ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คนไทยที่ตกค้างในประเทศมาเลเซีย ยังคงทยอยเดินทางกลับประเทศทางด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ท่ามกลางการคัดกรองที่เข้มข้น หนึ่งในคนไทยที่ได้กลับมาเผยดีใจเพราะอยู่ในมาเลเซียลำบากมาก
บรรยากาศที่ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเปิดให้คนไทยที่ตกค้างอยู่ในประเทศมาเลเซีย เดินทางกลับเข้ามาเป็นวันที่ 2 แทนการเข้ามาทางด่านพรมแดนสะเดา ที่ถูกปิดชั่วคราว 7 วัน จนถึงวันที่ 29 เม.ย.นี้ หลังพบเจ้าหน้าที่ ตม.สะเดา และผู้ใกล้ชิดติดเชื้อโควิด-19 แล้วจำนวน 7 คน
โดยในวันนี้ (24 เม.ย.) ยังคงมีคนไทยทยอยเดินทางกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มียอดผู้ลงทะเบียนไว้ 106 คน โดยเดินทางมารออยู่ที่ประตูด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ ตั้งแต่เช้าก่อนเปิดด่าน และทันทีที่เจ้าหน้าที่ไขกุญแจด่านในเวลา 08.30 น. ก็เริ่มเดินทางเข้ามาทันที และยังคงมีระบบคัดกรองที่เข้มงวดทุกคน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดทุกขั้นตอน งดการสัมผัสตัว หากอาการไม่เข้าข่ายเฝ้าระวังก็จะถูกส่งกักตัว 14 วัน ที่ศูนย์กักตัวที่เตรียมไว้ แต่หากมีอาการผิดปกติก็จะถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลปาดังเบซาร์ และโรงพยาบาลสะเดาทันที
จากการสอบถาม น.ส.โรสนีซา ตาเยะ หนึ่งในคนไทยที่เดินทางกลับเข้ามาในวันนี้ บอกว่า อยู่ที่รัฐเปรัก ประเทศมาเลเซีย ดีใจมากที่ได้เดินทางกลับเข้ามา เพราะอยู่ในมาเลเซียลำบากมาก หลังจากที่มาเลเซียประกาศปิดประเทศมากว่า 1 เดือน อนุญาตให้ออกไปข้างนอกได้แค่คนเดียว และคนไทยในหลายๆ รัฐ โดยเฉพาะที่รัฐเกดะห์ลำบากมาก และอยากกลับประเทศ เนื่องจากทางการมาเลเซีย ประกาศขยายเวลาปิดประเทศออกไปอีก และขอให้ทางสถานกงสุลไทยในมาเลเซีย ช่วยแก้ไขเรื่องการลงทะเบียนออนไลน์ เพราะค่อนข้างทำยากมาก และระบบเออเร่อ
ส่วนจำนวนผู้ที่เข้ารับการกักตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสะเดา ซึ่งเป็นผลพวงมาจากเจ้าหน้าที่ ตม.สะเดา ติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้มีทั้งหมด 90 ราย แยกเป็นเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา 81 ราย และผู้เข้าข่ายเฝ้าระวังอีก 9 ราย ซึ่งเป็นคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย