ตรัง - เกษตรกรชาว ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง “ปลูกหญ้า” ไว้จำหน่ายให้แก่เจ้าของวัว ทั้งในและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งขายดีมากในช่วงหน้าแล้ง เพราะหญ้าธรรมชาติขาดแคลน จนบางรายต้องจองล่วงหน้า
นายสำราญ เวชสิทธิ์ อายุ 45 ปี เกษตรกรชาวหมู่ 10 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง ได้นำพื้นที่นาร้างกว่า 20 ไร่ มาทำเป็นแปลงปลูกหญ้าสำหรับเลี้ยงวัว ไว้จำหน่ายให้แก่เจ้าของวัว โดยเฉพาะวัวชนที่มีเป็นจำนวนมากในพื้นที่ จ.ตรัง และจังหวัดใกล้เคียง โดยแปลงหญ้าทั้งหมดทำแบ่งกับพี่ชายคนละครึ่ง ซึ่งปลูกเป็นแปลงหญ้าถาวรมายาวนานหลายปีแล้ว และเป็นที่รู้จักของเจ้าของวัวชนทั้งในพื้นที่ และต่างจังหวัด ที่เดินทางมาซื้อเป็นจำนวนมากตลอดทั้งปี จนมีไม่พอจำหน่ายโดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งเป็นช่วงที่หญ้าตามธรรมชาติแห้งตายอันเนื่องมาจากปัญหาภัยแล้ง ซึ่งจำเป็นต้องพึ่งหญ้าที่ปลูกไว้
ทั้งนี้ ในจังหวัดตรัง มีเกษตรกรหันมาปลูกหญ้าวัวเป็นจำนวนมาก แต่เป็นการปลูกในระยะสั้นช่วงหน้าแล้งเท่านั้น ส่วนที่ปลูกเป็นแหล่งหญ้าถาวรมีเพียงจำนวนน้อยมาก ซึ่งการปลูกหญ้าวัวทำไม่ยาก เพียงแต่ต้องมีแหล่งน้ำเพียงพอสำหรับใช้รดหญ้าในยามหน้าแล้ง โดยการติดตั้งสปริงเกอร์เพื่อความสะดวก และง่ายในการดูแลรักษา รวมทั้งการบำรุงต้นโดยการใส่ปุ๋ยเท่านั้น ซึ่งการปลูกจะแบ่งพื้นที่ทำเป็นแปลงเล็กๆ ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาวประมาณ 30 เมตร เพื่อให้ง่ายต่อการบำรุงรักษา และจะได้มีแปลงหญ้าที่สมบูรณ์ให้สามารถตัดขายได้ตลอดเวลา เนื่องจากจะมีหญ้าที่สมบูรณ์ต่อเนื่องกันไป
นายสำราญ เวชสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเองเลี้ยววัวเอาไว้หลายตัว จึงร่วมกับพี่ชายหันมาปลูกหญ้าวัวจำหน่าย เพราะคิดว่าสามารถสร้างรายได้ให้ทั้งปี เนื่องจากวัวก็ต้องกินหญ้า โดยมีเนื้อที่ทั้งหมดกว่า 20 ไร่ จึงแบ่งกันคนละครึ่ง แบ่งทำแปลงเล็กๆ กว้าง 5 เมตร ยาว 30 เมตร เพื่อให้สามารถกำหนดระยะเวลาในการตัดขายได้ตลอด รวมทั้งการบำรุงรักษาก็จะทำได้ง่าย ซึ่งหญ้าปลูกง่ายเพียงประมาณเดือนเศษก็สามารถตัดขายได้ ซึ่งแต่ละแปลงจะได้หญ้าประมาณ 20 เข่ง โดยขายในราคาเข่งละ 200 บาท และจะมีเจ้าของวัวมารับซื้อถึงแปลง ทั้งนี้ มีไม่พอจำหน่ายโดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งหญ้าขาดแคลนเพราะภัยแล้ง จะมีคนจองหญ้าไว้ก่อนล่วงหน้า บางรายสั่งซื้อผูกขาดข้ามปี เพราะต้องแย่งกันซื้อ ทำให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัว
