xs
xsm
sm
md
lg

กักตัว 14 วัน คนออกจากภูเก็ตกลับบ้านเกิดอยู่กันอย่างไร

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หลากหลายประสบการณ์คนออกจากภูเก็ตกลับบ้านเกิด มีทั้งที่ได้รับการต้อบรับดูแลดี จัดสถานที่กักกันตัวไว้รองรับพร้อมสรรพ ขณะที่ยังมีบางพื้นที่บางคน ที่ได้รับผลกระทบจากคนรอบข้างที่มองอย่างรังเกียจ



จากกรณีคนต่างจังหวัดที่เข้ามาอาศัยและทำงานอยู่ในจังหวัดภูเก็ต ขอเดินทางกลับบ้านเกิดเนื่องจากได้รับความเดือดร้อนไม่มีงาน ไม่มีเงิน เพราะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด โดยเฉพาะตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.เป็นต้นมาจนถึงขณะนี้เชื่อว่ามีการเดินทางออกไปแล้วจำนวนมาก

แต่การเดินทางกลับไปบ้านเกิดของแต่ละคนจะได้รับการตอนรับของคนในพื้นที่และหน่วยงานราชการไม่เหมือนกัน บางจังหวัด เช่น นครพนม อุดรธานี มีการจัดรถมารับ หลังจากนั้นจะมีการจัดสถานที่ในการคัดกรองและจัดหาที่พักเพื่อกักตัว ซึ่งหลายคนต่างก็พอใจ บ้างส่วนหลังจากตรวจสอบพบว่าไม่มีได้มาจากพื้นที่เสี่ยงก็จะปล่อยให้กลับบ้านแต่จะต้องกักตัวเองที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน ขณะที่บ้างคนระบุว่า การเดินทางกลับมาบ้านเกิดในครั้งนี้ กลายเป็นคนสังคมรังเกียจ โดยเฉพาะจากคนในชุมชนที่มองเหมือนเป็นตัวเชื้อโรค

นางสาว นาเดีย ไมหมาด อ.36 ปี บ้านอยู่ ม.1 ต.คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า ได้เดินทางกลับมาจาก จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่าน อยู่ใน ต.ไม้ขาว อ.ถลาง ซึ่งไม่ใช่เป็นพื้นที่เสี่ยง หลังจากกลับมาถึงบ้าน ก็มีเจ้าหน้าที่ อสม.ในพื้นที่ เข้ามาสอบถาม และ ทำการคัดกรอง พร้อมกับนำตัวไปตรวจหาเชื้อ ที่ รพ.กระบี่ โดยหลังจากที่ตรวจเสร็จ ทาง จนท. ได้อนุญาตให้กลับมากักตัวที่บ้าน 14 วัน โดยอยู่ในความดูแล ของ อสม. อย่างใกล้ชิด

หลังจาก ที่กลับมาอยู่บ้าน คนรอบข้างก็ ไม่มีท่าทีที่ผิดปกติแต่อย่างใด เนื่องจากเข้าใจดี ว่าตนไม่ใช่ผู้ป่วย และ ไม่ใช่ตัวนำเชื้อโรค เพราะก่อนที่จะกลับมา ที่จังหวัดกระบี่ ตอนที่อยู่ ใน ต.ไม้ขาว ก็ได้มีการกักตัว นานกว่า 1 เดือนแล้ว เพราะไม่ได้ไปไหน และหลังจาก ที่ จ.ภูเก็ต เปิดด่านให้กลับบ้าน ก็ได้เดินทางกลับทันที

นางสาวนาเดีย ยังได้กล่าวด้วยว่า ยอมรับว่า ไวรัสโควิด มีผลกระทบการประกอบอาชีพ ค้าขาย อย่างมาก และได้ลงทะเบียน ไม่ทิ้งกัน รับการช่วยเหลือ 5 พันบาท แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับ


ด้านนางสาวอิสริน ไร่ใหญ่ น้าสาว และ จนท.อสม.กล่าวว่า หลังจากที่ นางสาวนาเดีย กลับมาถึงก็ได้แนะให้เข้าสู่ขบวนการตรวจหาเชื้อเพราะอย่างน้อยก็สร้างเชื่อมั่นให้กับคนใกล้ชิด ว่าปลอดเชื้อโควิด 19 อย่างแน่นอน ส่วนในพื้นที่เองก็ไม่มีใครรังเกียจและเข้าใจ สำหรับการเข้าสู่ขบวนการตรวจเชื้อโควิด 19 ทางโรงพยาบาลตรวจให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

ขณะที่ชาวบ้านในจังหงัดชุมพร โดยโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงประสบการณ์ในการเดินทางกลับบ้านของลูกชายและลูกสะใภ้ที่กำลังท้อง 7 เดือน การกลับบ้านในครั้งนี้สร้างความดีใจให้กับลูกๆหลังจากพยายามที่จะเดินทางกลับมาหลายครั้ง โดยทั้ง 2 ตัดสินใจขับ รถมอเตอร์ไซค์มาจากภูเก็ต ระยะทางประมาณ 400 กว่ากิโล เมื่อกลับถึงบ้านก็เข้าสู่ระบบการกักตัว โดยมีผู้ใหญ่บ้านและ อสม.เข้ามาดูแลให้คำแนะนำขณะที่คนรอบข้าง คนในชุมชนก็ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจ แม่แต่ท่านนายอำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร ยังได้โทรศัพท์มาสอบถามด้วยตัวเอง และบอกว่าจะมาเยี่ยมที่บ้านเพื่อให้กำลังใจด้วย

ส่วนที่จังหวัดยโสธร คนที่เดินทางกลับจากจังหวัดภูเก็ตเข้ากักตัวในห้องพักที่ทางจังหวัดจัดไว้ใหญ่ซึ่งเป็นห้องพักที่มีความพร้อม เช่นเดียวกับที่ จ.หนองบัวลำพู เมื่อคนที่เดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ตไปถึง ก็จะมีเจ้าหน้าที่ อสม. มาตรวจวัดไข้ และแนะนำให้เข้าสู้ระบบกักตัวเป็นเวลา 14 วัน

ด้านประชาชนชาวจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ต ระบุว่าทางเจ้าหน้าที่โทรหาตั้งแต่ก่อนออกจากจังหวัดภูเก็ต และมีการสอบถามตลอดเส้นทาง เมื่อไปถึงได้รับการดูแลดีมากทั้งเรื่องกินอยู่ ที่หลับที่นอน อำนวยความสะดวกทุกอย่าง


ขณะที่จังหวัดพิชิต นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้สั่งการให้เฝ้าระวังทหารปลดประจำการและบุคคลที่เดินทางออกมาจากจังหวัดภูเก็ต รวมถึงผู้ที่มาจากจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 จาก 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัด กรุงเทพ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี ยะลา สงขลา ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และปัตตานี โดยถ้ามีใครมาจากจังหวัดเหล่านี้ให้ดำเนินการพาตัวไป ณ สถานที่กักกันทุกรายโดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งสถานที่กักกันทางจังหวัดพิจิตรได้ดำเนินการเช่าโรงแรมมอนเทอเรย์ พาร์ค รีสอร์ท ซึ่งตั้งอยู่ที่เขานกยูง ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ให้เป็นที่พักเป็นที่กักกันตัว 14 วัน โดยผู้ที่ถูกกักกันจะได้รับที่พักเป็นห้องพักแบบรีสอร์ทหรูหราติดแอร์ มีห้องนอน ทั้งเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ และบ้านพักเป็นหลังที่อยู่ได้ทั้งครอบครัวมี 3 เตียง มีบริการอาหารฟรี 3 มื้อ ภายในห้องพักมีทีวี ตู้เย็น และWifi ไว้บริการให้ด้วย

แต่อย่างไรเก็ตาม นอกจากนั้นยังมีบางจังหวัดที่ผู้ที่เดินทางกลับจากจังหวัดภูเก็ตได้พบและถือว่าเป็นประสบการที่ไม่ดีเท่าไหร่และมีการโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ประสบการที่คนที่เดินทางกลับบ้านพบถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีเลย แค่แวะซื้อของแถวบ้านเข้าร้านที่เคยชื้อประจำ คนขายจำได้ว่าเคยทำงานที่ภูเก็ต ไล่ออกจากร้านทันที ทำแบบรังเกียจ

ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกหลายที่แม้แต่คนในภาคใต้ด้วยกัน โดยหญิงสาวรายหนึ่งระบุว่า เดินทางกลับบ้านพร้อมสามีซึ่งเป็นคนจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ โดยตัวเองถือบัตรประจำตัวคนจังหวัดภูเก็ต ทางจังหวัดเลยไม่ให้ไปกักตัวในสถานที่ที่เค้าจัดไว้ เลยต้องกลับมากักตัวในกระท่อมซึ่งอยู่ในบริเวณบ้านแม่ของสามี แต่ก็ไม่วายถูกคนรังเกียจ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะตนกับสามีเท่านั้นแต่รวมไปถึงครอบครัวของสามีด้วย เพียงแค่เราเป็นคนที่เดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ตเท่านั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น