นครศรีธรรมราช - พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 6 ของ จ.นครศรีธรรมราช เป็นนักศึกษาวัย 25 ปี หลังเดินทางกลับมาจากปากีสถาน จนท.เร่งสืบสวนโรคติดตามกลุ่มเสี่ยง ด้าน ส.ส.หญิงหนึ่งเดียวเมืองคอน ใจป้ำมอบเงินเดือน ส.ส.ทั้งเดือนช่วยเหลือศูนย์ปฏิบัติการต้านโควิด-19
วันนี้ (1 เม.ย.) ที่ศาลาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ประธานคณะกรรมการควบคุมโรคระบาดจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เรียกคณะกรรมการประชุมด่วนติดตามสถานการณ์และการสืบสวนโรค โดย นพ.จรัสพงศ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อรายที่ 6 ของ จ.นครศรีธรรมราช เป็นนักศึกษาไทย อายุ 25 ปี ที่มีภูมิลำเนาอยู่ใน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเดินทางกลับมาจากประเทศปากีสถาน ตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้เดินทางออกจากปากีสถาน มายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แล้วเดินทางต่อด้วยเครื่องบินมาลงที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ แล้วมีบิดา ซึ่งเป็นผู้นำท้องถิ่นไปรับที่หาดใหญ่ พร้อมด้วยเพื่อนรวม 4 คน ซึ่งหลังจากมาถึงบ้านใน อ.หัวไทร นักศึกษารายนี้ได้กักตัวเองในบ้าน และปรากฏอาการป่วยเมื่อผ่านไป 12 วัน จึงได้มาพบแพทย์ และเมื่อตรวจเชื้อจึงพบว่ามีเชื้อโควิด-19 ขณะนี้ได้นำตัวมารักษาอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชเรียบร้อยแล้ว
นพ.จรัสพงศ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังรายงานการติดตามกลุ่มเสี่ยง ซึ่งประกอบด้วย เพื่อนที่เดินทางมาด้วยกันอาศัยอยู่ใน อ.ปากพนัง 1 ราย ใน อ.บางขัน 1 ราย อยู่ระหว่างเฝ้าติดตามอาการ รวมทั้งบิดาซึ่งเป็นผู้ขับรถยนต์ไปรับที่สนามบินหาดใหญ่ นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังติดตามการเดินทางกลับมาของชาวนครศรีธรรมราช ที่มาจาก จ.ภูเก็ต ยะลา และ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง
ขณะเดียวกัน น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาร่วมประชุมกับคณะกรรมการควบคุมโรคระบาดนครศรีธรรมราช และได้มอบเงินเดือนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของเดือนมีนาคม 2563 จำนวนเงิน 1 แสนบาท ให้แก่คณะกรรมการควบคุมโรคระบาด จ.นครศรีธรรมราช เพื่อใช้ในการปฏิบัติการแก้ไขปัญหา สำหรับ จ.นครศรีธรรมราช มี ส.ส.จำนวน 8 คน มี น.ส.พิมพ์ภัทรา เพียงรายเดียวที่ได้นำเงินเดือนเข้าบริจาคอย่างเป็นทางการให้แก่การแก้ไขปัญหาโควิด-19
ส่วนที่ชุมชนอาศัยของผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายล่าสุดใน อ.หัวไทร เทศบาลตำบลหัวไทร ได้จัดเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยชุดฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเข้าฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่บ้านพักของผู้ป่วย สถานที่กักตัวก่อนหน้าที่จะมีการตรวจพบเชื้อ โดยการตรวจพบเชื้อในพื้นที่ชุมชนแห่งนี้ ซึ่งมีการก่อสร้างบ้านที่อยู่ใกล้ชิดกันเป็นส่วนมาก ทำให้สมาชิกในชุมชนเกิดความหวาดวิตก จึงได้ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่อง ขณะที่สาธารณสุขอำเภอได้เข้าทำความเข้าใจ และติดตามผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย เพื่อเข้าสู่กระบวนการกักตัวตรวจสอบเชื้อเป็นเวลา 14 วันแล้ว
