ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - แม่และน้องสาวข้องใจตำรวจตั้งใจช่วยหนุ่มขี่รถ จยย.รถหลบหนีด่านตรวจ และกระโดดน้ำหนีจนจมน้ำตายจริงหรือไม่ ด้านผู้การสงขลายืนยันการตายไม่มีเงื่อนงำแอบแฝง เผยตำรวจพยายามช่วยเต็มที่แต่ไม่ทัน พบประวัติเคยถูกจับยาเสพติด 3 ครั้ง
ความคืบหน้ากรณี นายภัทรวิน หรือใหญ่ เซ่งหิ้น อายุ 35 ปี ชาว ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีด่านตรวจเคอร์ฟิวของตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม สภ.หาดใหญ่ ซึ่งตั้งด่านตรวจอยู่บนถนนพลพิชัย เส้นทางลัดหาดใหญ่-บ้านพรุ และกระโดดน้ำหนีลงไปในบ่อทิ้งตะกอนของการประปาส่วนภูมิภาคหาดใหญ่ และจมน้ำเสียชีวิต เมื่อช่วงตี 4 คืนที่ผ่านมา แม้ตำรวจจะกระโดดน้ำลงไปช่วยแต่ก็ไม่ทัน
ล่าสุด วันนี้ (15 เม.ย.) ทาง พล.ต.ต.ธิวธวัช นครศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว โดยทราบว่าขณะเกิดเหตุได้ขี่รถหลบหนี และไปจอดรถทิ้งไว้ ก่อนที่จะกระโดดลงไปในบ่อทิ้งตะกอนภายในการประปาส่วนภูมิภาคหาดใหญ่ และจากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยถูกจับกุมคดียาเสพติดในปี 2555 รวม 2 ครั้ง และในปี 2559 อีก 1 ครั้ง และจากการตรวจสอบปัสสาวะของผู้ตายพบว่ามีสีม่วง และมีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย ส่วนในรายละเอียดว่าทำไมถึงต้องขี่รถหลบหนีด่านตรวจของตำรวจนั้น เจ้าหน้าที่จะสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง และเรื่องนี้ไม่ได้มีเงื่อนงำซับซ้อน และช่วงเกิดเหตุตำรวจพยายามช่วยอย่างเต็มที่แล้ว โดยกระโดดน้ำลงไปช่วยแต่ไม่ทัน และไม่ได้ตั้งใจปล่อยให้จมน้ำตาย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับครอบครัวของผู้ตาย ว่ามีข้อสงสัยสาเหตุของการตายหรือไม่ โดยนางละม้าย ผ่องศรี อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นแม่บอกว่า เรื่องอื่นไม่ได้ติดใจอะไร แต่ยังข้องใจเรื่องเดียว คือ การช่วยเหลือของตำรวจขณะที่จมน้ำตายว่าตำรวจลงไปช่วยชีวิตลูกชายจริงหรือไม่ เพราะหากตั้งใจช่วยก็น่าจะช่วยทัน และไม่น่าจะจมน้ำตายแบบนี้ ส่วนลูกชายหลังพ้นโทษก็ออกมาอยู่บ้าน รอที่จะไปทำงานที่เต็นท์รถยนต์ที่ จ.กระบี่ หลังจากจบเรื่องโควิด-19 ปกติก็เป็นคนร่าเริง อารมณ์ดี ได้คุยกับลูกชายครั้งสุดท้ายตอนกลางวันเรียกให้มากินข้าว และลูกชายตอบว่าค่อยกิน และขี่รถออกจากบ้านไป กระทั่งมาทราบข่าวว่าเสียชีวิต
ด้าน น.ส.ขวัญฤทัย เซ่งหิ้น อายุ 26 ปี น้องสาวก็พูดในทำนองเดียวกันว่า ตำรวจได้ลงไปช่วยจริงหรือไม่ และอยากดูกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุเพื่อให้หายข้องใจ ซึ่งตำรวจน่าจะมีกล้องเพื่อให้หายข้องใจ เพราะถ้าตำรวจตามไปพบเห็นว่ากำลังจะจมน้ำ ก็น่าจะลงไปช่วยชีวิตก่อน ส่วนเรื่องอื่นๆ ค่อยว่ากัน และสงสัยว่าทำไมพี่ชายถึงเลี้ยวรถหลบหนีเข้าไปในการประปา ซึ่งไม่มีทางไป น.ส.ขวัญฤทัย บอกด้วยว่า ปกติพี่ชายจะออกจากบ้านไปดื่มกินกับเพื่อน และจะกลับมาก่อนเคอร์ฟิว หรือหากเลยเวลาก็จะกลับหลังตี 4 หลังเคอร์ฟิว
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบเส้นทางภายในบ่อทิ้งตะกอนของการประปาส่วนภูมิภาคหาดใหญ่ ตามที่ญาติได้ตั้งข้อสังเกต พบว่ามีช่องทางเล็กๆ ที่สามารถขับทะลุออกไปได้ ซึ่งคาดว่าผู้ตายน่าจะรู้เส้นทางเป็นอย่างดี และใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงตำรวจ ซึ่งมักจะตั้งจุดตรวจบนถนนพลพิชัยทุกคืน
