xs
xsm
sm
md
lg

ศาลพิพากษาประหารจำเลยคดียิงเด็ก ม.4 กลางเมืองตรังดับ พร้อมชดใช้ 2.1 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



  
ตรัง - ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิตผู้ต้องหายิงนักเรียน ม.4 ของ ร.ร.เอกชนแห่งหนึ่งใน อ.เมืองตรังเสียชีวิต เมื่อปี 2561 พร้อมให้ชดใช้ 2.1 ล้านบาท พ่อแม่บอกไม่อยากได้เงินชดเชย อยากได้ชีวิตลูกชายกลับคืนมา ขณะเหยื่อกระสุนอีกคน ยังไม่พอใจอัยการสั่งไม่ฟ้อง 2 ผู้ร่วมก่อเหตุ

วันนี้ (1 เม.ย.) ศาลจังหวัดตรังได้ออกนั่งบัลลังก์พิพากษาประหารชีวิตนายธีรยุทธ สมสู่ อายุ 52 ปี ชาว ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง ในข้อหาฆ่า พยายามฆ่า ผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุจำเป็น และเร่งด่วนแก่พฤติการณ์ รวมทั้งให้ชดเชยค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายทั้ง 2 คนคือ นายรัชพล กลับจิตร อายุ 42 ปี เป็นจำนวนเงิน 7 แสนบาท และครอบครัวของนายธีรวัฒน์ บูรณ์ชะนะ อายุ 16 ปี จำนวนเงิน 2 ล้าน 1 แสนบาท

คดีดังกล่าว อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายธีรยุทธ สมสู่ เป็นจำเลย ใช้อาวุธปืนยิงนายธีรวัฒน์ บูรณ์ชะนะ หรือน้องนิว อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.เมืองตรัง และพยายามฆ่านายรัชพล กลับจิตร อายุ 42 ปี เหตุเกิดจากนายธียุทธมีปัญหาขัดแย้งกับนายรัชพลเพียงประมาณ 2-3 วัน จึงนำอาวุธปืนไปลอบยิง กระสุนถูกนายธีรวัฒน์เสียชีวิต ส่วนนายรัชพลได้รับบาดเจ็บและวิ่งหนีเอาตัวรอดมาได้ เหตุเกิดคืนวันที่ 2 ธ.ค. 2561 บริเวณถนนในหมู่บ้าน หมู่ที่ 5 ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมือง จ.ตรัง

หลังรับฟังคำตัดสิน ฝ่ายผู้เสียหายต่างพอใจเป็นอย่างมาก โดยนายรัชพล กล่าวว่า ตนเองพอใจในคำตัดสินของศาล แต่คงเหลือ 2 คนที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง คือ นายปัญญา บุญคง หรือโจ อายุ 44 ปี ชาว ต.นาโต๊ะหมิง และนายยงค์ บัวนุ้ย อายุ 50 ปี ชาว ต.บ้านควน อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นเพื่อนกับนายธีรยุทธ ที่ร่วมกันใช้อาวุธปืนไล่ยิงตนเองเข้าไปในสวนปาล์มน้ำมัน หลังจากที่ตนเองถูกกระสุนปืนของนายธีรยุทธเข้าที่ต้นแขนแล้ววิ่งหนี จังหวะที่ตนสะดุดล้มลงยังหันไปมองเห็นทั้ง 2 คน ซึ่งส่งตะโกนไล่หลังมาพร้อมกับเสียงปืนว่า ฆ่ามันให้ตายๆ แต่อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง โดยให้เหตุผลว่าคำให้การของตนไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากตนมาให้การเพิ่มเติมหลังจากเกิดเหตุมาแล้วประมาณ 1 เดือน และเกิดในเวลากลางคืน ทำให้แสงสว่างไม่เพียงพอ มองเห็นไม่ชัด

“ผมยืนยันว่าเห็นชัดเจน แต่ที่ผมไม่กล้าให้การกับตำรวจในคืนเกิดเหตุ เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกที่อยู่กับพ่อและแม่ของผม นายโจและนายยงค์มีภรรยาอยู่ใกล้บ้านพ่อของผม ทั้งนายโจและนายยงค์ไปข่มขู่ลูกผมบ่อยๆ จึงบอกกับตำรวจในภายหลัง เป็นผลทำให้อัยการสั่งไม่ฟ้อง แต่ในส่วนของนายอ้นนั้นเป็นคนนอกพื้นที่ทั้งสามีภรรยา” นายรัชพล กล่าว

นายรัชพล กล่าวอีกว่า แม้ศาลชั้นต้นจะตัดสินคดีนี้แล้ว แต่ตนก็ยังคงต้องระวังตัวต่อไป และยังอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองพยานเพื่อความปลอดภัย ส่วนสภาพร่างกาย แขนซ้ายข้างที่ถูกยิง ยังยกไม่ค่อยขึ้น อ่อนแรงใช้งานแทบไม่ได้ และถ้านั่งนานๆ จะรู้สึกเจ็บตั้งแต่มือขี้นไปจนถึงต้นคอ ขยำอะไรไม่ได้ เหมือนกับคนไม่มีแรง หมอได้แนะนำให้ทำกายภาพบำบัดที่บ้านเพื่อช่วยบำบัดอาการให้ดีขึ้น หมอบอกว่า เอ็นและมัดกล้ามเนื้อขาด ซึ่งหมอได้ต่อให้ แต่มีสภาพกลับมาได้แค่ประมาณ 70% เท่านั้น ส่วนลูก 3 คน ที่เรียนอยู่โรงเรียนเดิมต้องย้ายลูกไปหาที่เรียนใหม่ เพราะยังถูกข่มขู่คุกคาม

ขณะที่นายอนันต์และนางสอง บูรณ์ชะนะ พ่อและแม่ของนายธีรวัฒน์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกพอใจในคำตัดสินครั้งนี้และคุ้มค่าในการออกมาต่อสู้เรียกร้องขอความเป็นธรรมมาอย่างยาวนานให้แก่ลูกชาย ในส่วนที่ศาลสั่งให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ครอบครัวนั้น ตนและครอบครัวไม่อยากได้ แต่อยากได้ชีวิตลูกชายกลับคืนมากกว่า เพราะเราเลี้ยงลูกชายมาด้วยความรัก แต่ไม่นึกว่าจะต้องมาถูกฆ่าตายเช่นนี้ และหากฝ่ายจำเลยจะยื่นอุทธรณ์ก็เป็นสิทธิของเขา ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ใครทำอะไรไว้ก็จะได้รับสิ่งนั้น ส่วนอีก 2 คน ที่อัยการสั่งไม่ฟ้องก็ไม่เป็นไร คงปล่อยให้เป็นเรื่องของเวรกรรมของตัวเขาเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น