ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - มาช้าดีกว่าไม่มา “ผู้ว่าฯ สงขลา” จดปากกาลงนามประกาศ “ล็อกดาวน์” การเข้า-ออกพื้นที่ทั้งจังหวัดแล้ว โดยให้มีผลระหว่าง 6-30 เม.ย.นี้ เผยไฟแดงเฉพาะทางบกและทางน้ำเท่านั้น ส่วนทางอากาศยานยังไฟเขียว
เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้ลงนามในคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา ที่ 12/2563 ลงวันที่ 4 เม.ย.2563 เรื่อง “มาตรการเฝ้าระวัง ควบคุมโรคติดต่ออันตราย และดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดสงขลา” โดยสาระสำคัญของคำสั่งฉบันนี้คือ “ห้าม” บุคคลใดเดินทางเข้า-ออกข้ามเขตพื้นที่จังหวัดสงขลาทางบกและทางน้ำ หรือถือเป็นการ “ล็อกดาวน์” พื้นที่ทั้งจังหวัด โดยให้มีผลระหว่างวันที่ 6-30 เม.ย.2563
ทั้งนี้ การประกาศล็อกดาวน์ หรือปิดพื้นที่ทั้ง จ.สงขลา ดังกล่าวถือเป็นอันดับที่ 8 ของจังหวัดในภาคใต้ โดยมีผลทำให้มีการปิดครอบคลุมไปทั้งพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจาก จ.ยะลา ที่ประกาศล็อกดาวน์เป็นแห่งแรกทั้งของภาคใต้และประเทศ ก่อนจะตามด้วย จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี และ จ.สตูล ส่วนจังหวัดในภาคใต้ที่เหลือที่มีประกาศล็อกดาวน์ไปแล้ว ได้แก่ จ.พังงา จ.ภูเก็ต และ จ.กระบี่ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากภาพ)
นอกจากนี้แล้ว ที่ผ่านมา จ.สงขลา มีเสียงเรียกร้องจากประชาชนในพื้นที่ให้ดำเนินการประกาศปิดพื้นที่จังหวัดมานานแล้ว เพียงแต่กระแสยังไม่เข้มข้นถึงขั้นมีข่าวสะพัดเสนอให้มีการเปลี่ยนตัวผู้ว่าฯ อย่างที่เกิดขึ้นมาแล้วที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งถือเป็นอีกจังหวัดศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในพื้นที่ภาคใต้ แถมยังเป็นแชมป์ภาคใต้ที่มีผู้ป่วยรายใหม่จากโรคติดต่อโควิด-19 ต่อเนื่องมาทุกวัน อีกทั้งยังครองแชมป์ที่มียอดผู้ป่วยสะสมมาต่อเนื่องยาวนาน
ว่ากันว่าสาเหตุที่ จ.สงขลา มีการประกาศปิดพื้นที่หรือล็อกดาวน์ค่อนข้างช้าเมื่อดูจากเสียงเรียกร้องของประชาชนในพื้นที่ ประการสำคัญน่าจะเป็นเพราะเป็นจังหวัดใหญ่ที่ถือเป็นศูนย์กลางของภาคใต้ตอนล่าง แถมยังเป็นเหมือนชุมทางด้านการคมนาคมขนส่งครอบคลุมทั้งทางถนน ทางราง และทางอากาศ เป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ เป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยว และที่ถือว่าสำคัญมากคือ เป็นเมืองหน้าด่านที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศมาเลเซีย ผู้บริหารจังหวัดสงขลาจึงต้องใช้เวลาพิจารณาผลกระทบให้ถี่ถ้วนก่อนจะตัดสินใจใดๆ
เป็นที่น่าสังเกตด้วยว่า การประกาศครั้งนี้ไม่ได้ครอบคลุมถึงการห้ามเข้า-ออกของผู้คนทางอากาศยาน ซึ่งก็เพิ่งจะเป็นข่าวใหญ่ไปเมื่อวานนี้ว่า วันจันทร์ที่ 6 เม.ย.2563 จะมีผู้นำศาสนาประมาณ 100 คน ที่ส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ขอเดินทางกลับจากการไปร่วมดาวะห์ หรือร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่เกาะสุลาเวสี ประเทศอินโดนีเซีย โดยประสานงานกันแล้วว่าจะให้เครื่องบินของสายการบินไลออนแอร์มาลงจอดที่สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นอีกกลุ่มเสี่ยงที่ จ.สงขลา จะต้องคัดกรองและให้มีการกักตัว 14 วันตามขั้นตอนที่กำหนด
