xs
xsm
sm
md
lg

แม่ทัพภาค 4 ยันเปิดด่านไทย-มาเลย์ 18 เม.ย.นี้ เตรียมพร้อมนำคนเข้าระบบคัดกรองเข้ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยะลา - แม่ทัพภาค 4 ยืนยันเปิดด่านไทย-มาเลเซีย ดีเดย์ 18 เม.ย.นี้ เตรียมพร้อมบูรณาการหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อนำคนเข้าระบบคัดกรองโควิด-19 อย่างเข้มงวด

จากกรณีการเตรียมเปิดด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 เมษายน 2563 นี้ โดยจะมีการให้บุคคลเข้าออกได้วันละ 300 คน เนื่องจากหลายคนมีความกังวลใจว่า คนไทยที่ทำงานในประเทศมาเลเซีย จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย และอาจมีการแพร่ระบาดของของเชื้อโควิด-19 อีกระลอกนั้น

พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เปิดเผยว่า ได้เตรียมตัว และประสานกับทุกจังหวัดในชายแดนภาคใต้ และได้ร่วมกับ ศอ.บต. มีการตั้งกองอำนวยการร่วมเพื่อเป็นมาตรฐานร่วมกับทุกจังหวัด ทุกคนที่ผ่านเข้ามามีการคัดกรอง และเจ้าหน้าที่คัดกรองต้องมีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ เตรียมเครื่องมือให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกคน ทั้งหน้ากาก Face Shields ต้องให้พร้อม ให้คัดกรองว่าจะผ่านจังหวัดไหนก็จะต้องแยกจังหวัด มีระบบที่ถูกต้องจะได้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกจังหวัด และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

“ส่วนด้านกำลังทหาร กองร้อยป้องกันชายแดน ทหารราบต่างๆ ทำงานตรวจทุกช่องทาง ไม่ว่าจะมีการลักลอบเข้ามาด้วยแบบว่ายน้ำมา หรือล่องเรือข้ามมา เมื่อจับได้จะดำเนินการตามกระบวนการเปรียบเทียบปรับ หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย และเข้ากระบวนการของจังหวัด พยายามปรับตามมาตรฐานเดียวกัน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะได้มีคุณภาพ ไม่ว่าการจัดรถ หรือการคัดกรองคน จะทำการเชื่อมระหว่างจังหวัดต่างๆ ตอนนี้ทุกคนพร้อมที่จะทำตามนโยบายทางผู้บัญชาการ เราต้องเสียสละ ตอนนี้ประชาชนทุกข์ยากลำบาก และจะต้องเข้าระบบให้ได้ ถ้าเข้าระบบได้เมื่อไหร่ ตัวเลขของผู้ติดเชื้อก็จะลดลงเรื่อยๆ” พล.ท.พรศักดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว


ขณะที่ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ได้กล่าวยืนยันตามคำแถลงของ มท.2 ถึงข่าวลือว่าจะมีจำนวนคนทะลักเข้ามาในพื้นที่กว่าแสนคน ในการเปิดด่านวันที่ 18 เม.ย.นี้ ว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ซึ่งจากการทำงานมาหลายอาทิตย์ ทางสถานทูตได้เปิดการลงทะเบียนออนไลน์ และการให้มารายงานตัวด้วยตนเอง รวมถึงให้ภาคประชาสังคม และประธานกลุ่มอาสาสมัครคนไทยในต่างแดนลงพื้นที่สำรวจ พบว่า ตัวเลขที่ยืนยันมีจำนวนไม่เกิน 8,000 คน หากสามารถควบคุมการเคลื่อนย้ายของคนได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งในส่วนตามแนวชายแดนเส้นทางธรรมชาติ ทาง กอ.รมน.ได้ดำเนินการดูแลอย่างเต็มที่ จึงคิดว่าจากความร่วมมือที่เกิดขึ้นจะสามารถทำให้สถานการณ์ต่างๆ เบาบาง และคลี่คลายลงได้

จากนั้น พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ไปเป็นประธานในพิธีให้กำลังใจ และมอบสิ่งของอุปกรณ์แก่บุคลากรทางการแพทย์ “ธารน้ำใจแด่นักรบชุดกาวน์” ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา โดยมี นายอมร ปรีดางกูร นายอำเภอยะหา นพ.ทินกร บินหะยีอารง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา พร้อมด้วยบุคลากรทางการแพทย์ให้การต้อนรับ

นพ.ทินกร บินหะยีอารง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา กล่าวว่า ขอขอบคุณแม่ทัพภาคที่ 4 และทุกภาคส่วนที่มาส่งมอบกำลังใจให้วันนี้ ทางคณะแพทย์โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกๆ กำลังใจ ซึ่งกำลังใจถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์ปฏิบัติงานต่อไปได้ ที่ผ่านมา คณะแพทย์ต้องใช้เวลาในการปรับตัวเป็นอย่างมากในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความพร้อมในการรับมือต่่อการแพร่ระบาด และมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้ดีที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น