แกะคำ "ผู้ว่าฯ" ตม.สะเดาส่อติดจาก "ต่างด้าว" ที่ยังไม่ระบุตัวตน (ชมคลิป)

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - แกะคำแถลงผู้ว่าฯ สงขลา หา "ไทม์ไลน์" ตม.ด่านสะเดา ทำเพื่อนติดเชื้อเป็นพวง ต้นตอจากไหน 3 วันไม่ซ้ำกันจากปัตตานี-พฤติกรรมส่วนตัว-ทำงาน สุดท้ายลงที่ "ต่างด้าว " แต่กลับไร้ที่มา

วันนี้ (22 เม.ย.) นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผวจ.สงขลา แถลงร่วมกับ นพ.อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา และ พ.ต.อ.มานะ นาคทั่ง รอง ผบก.รรท.ผกก.ตม.จังหวัดสงขลา ถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ของ จ.สงขลา ซึ่งล่าสุด พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 6 รายในช่วงวันที่ 20-22 เม.ย.

นายจารุวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 เม.ย.พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นมา 1 คน เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา เราจึงได้สอบสวนโรคพบกลุ่มความเสี่ยงสูงที่ร่วมทำกิจกรรมกันติดเชื้อเพิ่มอีก 1 คน ในวันที่ 21 เม.ย. ถือเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 38 และ 39 ของ จ.สงขลา และวานนี้เราเพาะเชื้ออีก 36 ราย ผลออกเป็นบวก 4 ราย รวมทั้งหมด 6 ราย เป็นตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. 5 คน เป็นตำรวจภูธร จ.สงขลา 1 คน นั่นคือ คนแรกแพร่เชื้อให้เพื่อนที่นั่งกินข้าวด้วยกัน และเพื่อนร่วมห้องนอน แค่ 2 คน ส่วนคนที่เหลือคือต่อจากนั้นยังไม่ถือว่าเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ และขณะนี้รอผลการเพาะเชื้อของบุคคลที่ทำงานร่วมกันอีก 60 กว่ารายที่จะทราบผลในวันพรุ่งนี้ และจะขยายไปยังครอบครัวที่อาจจะมีบางคนกลับไปเยี่ยมครอบครัว กลับไปบ้าน แต่ส่วนใหญ่จะพักอยู่สะเดา อาจมีแค่คนเดียวที่กลับไปบ้าน เราได้ไปดำเนินการกักตัวคนใกล้ชิดในครอบครัวแล้ว

“หลายๆ ท่านอาจจะมีความสงสัยว่า คนแรกที่เราเจอเขาไปติดเชื้อมาจากไหน ทำไมจึงติดเชื้อ ผมขอเรียนว่า ในการสอบสวนครั้งแรก คณะแพทย์ก็ยอมรับว่า ยังหาต้นสายปลายทางยังไม่เจอ เพราะเราก็สับสนว่าทำไมจึงติดเชื้อเข้ามาได้ ก็เพ่งเล็งไปในหลายพื้นที่ คนแรกที่ติดเชื้ออธิบายไม่ได้ทั้งหมด อธิบายแค่ที่ตัวเองไปทำกิจกรรม แต่ไม่ได้อธิบายรายละเอียดที่ไปในที่ต่างๆ จึงทำให้พอสรุปผลออกมาเป็นเรื่องของพฤติกรรมโดยทั่วไปของเขา แต่วันนี้ ทีมแพทย์ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า น้องคนนี้เขากลับบ้านที่ปัตตานีจริง แต่ว่าไม่ได้เอาโรคจากปัตตานีมา เพราะลูกเมียครอบครัว ผลเป็นลบ ดังนั้น ตอนที่เขาไปปัตตานี เขาไม่ได้ติดเชื้อ แต่พอเขากลับมาทำงาน วันที่ 15 เม.ย.ต้องไปดูแลคนต่างด้าว ซึ่งเป็นคนจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่เราเตรียมตัวส่งกลับประเทศ ปรากฏว่า มีที่ต้องพูดคุยใกล้ชิด ซึ่งเพิ่งได้รับแจ้งวันนี้ว่า หลังจากส่งตัวกลับไปแล้ว คนนั้นติดเชื้อโควิด-19 ในกรณีนี้ ทีมแพทย์จึงพบต้นทางว่าติดเชื้ออย่างไร นั่นคือ คนแรกติดเชื้อจากการไปปฏิบัติหน้าที่ มีข่าวบางกระแสว่า เกิดจากรถที่ผ่านข้ามแดน บางข่าวว่าตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. ซึ่งแพทย์บอกว่า ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะถ้าตั้งแต่วันนั้น เขาไปอยู่บ้าน 3 วัน แฟนเขาลูกเขาต้องติด แต่ไม่ติด และระยะเวลาทิ้งห่างเกินไป” ผวจ.สงขลา กล่าว

นายจารุวัฒน์ กล่าวว่า หลังจากพบว่ามีการติดเชื้อ โดยหลักการว่ามีความเสี่ยงสูงที่เชื้อยังอยู่ จึงหารือกันว่าควรปิดสถานที่ทำความสะอาด อบฆ่าเชื้อภายในทั้งหมด ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3-5 วัน จึงได้นำเรียนส่วนกลางว่ามีความจำเป็นต้องปิดด่านสะเดา ซึ่งในส่วนด่านสะเดามี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ใช้รับคนไทยกลับมาจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย. และส่วนของรถสินค้าที่เปิดมาก่อนหน้านี้ หารือกับ ตม.ว่า เรามีอาคารให้รถสินค้าต่างหาก จึงไม่กระทบเรื่องการส่งสินค้า และวันนี้เราโชคดีที่ ผบ.สส.มาตรวจงานพอดีและได้ช่วยโทรศัพท์ไปที่ส่วนกลาง ซึ่งส่วนกลางได้เห็นชอบให้ปิดด่านสะเดาชั่วคราว 7 วันเฉพาะส่วนที่นำคนเข้ามาจากมาเลเซีย โดยให้ย้ายไปที่ด่านปาดังเบซาร์แทน เริ่มจากพรุ่งนี้เป็นต้นไป

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยรายแรก เมื่อวันที่ 17 เม.ย. อยู่เวรที่ ตม.สะเดา ไม่ได้สัมผัสใครมากนัก วันที่ 18 เม.ย.เริ่มป่วยมีอาการไข้ และวันที่ 19 เม.ย.ไป รพ.สงขลานครินทร์ ดูแลตัวเองดี รีบไปรักษาตัว ซึ่งเราได้ดูไทม์ไลน์ของการปฏิบัติตัว ระยะเวลาที่เดินทางไปไหนบ้าง ในที่ทำงานของเขามีกลุ่มเสี่ยง 20 กว่าราย จึงนำมาตรวจเมื่อวันที่ 21 เม.ย. เจอ 1 ราย ตรวจซ้ำเจอ ตร.ตม. 4 ราย ซึ่ง 3 คนอาการปกติ มีรายหนึ่งเป็นผู้หญิงมีไข้สูง ทั้ง 4 คนรับการรักษาที่ รพ.สงขลานครินทร์ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ไปสอบสวนเพิ่มเติมและเพาะเชื้อบุคลากรของด่าน ตม.ทั้งหมด วานนี้ทำไปอีก 48 ราย วันนี้อีก 20 กว่าราย จะทำให้ครบทั้งหมด 110 รายเพื่อความมั่นใจ