ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กลุ่มชาวเลราไวย์พร้อมแล้วกับโครงการ “ปลาแลกข้าว” กับเครือข่ายในภาคตะวันออกและภาคอีสาน แก้ปัญหาความเดือดร้อน ขณะ ทอ.ประเดิมช่วยส่งของพรุ่งนี้ ตามโครงการ “ทัพฟ้าช่วยไทย ต้านภัยโควิด-19 ขนข้าวชาวนาเปลี่ยนปลาชาวเล”
วันนี้ (19 เม.ย.) บริเวณลานอเนกประสงค์ใต้ต้นมะขาม ริมหาดราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต กลุ่มชาวเลราไวย์ ช่วยกันแล่ปลาสดที่หามาได้จากการออกเรือไปวางลอบดักปลา เพื่อแปรรูปเป็นปลาเค็ม ปลาตากแห้งสำหรับนำไปแลกข้าวสารกับเครือข่ายในภาคตะวันออกและภาคอีสาน ตามโครงการ “ปลาแลกข้าว” หลังประสบปัญหาไม่สามารถขายปลาสดได้ตามปกติ ทั้งการเปิดแผงขายปลาในชุมชน และส่งไปขายให้แก่ร้านค้าร้านอาหารต่างๆ เนื่องจากร้านอาหารและร้านรับซื้อสัตว์ทะเลสดปิดตัวชั่วคราว เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้จังหวัดภูเก็ตมีมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งการปิดเส้นทางเข้าออกจังหวัดภูเก็ต ปิดรอยต่อระหว่างตำบล ปิดห้างสรรพสินค้าและพื้นที่เสี่ยงต่างๆ สร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องชาวเลเป็นอย่างมาก
นายสนิท แซ่ซั่ว ผู้ประสานงานกลุ่มชาวเลราไวย์ กล่าวถึงโครงการ “ปลาแลกข้าว” ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัวของชาวเลราไวย์เป็นอย่างมาก เนื่องจากขาดรายได้จากการประกอบอาชีพหลัก คือ การทำประมง และการรับจ้างขับเรือพานักท่องเที่ยวไปยังเกาะแก่งต่างๆ ส่งผลให้หลายครอบครัวประสบปัญหาไม่มีเงินซื้อข้าวสารและเครื่องอุปโภคบริโภค แม้ว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากท้องถิ่นแล้วบางส่วน แต่ก็ไม่เพียงพอ
จึงได้มีหารือกับทางเครือข่ายและมีมูลนิธิชุมชนไท เพื่อเป็นสื่อกลางในการประสานงานกับเครือข่ายในพื้นที่ทางภาคตะวันออกและภาคอีสาน (ยโสธร) ในการนำสินค้าของแต่ละท้องถิ่นมาแลกเปลี่ยนกัน โดยเฉพาะข้าวสาร จนเกิดเป็นโครงการปลาแลกข้าวขึ้น ตั้งเป้าทำปลาแห้งให้ได้ 3,000 กิโลกรัม แต่ครั้งแรกจะจัดส่งปลาแห้งไปก่อน 1,000 กิโลกรัม แลกกับข้าวสาร 4,500 กิโลกรัม
โดยในวันพรุ่งนี้ (20 เม.ย.) ทางกองทัพอากาศ จะจัดส่งเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 หรือ C-130 ซึ่งมีขีดความสามารถในการบรรทุกได้ถึง 12 ตัน พร้อมด้วยกำลังพล ลำเลียงข้าวสารจาก จ.ยโสธร มาส่งแลกกับปลาแห้งของชาวเลราไวย์ จ.ภูเก็ต ที่สนามบินภูเก็ต ภายใต้โครงการนำร่อง “ทัพฟ้าช่วยไทย ต้านภัยโควิด-19 ขนข้าวชาวนาเปลี่ยนปลาชาวเล”