ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาบงการฆ่าอดีตหัวหน้าสำนักงานที่ดินอำเภอคลองหอยโข่งพร้อมเมีย 2 ศพ คาบ้านพักในสวนปาล์มได้แล้ว หลังหนีคดีมา 4 ปีเต็ม และถูกจับกุมได้ตรงกับวันเกิดเหตุ 23 เมษายน 2559 พอดิบพอดี
วันนี้ (23 เม.ย.) พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.สส.ภ.9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.บรรพต เดชมา ผกก.สส.4 บก.สส.ภ.9, พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา และ พ.ต.ท.พงษ์สวัสดิ์ อินทรศร รอง ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ภาค 9 และ ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา เข้าตรวจค้น และจับกุม นายสมภพ จิตรนุ่ม หรือ แข้ง อายุ 28 ปี ได้ที่บ้านพักเลขที่ 8/1 ม.7 ต.ควนรู อ.รัตภูมิ จ.สงขลา
ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา ในคดีผู้บงการฆ่า นายกฤษณ์ สราญเศรษฐ์ อายุ 63 ปี อดีตหัวหน้าสำนักงานที่ดินอำเภอคลองหอยโข่ง จ.สงขลา และ นางสุทินา หนูคง อายุ 45 ปีภรรยา โดยทั้งคู่ถูกยิงเสียชีวิตพร้อมกัน 2 ศพ ภายในบ้านพัก ซึ่งตั้งอยู่ในสวนปาล์มพื้นที่บ้านทุ่งเลียบ หมู่ 1 ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อคืนวันที่ 23 เมษายนปี 2559
โดยผู้ต้องหาได้หนีคดีมา 4 ปีเต็ม แต่สุดท้ายก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่ 23 เมษายน ตรงกับวันเกิดเหตุพอดี และครบรอบ 4 ปีเต็มของคดีนี้ และ นายสมภพ ก็เป็นอดีตคนงานในสวนปาล์มของผู้ตายด้วย
โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2559 เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุได้แล้ว 3 คน จากทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย นายสุทธิพงศ์ หรือ จา จตุธรรม อายุ 29 ปี, นายนรินทร์ หรือ เดียร์ หลงแก้ว อายุ 29 ปี และ นายยศพล หรือ โจ๊ก พรหมอ่อน อายุ 27 ปี และให้การซัดทอดว่า นายสมภพ เป็นคนวางแผนและบงการปล้นฆ่าเอง
จากการสอบสวน นายสมภพ ก็ยอมรับสารภาพในชั้นการจับกุมว่า ในคืนเกิดเหตุได้ชักชวนเพื่อนที่ถูกจับกุมไปแล้วเข้าทำการปล้นทรัพย์ที่บ้านเกิดเหตุ โดยตนใช้อาวุธปืนพกสั้น .357 ยิงภรรยาบริเวณหน้าห้องนอน 1 นัด และวิ่งตามไปยิงในห้องนอนอีก 1 นัด จนเสียชีวิต
ส่วนเพื่อนอีกคนได้ใช้อาวุธปืนสงคราม M-16 ยิงสามี แล้วหลังจากนั้นก็ช่วยกันรื้อค้นเอาทรัพย์สินของผู้ตายไปเป็นเงินสดจำนวน 218,000 บาท และโทรศัพท์ รวมทั้งทรัพย์สินอื่นๆ โดยตนได้ส่วนแบ่งเป็นเงินสด 100,000 บาท ส่วนที่เหลือเพื่อนอีก 3 คน นำเงินที่เหลือไปแบ่งกัน
ผู้ต้องหาเผยอีกว่า มีมูลเหตุจูงใจมาจากการที่ผู้ตายหักเงินค่าแรงเพราะหยุดงาน ตนจึงได้ชวนเพื่อนวางแผนปล้นฆ่าปิดปากดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืนและเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิด หรือรับของโจร, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันเร่งด่วนตามพฤติการณ์
และควบคุมตัวส่ง สภ.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ดำเนินคดี และเป็นการปิดฉากคดีนี้ได้สำเร็จ แม้จะผ่านมา 4 ปีเต็ม และวันที่ก่อเหตุกับวันที่ถูกจับกุมก็เป็นวันที่ 23 เมษายน เหมือนกัน และเชื่อว่า มาจากเวรกรรมที่ก่อไว้
นอกจากนี้ นายสมภพ ยังเคยต้องคดีพยายามฆ่าผู้อื่นในท้องที่ สภ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยใช้อาวุธปืน M-16 ซึ่งเป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ปล้นฆ่าสองผัวเมีย โดยยิงใส่บ้านผู้อื่นเมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2559 แต่คดีนี้ยังให้การปฏิเสธ
