ศอ.บต.ยอมถอยเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการ “จะนะ เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” ในวันสุดท้ายก่อนการจัดงานที่แต่เดิมจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 14-20 พ.ค. ในพื้นที่ ต.ตลิ่งชัน ต.นาทับ และ ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา ให้เลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยอ้าง “โควิด-19” ยังระบาด และอยู่ในช่วงเดือนรอมฎอน
ยกนี้ ศอ.บต.แพ้กลับไปพร้อมได้รับบทเรียน และยังเกิดภาพการเปรียบ “เชิงมวย” ระหว่าง “ผู้บริหารหนุ่ม ศอ.บต.” กับ “เด็กสาวแห่งท้องทะเลจะนะ”
“จะนะ เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” เกิดขึ้นโดยมีการตั้งนิคมอุตสาหกรรมของภาคเอกชน บนที่ดินราว 10,800 ไร่ แบ่งเป็นของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้บริหารทีพีไอ กว่า 7 พันไร่ ที่ดินของ ปตท.ในนามบริษัท ไออาร์พีซีอีกกว่า 3 พันไร่ ซึ่งได้ยื่นเรื่องขอจัดตั้ง “นิคมอุตสาหกรรมจะนะก้าวหน้า” ไปยังสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) แล้ว รวมมูลค่าการลงทุนสูงถึง 6 แสนล้านบาท ภายใน 5 ปี หรือถึงปี 2565
ทำไมเร่งรีบถึงกับต้องทำปืนลั่น
เป็นที่รับรู้กันว่านับตั้งแต่ต้นปี 2562 คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มอบหมายให้ ศอ.บต.รับเป็นเจ้าภาพขับเคลื่อน “จะนะ เมืองต้นแบบฯ” ภาระหนักก็ตกอยู่บนบ่าของ “ดร.เจ๋ง-นายชนธัญ แสงพุ่ม” ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต.สมัยนั้น
เชื่อกันว่า “ดร.เจ๋ง” น่าจะเป็นผู้บริหารหน่วยงานรัฐที่มีอนาคตไกล เป็นไปได้มากที่จะไต่บันไดฝันไปได้ถึงตำแหน่ง “เลขาธิการ ศอ.บต.” เลยทีเดียว ด้วยวัยเพียง 40 ปีกว่าๆ ก็ยิ่งก้าวหน้าได้ โดยเพิ่งรับโปรโมตให้ขึ้นตำแหน่ง “รองเลาขาธิการ ศอ.บต.” ไม่กี่เดือนมานี้
เวลานี้มีภาพคณะทำงานของทีพีไอและของ ศอ.บต.ลงคลุกพื้นที่มาแล้วหลายเดือน โดยเฉพาะมีการตั้ง “สำนักงานขับเคลื่อนโครงการจะนะเมืองต้นแบบฯ” ไว้ในพื้นที่ ต.นาทับ โดยมีการประสานกับหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องพร้อมจัดเวทีรับฟังความเห็นไว้ครอบคลุมหมดแล้ว เหตุใดจึงต้องจัดเวทีระลอกใหม่ หรือยังมีประเด็นอื่นๆ ที่ต้องเร่งรีบทำ ถึงขั้น “ปืนลั่น” จัดเวที “ผ่าหมาก” ทั้งช่วงเดือนรอมฎอน และการแพร่ระบาดของ โควิด-19
มีเสียงร่ำลือหนาหูว่า เวทีรอบนี้เพื่อนำไปสู่การ “เปลี่ยนสีผังเมืองรวมจะนะ” จาก “สีเขียว” ด้านการเกษตร ให้เป็น “สีม่วง” รองรับการแจ้งเกิดนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
นายยืนยง ประสิทธิพรม อดีตผู้ช่วย ผอ.ศอ.บต. ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางผังเมือง ชี้ประเด็นว่า อีกไม่นานพื้นที่สีเขียวเกษตรกรรมจะถูกรุกคืบ ซึมลึกด้วยสีม่วงอุตสาหกรรม หาก ศอ.บต.ขืนดันทุรังนำผังนี้มาบังคับใช้ รังแต่จะสร้างความหายนะให้แก่ชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบด้าน
12 พ.ค. “เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น” เดินทางไปยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯ สงขลาให้ ศอ.บต.และนายกรัฐมนตรียุติเวทีและทบทวนโครงการ และบ่ายวันนั้นเอง ปรากฏว่า “น้องย๊ะ-น.ส.ไครียะห์ ระหมั่นยะ” ลูกสาวแห่งท้องทะเลจะนะ ได้ประกาศ “ปักหลักพักค้าง” นั่งรอข้างบันไดศาลากลาง จ.สงขลา จนกว่าจะได้คำตอบตามข้อเรียกร้อง ทั้งๆ ตัวเองก็ต้องอยู่ระหว่างอดอาหารในช่วงเดือนถือศีลอด ทำให้สังคมตื่นตัวอย่างทบเท่าทวีคูณต่อเนื่องจาก “ม็อบฟอร์มโฮม” ที่ทำไปก่อนหน้านี้
ในที่สุด บ่ายวันที่ 13 พ.ค. พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. จำต้องประกาศเลื่อนการจัดเวทีออกไปอย่างไม่มีกำหนด ด้วยข้ออ้างโรคติดเชื้อโควิด-19 ระบาด และอยู่ในช่วงเดือนรอมฎอน กลายเป็น “ความพ่ายแพ้ยกแรก” แบบหมดรูปเพียงแค่ยกแรกของแผนปลุกปั้น “จะนะ เมืองอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต”