xs
xsm
sm
md
lg

กว่า 40 ปีไม่เคยเห็น “ศาลโต๊ะถ่าหมี” จมอยู่ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางวาด มีตำนานชาวบ้านนับถือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กว่า 40 ปีไม่เคยเห็น “ศาลโต๊ะถ่าหมี” จมอยู่ใต้น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางวาด จ.ภูเก็ต มีตำนานเล่าเป็นศาลที่ชาวบ้านเคารพนับถือ จะสร้างเขื่อนแต่มีอุปสรรค จนต้องทำพิธีขอขมา และอัญเชิญมาอยู่ที่ศาลหลังใหม่


จากกรณีมีการแชร์ภาพพบศาลโผล่อยู่ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางวาด อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังจากปริมาณน้ำในอ่างลดลงมาจนเหลือเพียงก้นอ่าง โดยสามารถมองเห็นศาลดังกล่าวทั้งหลัง จนมีคนแชร์กันไปเป็นจำนวนมาก โดยวันนี้ (16 เม.ย.) ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบ พบว่า จุดที่พบอยู่กลางอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางวาด ซึ่งสภาพน้ำแห้งขอด มีน้ำอยู่แค่บางส่วนเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำไปดูยังจุดที่พบศาลหลังดังกล่าว พบว่า ตั้งอยู่ระหว่างเนินดินและยังมีส่วนของฐานที่จมน้ำอยู่ ส่วนตัวศาลโผล่ขึ้นมาจากน้ำ ขณะที่สีน้ำบริเวณที่ศาลตั้งอยู่พบว่าสีแตกต่างจากจุดอื่นที่น้ำจะใส แต่จุดนี้มีน้ำเป็นสีแดงขุ่นๆ ส่วนตัวศาลพบว่ามีสภาพสมบูรณ์ไม่มีร่องรอยถูกทำลาย คาดว่าการก่อสร้างใช้ปูนผสมกับหินและทราย ทรงสี่เหลี่ยม หลังคาหน้าจั่ว ส่วนบนสุดปั้นเป็นรูปน้ำเต้า ถ้ามองจากด้านนอกจากริมถนนจะไม่เห็นศาลดังกล่าวเพราะจะมีเนินดินบังอยู่ทุกด้าน


อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย นายป้อม (ขอสงวนชื่อจริงและนามสกุล) กล่าวว่า ศาลดังกล่าว คือ ศาลโต๊ะถ่าหมี ซึ่งเป็นศาลที่ทางเจ้าของขุมเหมืองเก่าสร้างไว้ตามความเชื่อและแรงศรัทธา เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนงานที่มาทำเหมือง แต่หลังจากภาครัฐเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างเป็นอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางวาด ปี 2520 ส่วนเจ้าของที่ดินก็ได้ย้ายออกไปอยู่ที่อื่น ซึ่งศาลดังกล่าวก็ยังอยู่ในที่ดินที่ถูกเวนคืน

ต่อมา เมื่อปี 2522 ทางกรมชลประทานก็ลงมาปรับพื้นที่ แต่รถแบ็กโฮที่เข้าทำงานไม่สามารถทำงานได้ เครื่องยนต์ดับบ้าง คนงานเจ็บป่วยไม่สบายบ้าง ทำให้ทางสำนักงานชลประทานต้องทำพิธีขอขมาโต๊ะถ่าหมี และขอสร้างศาลใหม่ให้บริเวณบนเนินเขา โดยเชิญโต๊ะถ่าหมี และลูก พร้อมบริวาร ซึ่งมีทั้งหมด 9 บริวาร ไปอยู่ที่ศาลใหม่ ซึ่งได้ก่อสร้างเมื่อปี 2522 ซึ่งในพิธีได้จัดให้มีการรำมโนราห์ และล้มควายถวาย โดยบริวารทั้ง 9 ประกอบด้วย โต๊ะลาย (เสือ) ซึ่งเป็นทหารเอก โต๊ะคลอง ( งู) โต๊ะดำ โต้ะใบ้ โต๊ะลาบัน โต๊ะลาหมาด ก๊ะหงวน และก๊ะนวล


สำหรับพ่อตาโต๊ะถ่าหมี เป็นที่นับถือของชาวบ้านในพื้นที่กะทู้ ถ้ามีใครเจ็บไข้ ไม่สบาย หรือถูกไสยศาสตร์ก็จะมาหาโต๊ะแล้วโต๊ะจะทำพิธีรักษาให้ตามอาการต่างๆ จนหาย ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้มีการเล่าขานต่อๆ กันมาจนเป็นที่นับถือของคนจังหวัดภูเก็ต ที่ผ่านมา การจะขึ้นไปไหว้พ่อตาโต๊ะถ่าหมีที่ศาลหลังใหม่จะต้องเดินขึ้นเขาซึ่งกว่าจะขึ้นไปถึงลำบากมาก แต่ต่อมา ทางโครงการชลประทานภูเก็ต พร้อมด้วยผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมกันบริจาคและสร้างบันไดขึ้นไปยังศาลเพื่อความสะดวกในการขึ้นไปกราบไหว้



จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ ระบุว่า กว่า 40 ปีแล้วที่ศาลดังกล่าวจมอยู่ใต้น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางวาด ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งจังหวัดภูเก็ตประสบปัญหาภัยแล้งน้ำในเขื่อนลดลงจำนวนมาก แต่ก็สามารถเห็นได้เฉพาะส่วนหลังคาและรูปปั้นน้ำเต้าเท่านั้น ส่วนตัวศาลจมอยู่ในดินเลน แต่มาวันนี้สามารถมองเห็นศาลทั้งหลังและที่แปลกคือ จากเมื่อก่อนมีดินโคลนทับถมกลับไม่มี สภาพเหมือนเคลื่อนตัวออกมา ศาลที่เห็นก็สะอาดเหมือนไม่เคยอยู่ในดินโคลนมาก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก นับว่าเป็นบุญตาของผู้ที่พบเห็น


แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการประกาศปิดเขื่อนห้ามไม่ให้คนเข้าออก จึงอยากขอร้องว่าอย่าเพิ่งเดินทางเข้ามา เนื่องจากไม่อยากให้มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก ซึ่งหลังจากมีการแชร์ภาพดังกล่าวปรากฏว่ามีคนจำนวนมากจะขอเข้าไปดู ซึ่งทางโครงการชลประทานต้องขอโทษที่ไม่สามารถเปิดให้เข้าไปดูได้ แต่เชื่อว่าหลังจากเขื่อนเปิดก็สามารถเข้าไปดูได้ เพราะขณะนี้น้ำในเขื่อนเหลือน้อยมาก และฝนที่ตกลงมายังไม่ไหลเข้าเขื่อนเลย


ส่วนคนที่จะไปไหว้ขอพรจากโต๊ะถ่าหมี ที่ศาลหลังใหม่ก็เช่นกัน สามารถมาได้หลังจากมีการยกเลิกคำสั่งปิดเขื่อน ซึ่งอยู่ใกล้กับป้อมยามด้านในบริเวณสันเขื่อน จะมีบันไดเดินขึ้นไป จำนวน 139 ขั้น คนที่มาขอพรส่วนใหญ่จะสมหวังกันเกือบทุกคนแต่รับปากจะทำอะไรให้โต๊ะจะต้องทำตามที่สัญญาไว้ ก่อนหน้านี้ ประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา มีคนเล่าต่อๆ กันมาว่า เคยมีคนจะมาฆ่าตัวตายที่เขื่อนบางวาด มีคนพยายามห้ามแต่ไม่สำเร็จจึงมีคนขอให้พ่อตาโต๊ะถ่าหมี ช่วย ก็มีเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้นคนที่กระโดดลงไปในเขื่อนไม่จมน้ำและมีคนประทับทรงที่บริเวณหลังเขื่อนและบอกกับคนที่อยู่บริเวณนั้นรวมทั้งคนที่พยายามฆ่าตัวตายว่าให้อยู่ต่อไปเพราะจะได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ซึ่งเชื่อว่าสิ่งที่ท่านบอกก็น่าจะเป็นเรื่องของศาลที่อยู่ใต้น้ำ


กำลังโหลดความคิดเห็น