ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เพลิงไหม้เรือประมงเบ็ดราวทูน่าของกลางกระทำผิด IUU ที่จอดลำริมป่าชายเลนคลองท่าจีน จ.ภูเก็ต เสียหาย เบื้องต้น ยังไม่ทราบสาเหตุ
เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. วันที่ 16 เม.ย.63 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้เรือประมงเบ็ดราวทูน่าของกลาง ซึ่งจอดไว้บริเวณริมป่าชายเลน ในคลองท่าจีน ใกล้ท่าเรือเอเชียมารีน่า ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลรัษฎาลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมด้วย นายอนุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ นายอำเภอเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลรัษฎา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต เดินทางไปที่เกิดเหตุ
เบื้องต้น จุดเกิดเหตุอยู่ภายในคลองท่าจีน ห่างจากท่าเรือเอเชียมารีน่าไปประมาณ 100 เมตร พบมีเรือของกลางที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางเป็นประมงทูน่าขนาดใหญ่หลายลำจอดเป็นกลุ่มอยู่บนฝั่งริมป่าชายเลน และมีเปลวไฟและกลุ่มควันสีดำจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากส่วนหัวเรือชื่อ SHUN LAI แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าดับเพลิงได้ เนื่องจากอยู่ในลำคลอง และมีระยะห่างพอสมควร จึงต้องใช้เรือประมงพื้นบ้าน 2 ลำ และเรือยางลำเลียงสายดับเพลิง และถังดับเพลิงบางส่วนเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ ก่อนเริ่มทำการฉีดสกัดไม่ให้ลุกลาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
ทั้งนี้ เรือประมงทูน่าดังกล่าวเป็น 1 ใน 7 ของเรือประมงเบ็ดราวทูน่า ของกลางที่ถูกอายัด และดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับการทำประมงผิดกฎหมาย หรือ IUU หลังจากที่เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2559 ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 3 หรือ ศรชล.เขต 3 พร้อมด้วยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบพร้อมแจ้งทำการยึดเรือ 7 ลำ ประกอบด้วย เรือ YUTUNA NO.3, ABUBANT 1, ABUBANT 3, ABUBANT 6, ABUBANT 9, ABUBANT 12, SHUN LAI เนื่องจากพบพิรุธเกี่ยวกับทะเบียนเรือทั้ง 7 ลำเป็นเรือต่างประเทศ ที่ระบุเป็นสัญชาติโบลิเวีย และมีการแจ้งเข้ามาพร้อมกันในลักษณะผิดสังเกต เนื่องจากเรือแต่ละลำมีเอกสารไม่เหมือนกัน และเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ได้มีการตรวจสอบกับทางประเทศโบลิเวีย เพื่อยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับทะเบียนเรือ และต่อมา ทางโบลิเวียได้แจ้งว่า เรือทั้ง 9 ลำ ไม่ได้จดทะเบียนที่โบลิเวีย หรือได้รับใบอนุญาตทำการประมงของโบลิเวียแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เรือของกลางดังกล่าว สภาพก่อนถูกเพลิงไหม้นั้นเป็นตัวเรือเปล่า ไม่มีอุปกรณ์บนเรือ และโดยตัวเรือภายนอกเป็นเหล็กแต่ภายในตัวเรือเป็นไม้และไฟเบอร์ทำให้เกิดลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว ซึ่งต้องประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ต่อไป