ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผบ.ฉก.ทพ.48 เน้นย้ำกำลังพลให้ตรึงกำลังช่องทางธรรมชาติสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส อย่างหนาแน่น หลังพบคนไทยต้องการเดินทางกลับบ้านก่อนช่วงเทศกาลฮารีรายอจำนวนมาก
วันนี้ (7 พ.ค.) ที่ริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก แนวชายแดนไทย-มาเลเซีย บ้านบือเร็ง หมู่ 8 ต.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พ.อ.เอกพล เลขนอก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ลงพื้นที่เข้ารับตัวผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพิ่ม จำนวน 42 คน หลังพบเป็นแรงงานไทยที่ทำงานในประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และคาดว่าจะมีการเดินทางผ่านช่องทางดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ก่อนถึงเทศกาลฮารีรายอที่กำลังจะถึง
ในการนี้ ได้กำชับกำลังพล กองร้อยทหารพรานเชิงรุก หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ตรึงกำลังอย่างหนาแน่น รวมทั้งเพิ่มการลาดตระเวนอย่างเข้มข้น ในช่วงก่อนเทศกาลฮารีรายอ และกำชับเจ้าหน้าที่ให้ดูแลประชาชนเป็นไปตามระบบ แม้จะเข้ามาแบบผิดกฎหมายหากแต่เป็นคนไทย โดยการดำเนินการให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมายบ้านเมืองต่อไป
พ.อ.เอกพล เลขนอก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 กล่าวว่า ปัจจุบันยังคงมีพี่น้องประชาชนคนไทยจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้ลงทะเบียนในการเดินทางเข้าประเทศไทย และได้ลักลอบข้ามมาทางด่านธรรมชาติ บางส่วนถูกหลอกเพราะคิดว่าการเสียค่าใช้จ่ายไปจะเป็นการเดินทางโดยถูกกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ได้จัดกำลังในการดูแลด่านธรรมชาติอย่างเต็มที่ โดยได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ในการตรึงกำลัง พร้อมลาดตระเวนอย่างต่อเนื่องก่อนช่วงเทศกาลฮารีรายอ เพื่อเป็นการดูแลป้องกันไม่ให้มีการเดินทางเข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมาย ด้วยการลักลอบผ่านช่องทางธรรมชาติ ซึ่งคาดว่าจะมีแรงงานไทยเดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติอีกเป็นจำนวนมาก โดยขอให้ผู้ที่ต้องการเดินทางกลับมายังประเทศไทยปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย อย่าหลงเชื่อนายหน้า เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้เป็นไปตามมาตรฐานสาธารณสุข และเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศไทย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำแรงงานไทยทั้งหมดมายังจุดคัดกรองด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ที่คนไทยกลุ่มนี้อาศัยอยู่ให้มารับตัวที่ด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก โดยเจ้าหน้าที่แต่ละจังหวัดจะทำการกักตัวเพื่อดูอาการ 14 วัน ตามศูนย์ Local Quarantine เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตามกระบวนการควบคุมโรคระบาด อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งการดูแลเบื้องต้นก็เป็นไปตามระบบมาตรฐานสากล
