นราธิวาส - โรงแรม 5 ดาวในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เริ่มทยอยหยุดกิจการลงในวันนี้เป็นระยะเวลา 1 เดือน เหตุผลกระทบโควิด-19 และเพื่อเป็นการลดและป้องกันการแพร่ระบาด รวมไปถึงการเซฟค่าใช้จ่ายของโรงแรม ซึ่งตกอยู่ในสภาวะที่ไม่มีผู้มาใช้บริการเลย
วันนี้ (1 เม.ย.) รายงานข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 จากพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ล่าสุดพบว่าโรงแรมที่เปิดกิจการในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 50 แห่ง ได้เริ่มทยอยปิดกิจการลงในวันนี้ โดยเฉพาะโรงแรมระดับ 5 ดาว เช่น โรงแรมเก็นติ้ง มารีน่า ธารารีเจนท์ เมอลิน ปาร์คสัน ทักษิณ 1 และทักษิณ 2 โดยมีการประกาศปิดกิจการในระยะแรก 1 เดือน
โดยที่โรงแรมแต่ละแห่งได้เขียนป้ายประกาศติดไว้บริเวณประตูทางเข้าโรงแรม หรือการล็อกกุญแจให้ลูกค้าได้รับทราบ และหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมให้อยู่ในวงจำกัด ก็จะประกาศปิดอีกครั้งในเดือนถัดไป เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ที่ไม่สามารถเดินทางข้ามแดนมาใช้บริการได้ จากมาตรการกฎเหล็กที่ประเทศมาเลเซียสั่งปิดประเทศเป็นเวลา 1 เดือน
และประการสำคัญลูกค้าชาวไทยต่างพื้นที่ส่วนหนึ่งก็ไม่สามารถเดินทางมาใช้บริการได้ จากมาตรการแต่ละจังหวัดได้ประกาศงดการเดินทางข้ามจังหวัด ซึ่งโรงแรมระดับ 5 ดาว มีค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนสูง ถ้าฝืนเปิดให้บริการไปอย่างต่อเนื่อง ก็ไม่มีเงินเพียงพอที่ต้องมาจ่ายให้แก่พนักงาน โดยโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ปิดกิจการในครั้งนี้ ส่วนใหญ่มีการทำความเข้าใจกับพนักงาน โดยยอมจ่ายเงินเดือนให้แก่พนักงานครึ่งเดือน ส่วนที่เหลือจะมีการประสานกับสำนักงานประกันสังคม เพื่อจ่ายชดเชยส่วนที่เหลือ
ด้าน นายสมโภชน์ หงส์กิตติยานนท์ กรรมการผู้จัดการโรงแรมเก็นติ้ง กล่าวว่า ทางโรงแรมเรามีความจำเป็นต้องปิดกิจการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทราบกันดีสถานการณ์มีความรุนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งกระทบต่อสถานประกอบการโรงแรม เพราะฉะนั้นเพื่อเป็นการลดและป้องกันการแพร่ระบาด รวมไปถึงการเซฟค่าใช้จ่ายของโรงแรม ซึ่งตกอยู่ในสภาวะที่ไม่มีผู้มาใช้บริการเลย เนื่องจากสถานบันเทิงและห้องอาหารของโรงแรมก็ถูกปิดไปหมดแล้ว
ซึ่งทำให้เหลือแต่ห้องพักที่ปัจจุบันไม่มีใครมาพักเลย คืนหนึ่งได้ลูกค้าเพียงคน 2 คน หรืออย่างมากก็ 4-5 คนเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมา ลูกค้าหลักเป็นชาวมาเลเซีย แต่ทุกวันนี้เราปิดพรมแดนไปแล้วปิดประเทศไปแล้ว ฉะนั้นทางนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียไม่มีเข้ามาแล้ว จึงตัดสินใจปิดกิจการดีกว่าเพื่อความอยู่รอดของสถานประกอบการ
