ศูนย์ข่าวภาคใต้ -ผอ.รพ.สต.ยะรัง จ.ปัตตานี ประกาศลาออกหลังสื่อออนไลน์นำเสนอข่าวกักตัวผู้เดินทางกลับจากมาเลย์ในพื้นที่ ต.ยะรัง ทั้งครอบครัว มีลูกคนเดียวส่งข้าวน้ำ เพื่อแสดงความรับผิดชอบและขออภัยต่อกรณีที่เกิดขึ้น แจงที่ผ่านมาดูแลครอบครัวนี้มาเป็นอย่างดี ทั้งโครงการตามงบประมาณทางราชการและเงินส่วนตัวของทีมงาน ย้ำไม่ได้ห้ามให้คนอื่นเอาของมาให้ แต่ไม่ต้องการให้เข้าบริเวณ อบต.ก็เตรียมของมาแล้ว แต่อาจล่าช้าเพราะมีหลายเคสในวันนั้น
วันนี้ (3 เม.ย.) นายการียา ยือแร ผอ.รพ.สต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ Ya Yuerae ว่า ได้ยื่นเรื่องขอลาออกจากราชการต่อผู้บังคับบัญชาแล้ว เพื่อรับผิดชอบต่อกรณีที่เพจ Patani NOTES นำเสนอข่าว “กักตัวทั้งครอบครัว มีลูกคนเดียวส่งข้าวน้ำ” เมื่อวันที่ 1 เม.ย. และขออภัยต่อกรณีที่เกิดขึ้น
นายการียา ระบุว่า ตนในฐานะ ผอ.รพ.สต.ยะรัง ขอเรียนว่า ได้รับรายงานกรณีผู้เดินทางกลับจากมาเลเซียรายนี้ ช่วงบ่ายวันที่ 30 มี.ค. จึงได้ประสานกับทีมตำบล ประกอบด้วย ฝ่ายสาธารณสุข ฝ่ายปกครอง อบต. ผู้นำชุมชน ด้วยความเป็นห่วงของทีมงานที่มีต่อครอบครัวนี้ ซึ่งมีผู้สูงอายุหลายคน จึงตัดสินใจนำผู้ที่เดินทางกลับจากมาเลเซีย 1 คน เข้าพักที่ศูนย์ฯ ตำบลยะรัง พร้อมได้ชี้แจง ใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากครอบครัวไม่ต้องการจะไปที่ศูนย์ฯ ทีมได้พยายามอธิบายถึงเหตุผลต่างๆ จนสุดท้าย ครอบครัวจึงยินยอมนำเข้าศูนย์เวลาประมาณ 18.00 น. โดยที่ศูนย์มีทีม ชรบ.และหน่วยกู้ชีพพักอยู่บริเวณศูนย์ดังกล่าวตามแนวทางมาตรการที่กำหนด และเคสนี้มีโทรศัพท์ติดต่อได้ตลอดเวลา ทาง อบต. ได้จัดหาอาหารครบ 3 มื้อ มีไวไฟใช้อินเทอร์เน็ตได้ และอื่นๆ ที่จำเป็น
นายการียา กล่าวว่า ในวันดังกล่าวมีเคสที่ต้องดำเนินการหลายเคส หลายกรณี มันเป็นเรื่องใหม่สำหรับทุกคน ผมเข้าใจว่าในวันนั้น ทุกคนเหนื่อยล้ามาตลอดทั้งวันแล้ว แต่ก็ยินดีที่จะช่วยชาวบ้านด้วยความบริสุทธิ์ใจ มีบางประเด็นที่อาจเข้าใจไม่ตรงกัน ทุกคนก็พร้อมตลอดเวลาที่จะให้การสนับสนุน และหากมีสิ่งใดที่ต้องการสามารถเข้าหาทีมงานได้ตลอดเวลา แต่จากการนำเสนอข่าวนี้ ทำให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่อย่างมาก ที่ผ่านมา ทีมงานหลายฝ่าย ทั้งสาธารณสุข อบต. ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชนได้มีการดูแลพื้นที่นี้ในด้านต่างๆ เป็นอย่างดี
“โดยเฉพาะกับครอบครัวนี้ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทีมงานได้มอบปัจจัยยังชีพ เครื่องอุปโภคบริโภค ในวาระต่างๆ มาโดยตลอด ทั้งที่เป็นงบประมาณทางราชการและเงินส่วนตัวของทีมงาน ประสานกับองค์กรภายนอก เช่นเมื่อ 3-4 เดือนที่แล้ว ทีมงานได้ประสานกับสมาคมจันทร์เสี้ยวการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อขอรับการสนับสนุนเงินช่วยในการจัดทำห้องน้ำที่เหมาะสมต่อผู้ป่วยสูงอายุในบ้านที่ไม่สามารถเดินไปไหนได้ เนื่องจากสภาพเดิมมีสภาพที่ไม่เหมาะสม ซึ่งได้รับการสนับสนุนเงิน 10,000 บาท เป็นต้น” นายการียา กล่าว
“การให้ข่าวว่า มีลูกคนเดียวส่งข้าวส่งน้ำ ทำให้หลายคนไม่สบายใจประเด็นนี้ เนื่องจากสังคมมุสลิมเป็นสังคมเอื้ออาทรกัน ประกอบกับบริเวณรอบๆ บ้าน เป็นหลาน หรือญาติกันทั้งนั้น ในวันดังกล่าวทีมงานได้ชี้แจงแล้วว่าเราไม่ได้ห้ามเรื่องการที่คนข้างนอกจะมามอบปัจจัยยังชีพให้ครอบครัวนี้ เพียงแต่ไม่ต้องการให้คนข้างนอกเข้ามาในบริเวณบ้านที่กำหนด และ อบต. ก็ได้เตรียมที่จะนำปัจจัยยังชีพมามอบแล้ว แต่ด้วยความที่มีหลายเคส หลายกรณีที่ต้องดำเนินการ ภายใต้ข้อจำกัดหลายด้าน อาจทำให้มีความล่าช้าบ้าง แต่ผมในฐานะที่ทำงานในระดับชุมชนมานาน ผมเห็นความตั้งใจ และขอรับรองว่าทีมงาน จากหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ทั้งสาธารณสุข อบต.ยะรัง ปกครอง ผู้นำชุมชน มีความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะช่วยเหลือชุมชนด้วยความยินดี”
“ความไม่สบายใจของครอบครัวนี้ ที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานในครั้งนี้ มีข้อผิดพลาดประการใด ผมในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลยะรัง ขออภัย และขอรับผิดชอบในการตัดสินใจในวันนั้นทั้งหมด โดยการลาออกจากราชการ ซึ่งผมได้ยื่นเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาตามขั้นตอนแล้ว การตัดสินใจในครั้งนี้ ผมคิดว่า จะไม่ส่งผลเสียต่อทางราชการ เนื่องจากหากผมลาออกแล้ว ทางราชการก็จะจัดหาบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ มาทำงาน”