ตรัง - นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง เผยตรังไร้ผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นวันที่ 14 แล้ว และมาตรการต่างๆ ได้ผลดี เตรียมเสนอคลายล็อกจังหวัดหลัง 30 เม.ย. แต่ยังต้องคงด่านคัดกรองอย่างเข้มข้น และควบคุมเรื่องสุขนิสัยส่วนบุคคลต่อไป
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง นพ.บรรเจิด สุขพิพัฒปานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง ผู้บัญชาการเหตุการณ์ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุข (EOC) สสจ.ตรัง กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ซึ่งประกอบด้วยหลายกลุ่มภารกิจ เช่น กลุ่มภารกิจตระหนักรู้สถานการณ์ กลุ่มภารกิจสื่อสารความเสี่ยง กลุ่มภารกิจดูแลรักษาผู้ป่วย กลุ่มธุรกิจด่านกักกัน เป็นต้น เพื่อสรุปสถานการณ์และแนวโน้มการของโรค การเตรียมความพร้อมของ รพ.สนาม สรุปทรัพยากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข และแลกเปลี่ยนปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะของกลุ่มภารกิจต่างๆ
นพ.บรรเจิด สุขพิพัฒปานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง กล่าวว่า จังหวัดตรังในขณะนี้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 7 ราย และไม่มีผู้ป่วยรายใหม่มานาน 14 วันแล้ว โดยทั้ง 7 ราย นำเข้าจาก จ.ภูเก็ต 3 ราย จากประเทศฟิจิ 2 ราย และเป็นแพทย์ 2 ราย ซึ่งพบเชื้อเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และผ่านมานานนับเดือนแล้วปรากฏว่า ไม่มีผู้ป่วยต่อเนื่องอย่างใด แต่จากผลที่ออกมาจากการที่ผู้ติดเชื้อนำเข้าเกือบทั้งหมดก่อนหน้านั้น ทำให้จังหวัดตรังต้องออกคำสั่งเด็ดขาดเรื่องการปิดจังหวัดตั้งแต่วันที่ 10-30 เมษายน และไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าพื้นที่โดยการซีลรอบแนวชายแดน ยกเว้นคนที่ได้รับการยกเว้น และต้องเข้ามาถูกต้องตามขั้นตอน
มาถึงเวลานี้คาดว่าในวันที่ 30 เมษายน ที่ครบกำหนด เตรียมหารือผ่อนคลายในคำสั่งดังกล่าว ส่วนตัวขอให้การสกรีนคนเข้าผ่านด่านจำเป็นจะต้องคงไว้อยู่ และจากหลักฐานไม่พบคนตรังแพร่เชื้อสู่กัน อาจจะสามารถผ่อนคลายในส่วนของร้านค้า ร้านอาหาร แต่จะต้องควบคุมเรื่องสุขนิสัยส่วนบุคคล ทั้งการเว้นระยะห่างทางสังคม การสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยเจล
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ การตัดสินกำหนดมาตรการ เราใช้ข้อมูล เหตุผล และทฤษฎีในการดำเนินการ ทั้งนี้ จากสถานการณ์ของจังหวัดตรังที่มีผู้ป่วยนำเข้าอย่างเดียว เราจึงใช้มาตรการปิดตัวเองอยู่กับบ้าน และควบคุมคนที่มีความจำเป็นจะเข้ามาจังหวัดตรัง โดยคำสั่งมีข้อยกเว้นให้ เพียงแต่เรากำหนดให้เข้าช่องทางหลักเท่านั้น ดังนั้น การที่มีคนออกมาโจมตีผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เรื่องมาตรการคัดกรองคนนั้น จะต้องเข้าใจที่มาที่ไปให้ถ่องแท้ก่อนว่า สิ่งที่จังหวัดตรังทำ ณ วันนี้ เป็นผลลัพธ์ชัดเจนมากว่า เราทำได้ถูกทางแล้ว เพราะถ้าเราหย่อนยานที่ด่านคัดกรอง เราก็ป้องกันผู้ติดเชื้อนำเข้าไม่ได้
แต่ ณ วันนี้ เราจึงมั่นใจกับตัวเลขเรามาก เพราะผ่านมา 14 วัน คิดว่าการซีลตะเข็บชายแดนได้ผล แต่หากก่อนหน้านี้หากเราไม่ดำเนินมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่ง จะเกิดการระบาดกันเองได้ในจังหวัดตรัง ดังนั้น คณะกรรมการโรคติดต่อ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง จึงต้องใช้ยาแรงในการประกาศปิดเมือง และคัดกรองบุคคล จนนำมาสู่มาตรการที่ได้ผลในวันนี้
