พังงา - ผู้ว่าฯ พังงาเอาจริง ประกาศปิดเมือง 4 เมษายนนี้ ห้ามบุคคลทั่วไปเดินทางเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดพังงาเด็ดขาด หวังรักษาพื้นที่สีขาวให้ได้
นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพังงา เพื่อพิจารณาร่างประกาศจังหวัดพังงา ฉบับที่ 7/2563 เรื่อง ปิดสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและกำหนดมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เนื่องจากยังพบการแพร่ระบาดอยู่อย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ และมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน
ประกอบกับจังหวัดใกล้เคียงได้ประกาศปิดเมือง ทำให้มีกลุ่มบุคคลเดินทางเข้ามาในจังหวัดพังงากว่า 1,000 คน และยังมีสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพังงาจึงมีมติเห็นชอบจากการประชุมในครั้งนี้ ให้ปิดสถานที่เสี่ยงเพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์ในระดับประเทศจะคลี่คลาย
โดยประกาศให้ร้านสะดวกซื้อที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง หรือร้านอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ให้ปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. ปิดโรงแรมและรีสอร์ต หรือสถานที่อื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน พร้อมกับกำหนดมาตรการห้ามบุคคลทั่วไปเดินทางเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดพังงา เว้นแต่บุคคลดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อการพบแพทย์ การรักษาพยาบาล การปฏิบัติหน้าที่แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์และการสาธารณสุข หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกู้ชีพ กู้ภัย การปฏิบัติงานหรือการทำธุรกรรมเกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์และสถาบันการเงิน ตู้เอทีเอ็ม โทรคมนาคมและไปรษณีย์ การให้บริการขนส่งสินค้าเพื่อการบริโภคอุปโภค การจัดหาและซื้อขายอาหาร ยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ การติดต่อด้านคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานอัยการ หรือศาล ตามความจำเป็น
หรือการเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งต่างๆ ของทางราชการ หรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อระดับอำเภอประจำด่านขาเข้า ภายใต้เงื่อนไขว่า เมื่อบุคคลดังกล่าวเดินทางออกไปจากจังหวัดพังงา ต้องไปรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อระดับอำเภอประจำด่านขาออกและต้องปฏิบัติตามมาตรการที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อระดับอำเกอประจำด่านกำหนด เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้จะมีความผิดและรับโทษตามกฎหมาย
นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพังงา เพื่อพิจารณาร่างประกาศจังหวัดพังงา ฉบับที่ 7/2563 เรื่อง ปิดสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและกำหนดมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เนื่องจากยังพบการแพร่ระบาดอยู่อย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ และมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน
ประกอบกับจังหวัดใกล้เคียงได้ประกาศปิดเมือง ทำให้มีกลุ่มบุคคลเดินทางเข้ามาในจังหวัดพังงากว่า 1,000 คน และยังมีสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพังงาจึงมีมติเห็นชอบจากการประชุมในครั้งนี้ ให้ปิดสถานที่เสี่ยงเพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์ในระดับประเทศจะคลี่คลาย
โดยประกาศให้ร้านสะดวกซื้อที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง หรือร้านอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ให้ปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. ปิดโรงแรมและรีสอร์ต หรือสถานที่อื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน พร้อมกับกำหนดมาตรการห้ามบุคคลทั่วไปเดินทางเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดพังงา เว้นแต่บุคคลดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อการพบแพทย์ การรักษาพยาบาล การปฏิบัติหน้าที่แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์และการสาธารณสุข หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกู้ชีพ กู้ภัย การปฏิบัติงานหรือการทำธุรกรรมเกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์และสถาบันการเงิน ตู้เอทีเอ็ม โทรคมนาคมและไปรษณีย์ การให้บริการขนส่งสินค้าเพื่อการบริโภคอุปโภค การจัดหาและซื้อขายอาหาร ยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ การติดต่อด้านคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานอัยการ หรือศาล ตามความจำเป็น
หรือการเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งต่างๆ ของทางราชการ หรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อระดับอำเภอประจำด่านขาเข้า ภายใต้เงื่อนไขว่า เมื่อบุคคลดังกล่าวเดินทางออกไปจากจังหวัดพังงา ต้องไปรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อระดับอำเภอประจำด่านขาออกและต้องปฏิบัติตามมาตรการที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อระดับอำเกอประจำด่านกำหนด เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้จะมีความผิดและรับโทษตามกฎหมาย