ศูนย์ข่าวภาคใต้ - หวั่นพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดโควิด-19 ระบาดระลอก 2 เหตุคนไทยนับแสนคนในมาเลเซียแห่กลับบ้าน แต่ตัวเลขทางการกลับมีเพียงหมื่นกว่าคน ชี้ตลอดชายแดนไทย-มาเลเซีย มีช่องทางธรรมชาติมากมาย แค่นราธิวาสจังหวัดเดียวมี 108 ช่องทางตลอดแนวชายแดน 90 กม.
วันนี้ (11 พ.ค.) MGR Online ภาคใต้ จัด Live สด! #โควิดระลอกใหม่ อาจเกิดบน #ไฟใต้ระลอกใหม่ จริงหรือ?! การระบาดของ “โควิด-19 ระลอกใหม่” อาจเกิดบนแผ่นดิน “ไฟใต้ระลอกใหม่” โดยนายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทยและที่ปรึกษา ศอ.บต.
นายไชยยงค์ กล่าวว่า 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา จะเป็นพื้นที่สุดท้ายในการปลดล็อก อาจจะเกิดการะบาดระลอก 2 ได้อีก โดยมีสาเหตุหลายด้าน ทั้งการที่คนไทยในมาเลเซียลักลอบกลับเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ ซึ่งเริ่มจากที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ตอนนี้เริ่มลามมาที่ จ.สงขลาแล้ว ใน จ.นราธิวาส เป็นพื้นที่ที่น่ากลัว มีช่องทางที่จะลักลอบมากมาย ฝ่ายความมั่นคงให้ข้อมูลว่า แนวชายแดนไทย-มาเลเซียในพื้นที่ จ.นราธิวาส ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร มีช่องทางลักลอบเข้ามาได้ 108 จุด
“ตั้งแต่มาเลเซียปิดประเทศ มีตัวเลขคนไทยที่เข้าไปทำงานเป็นแสนคน วันนี้เรามาประมวลดูว่าที่กลับมาทั้งเข้าด่านถูกต้องและลักลอบเข้ามาไม่ถูกต้องมีประมาณหมื่นกว่าคน จาก 5 ด่าน ถามว่า ที่เหลือไปอยู่ที่ไหน เราเชื่อได้อย่างไรว่าไม่มีใครหนีกลับเข้ามาโดยไม่ถูกจับ ยิ่งรู้เขาว่า มาเลเซียปิดประเทศถึงวันที่ 9 มิ.ย. หลายคนอยากกลับ คนเหล่านี้จะพยายามกลับเข้ามา เจ้าหน้าที่จะตรึงกำลังได้ตลอด 24 ชม.จริงหรือไม่ ยังมีเส้นทางเดินป่าอีกหลายเส้นทาง ถ้ากลับมาแล้วกลับไปบ้านเลยไม่ได้กักตัว วันนี้ นราธิวาสทั้งถูกต้องและหลบหนีมีแค่ 4,000 กว่าคนเท่านั้น สงขลาวันหนึ่ง 100 คน แล้วตอนนี้ตัวเลขรายวันก็หายไป จังหวัดก็ไม่แถลง เมื่อก่อนแถลงว่า วันนี้ ผ่านกี่คน” นายไชยยงค์ กล่าว
นายไชยยงค์ กล่าวว่า ในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อยมีช่องทางเดินป่าที่ขี่จักรยานยนต์ได้ กลุ่มคนล่าสัตว์ใช้เส้นทางนี้เข้าออกไทย-มาเลเซีย ในอดีต ทุกปีมีคนไทยหลงเข้าไปแล้วถูกทางการมาเลเซียจับ วันนี้ คนใน 4 อำเภอของ จ.สงขลา โดยเฉพาะคนใน อ.จะนะ เข้าไปทำงานในมาเลเซียผ่านช่องทางที่ อ.สะบ้าย้อยกันมาก บางคนมีหนังสือเดินทาง หลายคนไปโดยไม่มีหนังสือเดินทาง 2-3 วันกลับมาที กลายเป็นเรื่องปกติที่เจ้าหน้าที่ก็รับรู้ ส่วนในพื้นที่ จ.ยะลาก็ข้ามไปมาได้ แต่เป็นเส้นทางโจร ชาวบ้านไม่ใช้
นายไชยยงค์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการของแต่ละจังหวัดในขณะนี้ จ.ยะลาเข้มแข็ง ทำในแบบเชิงรุก ออกไปค้นหา ไปหาผู้ติดเชื้อออกมาให้หมด จึงทำให้ตัวเลขเพิ่มขึ้นได้ทุกวัน ถือว่าผู้ว่าฯ ยะลาเป็นคนที่กล้า ไม่กลัวที่จะให้จังหวัดตัวเลขมากขึ้น ในขณะที่ปัตตานีประกาศล็อกอำเภอที่มีผู้ติดเชื้อ เช่น อ.ยะรัง และทุ่งยางแดง แต่ตอนหลัง จ.ปัตตานีก็ไม่ได้ทำเชิงรุก ส่วนที่ จ.นราธิวาส เราเบาใจว่าที่กลับจากมาเลเซีย หากควบคุมตัว ผู้ติดเชื้อจะน้อย แต่ไม่มีการทำงานในเชิงรุก มีแต่ทำงานในเชิงประชาสัมพันธ์
“ล่าสุด เรื่องไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายที่ 35 สสจ.นราธิวาสไม่ออกมาแถลงให้ชัดเจน วันนี้ก็มีอีกที่ อ.แว้ง เราก็ไม่เห็นรายละเอียดว่าในพื้นที่นี้ สสจ.นราธิวาส และฝ่ายปกครองได้ทำอะไรบ้าง เช่น ทำเชิงรุกแบบยะลา ปิดพื้นที่แบบปัตตานีที่เข้มข้นหรือไม่” นายไชยยงค์ กล่าว
