่ดนุช” ศิษย์ธรรมศาสตร์และศิษย์วัดบ้านตาดด้วยกัน
เราพากันไปจนถึงกุฏิหลวงพ่อสุดใจเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด กุฏิท่านมีร่องรอยถูกซ่อมให้ดีกว่าเก่า เพื่อให้สะดวกและเหมาะสมแก่ธาตุขันธ์ที่อ่อนล้าของหลวงพ่อสุดใจ อันเป็นภาพที่ไม่เหมือนเมื่อสิบกว่าปีก่อน
เห็นสภาพแล้วพบว่า ไฟคงไหม้ลามเร็วมาก ถามว่าทำไมไฟลามเร็วมาก เหตุผลก็คือมี “แอลกอฮอล์” ทั้งแบบน้ำและแบบเจลเป็นเชื้อให้อย่างดี
ญาติโยมรักห่วงใยสุขภาพหลวงพ่อสุดใจ จึงถวายกันมามากตามกำลังแห่งรักและศรัทธาปฏิปทาพระผู้งดงาม หวังว่าเชื้อโรคที่กำลังแพร่ระบาดจะได้ไม่เข้าใกล้หลวงพ่อ
โยมอุปัฏฐากที่เข้าไปดูแลท่านบอกว่า ประมาณสักสองวันก่อนเกิดเหตุได้ไปปัดกวาดกุฏิให้หลวงพ่อ เห็นแอลกอฮอล์ทั้งแบบน้ำและแบบเจลตั้งอยู่เป็นกล่องมากมายทีเดียว ซึ่งนั่นก็คือสิ่งที่ช่วยโหมเปลวไฟ
เมื่อสองวันที่แล้วแอร์เก่าๆ ที่กุฏิของหลวงพ่อเริ่มรวน สายไฟมีกลิ่นไหม้ ตามช่างให้มาซ่อมก็ยังไม่มา เพราะงานคงมากตามสภาวะอากาศที่ร้อน ก็เป็นไปได้ว่าแอร์ที่รวนเมื่อยังคงเปิดใช้ จึงเกิดไฟฟ้าช็อต ประกายไฟจึงเริ่มต้นขึ้น
บริเวณประตูเข้าสู่กุฏิหลวงพ่อ ด้านหน้าประตูจากคำบอกเล่าเป็นที่ตั้งของกล่องแอลกอฮอล์ที่มีผู้นำมาถวายกันมาก หลวงพ่อก็ตั้งไว้อย่างนั้น จุดนี้จะมีคราบไฟไหม้และร่องรอยเปลวเพลิงของเชื้อไฟมากที่สุดในที่เกิดเหตุ
“ศาลาน้ำร้อน” อยู่ไม่ไกลจากกุฏิของหลวงพ่อ ทำไมพระหนุ่ม-เณรน้อยที่อยู่ที่นั่นมาช่วยหลวงพ่อไม่ทัน เปลวไฟเริ่มต้นที่ด้านในของกุฏิที่ท่านพักกลางวันอยู่
ทั้งแอลกอฮอล์และหนังสือจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ประจวบกับกุฏิไม่เหมือนก่อน มีการปรับปรุงเสริมลูกกรงมั่นคงกว่าเก่า เมื่อเจอเพลิงไหม้จากภายในกุฏิ การช่วยเหลือจากภายนอกจึงเข้าสู่ภายในได้ยากขึ้นมาก
อย่างไรก็ตาม ผมทราบมาว่าพระที่ไปถึงกุฏิหลวงพ่อที่เกิดเหตุก่อนใครอื่น ท่านก็เข้าใจว่าหลวงพ่อสุดใจไม่ได้อยู่ภายใน ท่านไปเดินจงกรมอยู่ด้านนอกกุฏิ
วัดป่าบ้านตาดมิใช่บริษัทห้างร้าน จึงจะได้มีการซ้อมแผนเผชิญเหตุเพลิงไหม้ นักบวชในวัดจึงมิได้มีการฝึกซ้อมทักษะในเรื่องนี้ เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ขวาน ค้อน เพื่อรื้อทำลายจึงไม่ได้มีการตระเตรียมไว้เหล่านี้เป็นต้น
จึงอย่าได้แปลกใจที่ทุกชีวิตในวัดบ้านตาดจะรอรถดับเพลิงและนักดับเพลิง เมื่อมาถึงแล้วจึงได้ให้เข้ามาช่วยอุ้มร่างของหลวงพ่อที่เปลวไฟทำลายไปมากแล้วออกมาได้
ทำไมมี “ทองคำ” อยู่ในกุฏิของหลวงพ่อสุดใจ ทั้งที่นักบวชที่วัดบ้านตาดไม่สะสมของเหล่านี้อยู่แล้ว
ตามธรรมดาที่ผ่านๆ มาศรัทธาของญาติโยมจะเดินทางมาบริจาคทองคำเพื่อใช้สร้าง “เจดีย์หลวงตาบัว” จำนวนมาก ซึ่งทางวัดก็จะนำไปเก็บรักษาต่อไว้ที่ธนาคาร
แต่เนื่องจากสองสามเดือนมานี้ โดยเฉพาะเดือนเมษายน 2563 ที่ผ่านมา เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อย่างหนัก ส่งผลให้ศรัทธาในบุญเลยยังคั่งค้างอยู่ที่กุฏิหลวงพ่อ
เนื่องจากทุกๆ เดือนพนักงานธนาคารแห่งประเทศไทยจะเดินทางมารับทองคำไปจัดการต่อ แต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เวลานี้ทำให้ทางแบงก์ชาตินัดหมายขอมารับเดือนสิงหาคม 2563 ที่จะถึงนี้
เนื่องเพราะเจ้าหน้าที่ของแบงก์ชาติผู้รับผิดชอบเดินทางไปมาก็ไม่ได้ เพราะเงื่อนไขทั้งด้านการเดินทาง การตรวจคัดกรองและการต้องกักตัวมากมาย
ทั้งหลายทั้งปวงในฐานะสื่อมวลชน ในฐานะศิษย์วัดบ้านตาด ผมมีโอกาสร่วมรับฟังซักถามผู้อยู่ในเหตุการณ์ จึงนำมาสื่อสารต่อให้ญาติโยมคลายจิตใจข้อสงสัยแห่งโลกย์
ทั้งนี้ทั้งนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จ.อุดรธานี ก็กำลังสอบสวนรายละเอียดอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าหลังงานชำระสังขารหลวงพ่อสุดใจแล้วเสร็จน่าจะมีความกระจะกระจ่างในหลายเรื่องราว
ศรัทธาของพี่น้องประชาชนมายังวัดป่าบ้านตาดกันมาก ทางวัดเองอยากให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงนโยบายของรัฐบาลช่วงเชื้อโควิด-19 ยังแพร่ระบาดอยู่ การที่ญาติโยมมามากก็เห็นว่าไม่เหมาะสมต่อสภาวการณ์ที่เป็นอยู่
หลังการหารือของหมู่สงฆ์พระป่า ณ โคนไม้ราวป่ายามค่ำคืนขึ้น 2 ค่ำเดือน 7 จึงได้ข้อสรุปตรงกันว่า ให้จัดชำระสังขารให้หลวงพ่อสุดใจวันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2563 นี้
ศิษย์วัดป่าบ้านตาดรายงานจาก จ.อุดรธานี มาพร้อมเสียงจิ้งหรีดและจักจั่น
ผมมีโอกาสออกเดินทางจากเมืองหลวงมุ่งหน้าเพื่อไปกราบมาพ่อแม่ครูอาจารย์ “หลวงพ่อสุดใจ ณ วัดบ้านตาด” ที่ จ.อุดรธานี ด้วยความตั้งใจไปให้ถึงบันไดกุฏิที่เพิ่งถูกไฟไหม้โดยเร็ว
เราฝ่าความมืดไปด้วยกัน ด้วยความมุ่งมั่น ด้วยวิสัยของนักข่าวที่พอมีทักษะทำข่าวสืบสวนอยู่บ้าง โดยเดินทางไปพร้อมกับ “พี่ดนุช” ศิษย์ธรรมศาสตร์และศิษย์วัดบ้านตาดด้วยกัน
เราพากันไปจนถึงกุฏิหลวงพ่อสุดใจเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด กุฏิท่านมีร่องรอยถูกซ่อมให้ดีกว่าเก่า เพื่อให้สะดวกและเหมาะสมแก่ธาตุขันธ์ที่อ่อนล้าของหลวงพ่อสุดใจ อันเป็นภาพที่ไม่เหมือนเมื่อสิบกว่าปีก่อน
เห็นสภาพแล้วพบว่า ไฟคงไหม้ลามเร็วมาก ถามว่าทำไมไฟลามเร็วมาก เหตุผลก็คือมี “แอลกอฮอล์” ทั้งแบบน้ำและแบบเจลเป็นเชื้อให้อย่างดี
ญาติโยมรักห่วงใยสุขภาพหลวงพ่อสุดใจ จึงถวายกันมามากตามกำลังแห่งรักและศรัทธาปฏิปทาพระผู้งดงาม หวังว่าเชื้อโรคที่กำลังแพร่ระบาดจะได้ไม่เข้าใกล้หลวงพ่อ
โยมอุปัฏฐากที่เข้าไปดูแลท่านบอกว่า ประมาณสักสองวันก่อนเกิดเหตุได้ไปปัดกวาดกุฏิให้หลวงพ่อ เห็นแอลกอฮอล์ทั้งแบบน้ำและแบบเจลตั้งอยู่เป็นกล่องมากมายทีเดียว ซึ่งนั่นก็คือสิ่งที่ช่วยโหมเปลวไฟ
เมื่อสองวันที่แล้วแอร์เก่าๆ ที่กุฏิของหลวงพ่อเริ่มรวน สายไฟมีกลิ่นไหม้ ตามช่างให้มาซ่อมก็ยังไม่มา เพราะงานคงมากตามสภาวะอากาศที่ร้อน ก็เป็นไปได้ว่าแอร์ที่รวนเมื่อยังคงเปิดใช้ จึงเกิดไฟฟ้าช็อต ประกายไฟจึงเริ่มต้นขึ้น
บริเวณประตูเข้าสู่กุฏิหลวงพ่อ ด้านหน้าประตูจากคำบอกเล่าเป็นที่ตั้งของกล่องแอลกอฮอล์ที่มีผู้นำมาถวายกันมาก หลวงพ่อก็ตั้งไว้อย่างนั้น จุดนี้จะมีคราบไฟไหม้และร่องรอยเปลวเพลิงของเชื้อไฟมากที่สุดในที่เกิดเหตุ
“ศาลาน้ำร้อน” อยู่ไม่ไกลจากกุฏิของหลวงพ่อ ทำไมพระหนุ่ม-เณรน้อยที่อยู่ที่นั่นมาช่วยหลวงพ่อไม่ทัน เปลวไฟเริ่มต้นที่ด้านในของกุฏิที่ท่านพักกลางวันอยู่
ทั้งแอลกอฮอล์และหนังสือจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ประจวบกับกุฏิไม่เหมือนก่อน มีการปรับปรุงเสริมลูกกรงมั่นคงกว่าเก่า เมื่อเจอเพลิงไหม้จากภายในกุฏิ การช่วยเหลือจากภายนอกจึงเข้าสู่ภายในได้ยากขึ้นมาก
อย่างไรก็ตาม ผมทราบมาว่าพระที่ไปถึงกุฏิหลวงพ่อที่เกิดเหตุก่อนใครอื่น ท่านก็เข้าใจว่าหลวงพ่อสุดใจไม่ได้อยู่ภายใน ท่านไปเดินจงกรมอยู่ด้านนอกกุฏิ
วัดป่าบ้านตาดมิใช่บริษัทห้างร้าน จึงจะได้มีการซ้อมแผนเผชิญเหตุเพลิงไหม้ นักบวชในวัดจึงมิได้มีการฝึกซ้อมทักษะในเรื่องนี้ เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ขวาน ค้อน เพื่อรื้อทำลายจึงไม่ได้มีการตระเตรียมไว้เหล่านี้เป็นต้น
จึงอย่าได้แปลกใจที่ทุกชีวิตในวัดบ้านตาดจะรอรถดับเพลิงและนักดับเพลิง เมื่อมาถึงแล้วจึงได้ให้เข้ามาช่วยอุ้มร่างของหลวงพ่อที่เปลวไฟทำลายไปมากแล้วออกมาได้
ทำไมมี “ทองคำ” อยู่ในกุฏิของหลวงพ่อสุดใจ ทั้งที่นักบวชที่วัดบ้านตาดไม่สะสมของเหล่านี้อยู่แล้ว
ตามธรรมดาที่ผ่านๆ มาศรัทธาของญาติโยมจะเดินทางมาบริจาคทองคำเพื่อใช้สร้าง “เจดีย์หลวงตาบัว” จำนวนมาก ซึ่งทางวัดก็จะนำไปเก็บรักษาต่อไว้ที่ธนาคาร
แต่เนื่องจากสองสามเดือนมานี้ โดยเฉพาะเดือนเมษายน 2563 ที่ผ่านมา เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อย่างหนัก ส่งผลให้ศรัทธาในบุญเลยยังคั่งค้างอยู่ที่กุฏิหลวงพ่อ
เนื่องจากทุกๆ เดือนพนักงานธนาคารแห่งประเทศไทยจะเดินทางมารับทองคำไปจัดการต่อ แต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เวลานี้ทำให้ทางแบงก์ชาตินัดหมายขอมารับเดือนสิงหาคม 2563 ที่จะถึงนี้
เนื่องเพราะเจ้าหน้าที่ของแบงก์ชาติผู้รับผิดชอบเดินทางไปมาก็ไม่ได้ เพราะเงื่อนไขทั้งด้านการเดินทาง การตรวจคัดกรองและการต้องกักตัวมากมาย
ทั้งหลายทั้งปวงในฐานะสื่อมวลชน ในฐานะศิษย์วัดบ้านตาด ผมมีโอกาสร่วมรับฟังซักถามผู้อยู่ในเหตุการณ์ จึงนำมาสื่อสารต่อให้ญาติโยมคลายจิตใจข้อสงสัยแห่งโลกย์
ทั้งนี้ทั้งนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จ.อุดรธานี ก็กำลังสอบสวนรายละเอียดอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าหลังงานชำระสังขารหลวงพ่อสุดใจแล้วเสร็จน่าจะมีความกระจะกระจ่างในหลายเรื่องราว
ศรัทธาของพี่น้องประชาชนมายังวัดป่าบ้านตาดกันมาก ทางวัดเองอยากให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงนโยบายของรัฐบาลช่วงเชื้อโควิด-19 ยังแพร่ระบาดอยู่ การที่ญาติโยมมามากก็เห็นว่าไม่เหมาะสมต่อสภาวการณ์ที่เป็นอยู่
หลังการหารือของหมู่สงฆ์พระป่า ณ โคนไม้ราวป่ายามค่ำคืนขึ้น 2 ค่ำเดือน 7 จึงได้ข้อสรุปตรงกันว่า ให้จัดชำระสังขารให้หลวงพ่อสุดใจวันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2563 นี้
ศิษย์วัดป่าบ้านตาดรายงานจาก จ.อุดรธานี มาพร้อมเสียงจิ้งหรีดและจักจั่น