สุราษฎร์ธานี - ชาวบ้านเผยมีขบวนการสร้างมลทินให้พระนักพัฒนา หลังถูกฝ่ายปกครองอำเภอท่าชนะ ยิงมรณภาพ อ้างวิสามัญ พร้อมร้องเรียนว่าพระครอบครองไม้เถื่อน ในขณะที่กรรมการสำนักสงฆ์แจงเป็นไม้ฝังดิน
จากกรณีผู้ใหญ่บ้าน ม.9 ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงพระชลธาร ถาวโร กาญจนบุตร อายุ 49 ปี หัวหน้าพุทธอุทยาน สำนักสงฆ์ถ้ำเขาเพ-ลา อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี พระนักพัฒนาชื่อดังของ จ.สุราษฎร์ธานี มรณภาพคาที่ เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด มีผู้นำชุมชนร้องเรียนต่อตำรวจท่าชนะ และมีการปล่อยข่าวว่าพระชลธาร มีการครอบครองไม้เถื่อนที่เป็นไม้แปรรูปและไม้ท่อนจำนวนมาก วันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำนักสงฆ์ถ้ำเขาเพ-ลา อีกครั้ง โดยขณะนี้มีพระประจักษ์ อายุ 42 ปี ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าคณะตำบลสมอทอง ให้มารักษาการที่สำนักสงฆ์ถ้ำเขาเพ-ลา โดยสภาพทั่วไปของสำนักสงฆ์ยังคงปกติไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าชนะและชาวบ้านแวะเวียนเข้ามาดูแลเป็นระยะๆ
กลุ่มชาวบ้านและกรรมการสำนักสงฆ์ กล่าวว่า กรณีที่มีการปล่อยข่าวว่าพระชลธาร ครอบครองและแปรรูปไม้เถื่อนนั้นขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เป็นการใส่ความของผู้ที่ไม่หวังดีกับพระ ตลอดเวลา 11 ปี ที่พระชลธาร มาประจำที่สำนักสงฆ์ถ้ำเขาเพ-ลา แห่งนี้ มีแต่ชักชวนชาวบ้านให้ปลูกต้นไม้ ส่วนไม้ที่พบในสำนักสงฆ์เป็นไม้ที่ล้มหมอนนอนไพร และไม้ที่จมน้ำขวางคลองมานานหลาย 10 ปี
บางต้นเป็นไม้เนื้อแข็ง ซึ่งพระชลธาร เห็นว่าควรจะนำมาใช้ประโยชน์ดีกว่าปล่อยให้ผุพังทิ้งไป จึงไปขออนุญาตต่อเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อขอใช้ประโยชน์ เพื่อจัดสร้างซุ้มทางขึ้นหอสมุดพุทธทาส ที่มีลักษณะคล้ายๆ กับสวนโมกขพลาราม และที่สำคัญท่านพุทธทาสเคยมาจำวัดที่ถ้ำเขาเพ-ลาแห่งนี้อีกด้วย โดยสภาพถ้ำเขาเพ-ลา มีต้นไม้จำนวนมากคล้ายๆ กับสวนโมกข์ จึงได้หารือกับผู้ใหญ่ในสวนโมกข์ และชาวบ้านในพื้นที่สร้างหอสมุดพุทธทาสขึ้นมา ตอนนี้แล้วเสร็จไปแล้วกว่า 70% ซึ่งไม้ที่เหลืออยู่นี้ชาวบ้านเตรียมทำต่อให้เสร็จ ยืนยันว่าไม้ทุกชิ้นพระชลธาร ไม่ได้ตัดต้นไม้แต่อย่างใด มีแหล่งที่มาชัดเจน สามารถชี้จุดที่มาของไม้ได้ทั้งหมด