xs
xsm
sm
md
lg

สุดทน! นายกเทศมนตรี-กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านกะรน-ราไวย์ บุกพบผู้ว่าฯ จี้ซีลทั้งจังหวัด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สุดทน! นายกเทศมนตรี กำนัน ผู้ใหญ่บ้านกะรน-ราไวย์ บุกพบผู้ว่าฯ จี้ออกประกาศซีลทั้งจังหวัดป้องกันคนเคลื่อนย้าย หลังพบนักท่องเที่ยวทยอยย้ายออกจากป่าตอง พร้อมขอทราบข้อมูลคนป่วยแต่ละพื้นที่เพื่อชี้แจงประชาชน


เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (3 เม.ย.) นายอรุน โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ พร้อมด้วยนายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน นายวินัย ชิดเชี่ยว กำนัน ต.กะรน พร้อมด้วยทีมผู้บริหาร สมาชิกเทศบาลทั้ง 2 แห่ง และผู้ใหญ่บ้านจากทั้ง 2 ตำบล ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ เพื่อเรียกร้องให้จังหวัดออกประกาศปิดพื้นที่ทั้ง 8 ตำบล เพื่อแก้ปัญหาการย้ายคน และลดการแพร่ระบาด โดยมีนายวิกรม จากที่ ปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้แทนในการรับมอบ และรับฟังข้อเสนอ

นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ กล่าวว่า การเดินทางมายื่นหนังสือในครั้งนี้ เนื่องจากทั้ง 2 พื้นที่ได้มีการประชุมร่วมกันทั้งในส่วนของผู้นำชุมชน ผู้บริหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทั้ง 2 ตำบล เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทุกวันเหมือเรากับวิ่งตามโรค ทำให้การแพร่ระบาดยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และนับวันจะขยายพื้นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งนอกจากป่าตอง ก็เริ่มพบผู้ป่วยในพื้นที่กะรน และราไวย์แล้ว จึงอยากให้ทางจังหวัดดำเนินการอย่างจริงจัง


ทางตำบลราไวย์ และกะรน จึงมีความเห็นร่วมกันว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศปิดพื้นที่ทั้ง 18 ตำบล เพื่อที่จะซีลพื้นที่ห้ามไม่ให้มีการเข้าออกระหว่างตำบล ถ้าทำได้เชื่อว่าจะสามารถหยุดการแพร่ระบาดได้อย่างแน่นอน เพราะปัจจุบันพบว่ามีนักท่องเที่ยวที่เคลื่อนย้ายจากป่าตองเข้ามาพักในพื้นที่กะรน และ ราไวย์แล้วจำนวนมาก ซึ่งกระจายไปตามโรงแรมและบ้านเช่า ถ้ายังปล่อยให้เป็นแบบนี้ภูเก็ตไม่สามารถหยุดการแพร่ระบาดของโรคได้

นอกจากนั้น ในส่วนของร้านสะดวกซื้อ ร้านของชำ ทางตำบลราไวย์ และ ต.กะรน ขอให้ประกาศปิดตั้งแต่เวลา 20.00-05.00 น. เพื่อให้คนออกจากบ้าน ที่พักให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่เดินเข้าออกร้านสะดวกซื้อโดยไม่มีการป้องกันตัวเอง จึงอยากให้จังหวัดออกมาตรการเหล่านี้มาควบคุมดูแล


นอกจากนั้น สิ่งที่ผู้นำท้องถิ่นต้องการคือ การเปิดเผยข้อมูลของผู้ป่วย ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดเผยชื่อ แต่ขอให้เปิดเผยในส่วนของพื้นที่ว่าอยู่จุดไหนอย่างไร เพราะตอนนี้ข้อมูลเหล่านั้นถูกปิดกั้น ทำให้ไม่สามารถแจ้งคนในพื้นที่ให้ระวังป้องกันตัวเองได้ แม้แต่มีการพบผู้ป่วยในโรงแรมก็ไม่มีการสั่งปิด ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่และอยากให้เปิดเผยข้อมูลกับท้องถิ่นและกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่

ขณะที่ นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน กล่าวว่า สิ่งที่ทั้ง 2 พื้นที่ต้องการคือ การซีลพื้นที่เข้าออกทั้ง 2 ตำบล เพื่อไม่ให้มีการเข้าออกของคน และนักท่องเที่ยว ถ้าทำได้เร็วเราก็จะสามารถจบเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้ปัญหานี้ไม่จบเพราะคนยังข้ามไปข้ามมาได้ตลอดเวลา นอกจากนั้น ยังอยากให้รวมไปถึงเรือหางยาวนำเที่ยวที่ขณะนี้ยังวิ่งให้บริการนักท่องเที่ยว และรวมถึงรถแท็กซี่ และรถตู้ที่ควรจะให้หยุดวิ่งได้แล้ว


ขณะที่ นายวินัย ชิดเชี่ยว กำนันตำบลกะรน กล่าวว่า สิ่งที่ต้องการเรียกร้องและขอให้จังหวัดดำเนินการคือการประกาศปิดพื้นที่ทุกตำบลทั้ง 18 ตำบล แต่ถ้าทำไม่ได้ขอปิดในส่วนของพื้นที่ที่พร้อมก่อนและเป็นพื้นที่ทีมีการเสี่ยงการแพร่ระบาด เพราะถ้าปิดแค่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งก็ไม่สามารถหยุดโรคระบาดได้ แต่ถ้าทำทุกตำบลพร้อมๆ กัน หลังปิดพื้นที่ก็ให้ทุกตำบลเข้าทำความสะอาดพื้นที่ คัดกรองคน แยกแยะคนป่วย คนเสี่ยง คนเฝ้าระวัง และคนปกติออกจากกัน หลังจากนั้น อาจจะเลือกเกาะใดเกาะหนึ่งในจังหวัดภูเก็ตที่มีโรงแรมที่พักนำคนที่จะต้องเฝ้าระวังไปกักตัวเป็นเวลา 14 วัน โดยรัฐจ่ายค่าแรงขั้นต่ำให้ หลังครบ 14 วันถ้าไม่ป่วยก็กลับขึ้นเกาะใหญ่และกลับไปอยู่บ้านของตัวเองได้

ตนเชื่อว่าถ้าทำได้แบบนี้ภูเก็ตจะรู้เวลาว่าเราสามารถหยุดโรคนี้ได้เมื่อไหร่ แต่ถ้ายังปล่อยไว้แบบนี้เชื่อว่าการแพร่ระบาดของโรคไม่มีวันจบ แต่สิ่งที่จะจบคือจังหวัดภูเก็ต

ขณะที่ นายวิกรม จากที่ ปลัดจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จะนำข้อเสนอของทางตำบลกะรน และราไวย์ ไปนำเสนอต่อทางผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งขณะนี้ในส่วนของป่าตองคืนนี้น่าจะมีการประกาศเรื่องซีลป่าตองออกมา ซึ่งอาจจะมีการประกาศซีลพื้นที่ตำบลราไวย์ และตำบลกะรนออกมาด้วยก็ได้


กำลังโหลดความคิดเห็น