ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ยันไม่จริง! นักท่องเที่ยวรัสเซียตกค้างอาศัยศาลาเมรุเผาศพหาดไม้ขาว ไร้ใครดูแล เผยคนในชุมชนหน่วยงานภาครัฐเข้าให้ความช่วยเหลือเต็มที่ ทั้งหาโรงแรมฟรีให้อยู่ แต่ถูกปฏิเสธระบุชอบเงียบสงบ ขณะอาหารมีกินไม่อั้น
จากกรณีเพจดังชื่อขยะมรสุม ได้โพสต์ภาพนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จำนวน 3 คน พร้อมระบุข้อความส่วนหนึ่ง ว่า นักท่องเที่ยวรัสเซียกลับบ้านไม่ได้ อาศัยศาลาผุพังเมรุเผาศพ หาดไม้ขาว เป็นที่นอนยังมีที่ยังไม่เห็นอีกมาก อย่างไรก็ตาม หลังมีการแชร์ภาพและข้อมูลออกไป พบว่า มีชาวโซเชียลเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต หลังจากทราบเรื่องดังกล่าว พ.ต.ต.เอกชัย ศิริ สว.ส.ทท.1 จึงสั่งการให้สายตรวจตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้น ทราบรายละเอียดดังนี้ ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า ทั้งหมดเป็นนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 2 คน ประกอบด้วย Mr.Galiev Aleksei อายุ 31 ปี Mr.Sharov Nikolai อายุ 29 ปี และ Ms.Sharova Sofia อายุ 24 ปี
จากการสอบถามทราบว่า นักท่องเที่ยวทั้ง 3 ราย ให้การว่าพวกตนมีกำหนดเดินทางออกจากประเทศไทยเพื่อไปยังไต้หวันในวันที่ 28 มี.ค.63 ที่ผ่านมา แต่สายการบินได้ยกเลิกเที่ยวบิน และจะทำการคืนเงินผ่านมาทางเอเยนต์ ซึ่งขณะนี้พวกตนยังไม่รับเงินคืน และพวกตนไม่มีเงินสำหรับเช่าโรงแรมที่พักแล้ว จึงมาอาศัยกางเต็นท์นอนอยู่ในบริเวณดังกล่าว โดยได้รับอนุญาตจากทางชุมชน ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งรายละเอียดให้กงสุลรัสเซียทราบในเบื้องต้นแล้ว
ขณะที่ นายวินัย แซ่อิ้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า นักท่องเที่ยวทั้ง 3 ราย มาพักอยู่ที่ศาลาข้างเมรุหาดไม้ขาวมาประมาณ 1 สัปดาห์ แล้ว ที่ผ่านมา ทางชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้าไปดูแลและให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมจัดหาโรงแรมฟรีให้พัก แต่นักท่องเที่ยวทั้ง 3 คน ยืนยันที่อยู่ในจุดดังกล่าว โดยระบุว่า ชอบที่จะอยู่ในบริเวณดังกล่าวเนื่องจากเงียบสงบ และอยู่ใกล้ชายหาด
ส่วนการตรวจวัดไข้ทั้งหมดให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และไม่พบว่ามีใครไข้สูง นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังเดินทางไปวัดไข้ให้แก่นักท่องเที่ยวทุก 2 วัน ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า นักท่องเที่ยวตกค้างอยู่อย่างลำบากนั้นไม่เป็นความจริง ศาลาดังกล่าวมีไฟฟ้าให้ใช้ได้ อาหารการกินคนในชุมชนนำเอาไปให้ทุกวันจนอาหารเหลือจำนวนมาก และการเข้าไปอยู่ในบริเวณดังกล่าวก็ได้ขออนุญาตจากชุมชน คนในชุมชนก็เข้าใจดี
ในส่วนของนักท่องเที่ยวก็รู้ถึงมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้งเรื่องการปิดสนามบินที่จะมีขึ้นในวันที่ 10 เม.ย.นี้ ซึ่งเขายืนยันว่าถ้าได้รับเงินคืนก็พร้อมจะซื้อตั๋วเดินทางกลับประเทศ แต่ถ้าไม่ได้เงินคืนและไม่สามารถเดินทางกลับได้ก็ขออยู่ที่บริเวณดังกล่าวต่อไป ซึ่งเขาชอบภูเก็ตและประเทศไทยมาก
จากกรณีเพจดังชื่อขยะมรสุม ได้โพสต์ภาพนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จำนวน 3 คน พร้อมระบุข้อความส่วนหนึ่ง ว่า นักท่องเที่ยวรัสเซียกลับบ้านไม่ได้ อาศัยศาลาผุพังเมรุเผาศพ หาดไม้ขาว เป็นที่นอนยังมีที่ยังไม่เห็นอีกมาก อย่างไรก็ตาม หลังมีการแชร์ภาพและข้อมูลออกไป พบว่า มีชาวโซเชียลเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต หลังจากทราบเรื่องดังกล่าว พ.ต.ต.เอกชัย ศิริ สว.ส.ทท.1 จึงสั่งการให้สายตรวจตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้น ทราบรายละเอียดดังนี้ ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า ทั้งหมดเป็นนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 2 คน ประกอบด้วย Mr.Galiev Aleksei อายุ 31 ปี Mr.Sharov Nikolai อายุ 29 ปี และ Ms.Sharova Sofia อายุ 24 ปี
จากการสอบถามทราบว่า นักท่องเที่ยวทั้ง 3 ราย ให้การว่าพวกตนมีกำหนดเดินทางออกจากประเทศไทยเพื่อไปยังไต้หวันในวันที่ 28 มี.ค.63 ที่ผ่านมา แต่สายการบินได้ยกเลิกเที่ยวบิน และจะทำการคืนเงินผ่านมาทางเอเยนต์ ซึ่งขณะนี้พวกตนยังไม่รับเงินคืน และพวกตนไม่มีเงินสำหรับเช่าโรงแรมที่พักแล้ว จึงมาอาศัยกางเต็นท์นอนอยู่ในบริเวณดังกล่าว โดยได้รับอนุญาตจากทางชุมชน ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งรายละเอียดให้กงสุลรัสเซียทราบในเบื้องต้นแล้ว
ขณะที่ นายวินัย แซ่อิ้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า นักท่องเที่ยวทั้ง 3 ราย มาพักอยู่ที่ศาลาข้างเมรุหาดไม้ขาวมาประมาณ 1 สัปดาห์ แล้ว ที่ผ่านมา ทางชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้าไปดูแลและให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมจัดหาโรงแรมฟรีให้พัก แต่นักท่องเที่ยวทั้ง 3 คน ยืนยันที่อยู่ในจุดดังกล่าว โดยระบุว่า ชอบที่จะอยู่ในบริเวณดังกล่าวเนื่องจากเงียบสงบ และอยู่ใกล้ชายหาด
ส่วนการตรวจวัดไข้ทั้งหมดให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และไม่พบว่ามีใครไข้สูง นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังเดินทางไปวัดไข้ให้แก่นักท่องเที่ยวทุก 2 วัน ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า นักท่องเที่ยวตกค้างอยู่อย่างลำบากนั้นไม่เป็นความจริง ศาลาดังกล่าวมีไฟฟ้าให้ใช้ได้ อาหารการกินคนในชุมชนนำเอาไปให้ทุกวันจนอาหารเหลือจำนวนมาก และการเข้าไปอยู่ในบริเวณดังกล่าวก็ได้ขออนุญาตจากชุมชน คนในชุมชนก็เข้าใจดี
ในส่วนของนักท่องเที่ยวก็รู้ถึงมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้งเรื่องการปิดสนามบินที่จะมีขึ้นในวันที่ 10 เม.ย.นี้ ซึ่งเขายืนยันว่าถ้าได้รับเงินคืนก็พร้อมจะซื้อตั๋วเดินทางกลับประเทศ แต่ถ้าไม่ได้เงินคืนและไม่สามารถเดินทางกลับได้ก็ขออยู่ที่บริเวณดังกล่าวต่อไป ซึ่งเขาชอบภูเก็ตและประเทศไทยมาก
