ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จังหวัดสงขลา พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ เป็นชาวไทยที่ตกค้างจากการเข้าร่วมดาวะห์ ณ ประเทศอินโดนีเซีย ที่เดินทางกลับมาเมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่จังหวัดส่งต่อเข้ารับการดูแลในหอผู้ป่วยเฉพาะ (Cohort Ward) ณ โรงพยาบาลหาดใหญ่-นาหม่อม
วันนี้ (8 เม.ย.) ที่ห้องประชุม 1 ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นพ.อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา และ นพ.เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา ร่วมแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 จากกรณีคณะชาวไทยมุสลิม 76 คน ที่ตกค้างจากการเข้าร่วมกิจกรรมดาวะห์ ณ ประเทศอินโดนีเซีย และเดินทางกลับด้วยเครื่องบินพิเศษเหมาลำจากกรุงจาร์กาตา ถึงท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 เมษายน 2563 ว่า กรณีดังกล่าวมีการคัดกรอง ส่งตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 ในผู้กลุ่มที่มีอาการ 12 คน ของ จ.สงขลา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 11 ราย โดยเป็นคนสงขลา 10 ราย และคนสตูล 1 ราย โดยนำเข้ารับการดูแลรักษารักษาพยาบาลที่หอผู้ป่วยเฉพาะ (Cohort Ward) ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่-นาหม่อม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับคณะชาวไทยมุสลิม 76 คนนั้น เป็นผู้มีภูมิลำเนาใน จ.สตูล 26 คน จ.ยะลา 7 คน จ.ปัตตานี 14 คน จ.นราธิวาส 7 คน จ.สงขลา 20 คน กรุงเทพมหานคร 1 คน และ จ.เชียงราย 1 คน ซึ่งทั้ง 76 คนได้ผ่านการกักตัวในประเทศอินโดนีเซียมาแล้ว 14 วัน และมีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าเป็นผู้ไม่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนเดินทางกลับเข้าประเทศไทย ทั้งนี้ เมื่อมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ ได้มีการคัดกรองอีกครั้ง แล้วแยกส่งกลับไปกักตัวดูอาการเป็นเวลา 14 วัน ตามภูมิลำเนาของแต่ละจังหวัด
ในส่วนของ จ.สงขลา มีคณะดาวะห์ที่มีภูมิลำเนาใน จ.สงขลา 20 ราย และจากกรุงเทพฯ 1 ราย สตูล 1 ราย รวม 22 ราย ได้พาไปกักตัวที่หอพักสนามกีฬาเมืองหลักภาคใต้ (สนามกีฬาพรุค้างคาว) ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ ซึ่งจัดเป็นศูนย์กักตัวเพื่อสังเกตอาการของจังหวัดสงขลา (State Quarantine) มีการเตรียมความพร้อมทั้งด้านสถานที่ การกำจัดขยะติดเชื้อ ระบบสาธารณสุข อาหาร การอำนวยความสะดวกด้านอื่นๆ และการดูแลความปลอดภัยเพื่อกักตัว 14 วัน พร้อมทั้งดำเนินการตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการของผู้ที่มีอาการไข้ ร่วมกับอาการทางเดินหายใจ จำนวน 12 ราย เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2563
ขณะนี้พบว่าผลการตรวจพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 จำนวน 11 ราย (จ.สงขลา 10 ราย และสตูล 1 ราย) โดยผู้ตรวจพบเชื้อ 11 ราย ผู้มีภูมิลำเนาในพื้นที่ อ.รัตภูมิ 3 ราย สะเดา 4 ราย หาดใหญ่ 3 ราย และสตูล 1 ราย ซึ่งทางโรงพยาบาลหาดใหญ่ จะนำผู้ที่ตรวจพบเชื้อทั้ง 11 ราย เข้ารับการดูแลรักษาพยาบาลที่หอผู้ป่วยเฉพาะ (Cohort Ward) ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่-นาหม่อม และเมื่อหายเป็นปกติแล้ว (ตรวจไม่พบเชื้อแล้ว) จึงจะให้กลับบ้าน และเฝ้าระวังตัวเองที่บ้านตนเองต่อจนครบ 1 เดือน โดยขณะนี้ผู้ติดเชื้อทั้ง 11 ราย มีอาการไม่รุนแรง มีเพียงไข้และหวัด ในส่วนผู้ที่ไม่มีอาการอีก จำนวน 10 ราย ทางจังหวัดจะส่งตรวจหาเชื้อทั้งหมดในวันที่ 9 เมษายน 2563 โดยขณะนี้ทั้ง 11 ราย มีอาการทั่วไปปกติ และไม่มีไข้
นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม จังหวัดสงขลา ได้ออกมาตรการต่างๆ ในการป้องกัน และควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรคโควิด-19 ขอให้ประชาชน สถานบริการ สถานประกอบการต่างๆ ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการที่จังหวัดได้ออกประกาศไปอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อป้องกันการรวมตัวของกลุ่มคนจำนวนมาก ลดความเสี่ยงในการรับ และแพร่เชื้อโรค ให้เกิดการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) มากขึ้น รวมถึงผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ก็ขอความร่วมมือในการอยู่บ้านกักตัวเองที่บ้าน 14 วัน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปให้คนอื่นด้วย
ขณะที่ นพ.อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การเว้นระยะห่างระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) จะช่วยป้องกันโควิด-19 โดยเว้นระยะห่างจากผู้อื่น 1-2 เมตร หลีกเลี่ยงการสัมผัส ล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัสสิ่งของสาธารณะ และสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล ใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าป้องกัน หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในสถานที่แออัด หลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วนในสถานที่มีคนเยอะ เช่น ร้านสะดวกซื้อ หรือการใช้ขนส่งสาธารณะ เพิ่มเวลาการทำงานที่บ้าน การสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน ควรอยู่บ้านให้มากที่สุด การเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อป้องกันโควิด-19 ที่ทุกคนสามารถทำได้ทันทีระยะนี้ คืออยู่บ้าน เหมือนกับที่รัฐบาลขอความร่วมมือ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”