ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “โควิด-19” กระทบแรงฉุดไม่อยู่ นักท่องเที่ยวทางเรือเหลือไม่ถึง 20% ผู้ประกอบการปิดให้บริการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น หวั่นยังเปิดต่อพนักงานเสี่ยงติดโรคจากนักท่องเที่ยวได้
การแพร่ระบาดของโรค “โควิด-19” นับว่าสถานการณ์มีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบไปทั่วโลก สำหรับในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยว และเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเศรษฐกิจหลักของภูเก็ตขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยว
สำหรับการท่องเที่ยวทางเรือก็เป็นอีกภาคส่วนการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวทางเรือหายไปอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าปัจจุบันจะมีอยู่บ้านแต่แค่เพียงส่วนน้อยเท่านั้น โดยเฉพาะที่บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง นายประสิทธิ์ โยธารักษ์ ผู้อำนวยการกองกิจการขนส่ง อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือที่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการในการเดินทางไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งในภูเก็ต พังงา และกระบี่ ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน แต่หลังจากเกิดโรคระบาด “โควิด-19” ปรากฏว่า นักท่องเที่ยวจีนหายไปทั้งหมด ที่เหลืออยู่ในปัจจุบันเป็นนักท่องเที่ยวจากกลุ่มยุโรป รัสเซีย ชาติตะวันตกเท่านั้น
โดยปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการท่าเทียบเรืออ่าวฉลองมีอยู่ประมาณ 20-25% รายได้เหลือประมาณวันละ 20,000 บาท จากเดิมที่เก็บได้วัน 60,000-70,000 บาท อย่างไรก็ตาม หลังจากที่หลายประเทศในชาติตะวันตก และประเทศที่มีการแพร่ระบาดประกาศปิดประเทศ นักท่องเที่ยวที่มีอยู่ขณะนี้ก็จะต้องเดินทางกลับ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต แม้ว่าที่ผ่านมา ทางท่าเทียบเรือเองพยายามที่จะสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งการให้บริการจุดล้างมือก่อนลงเรือ ขึ้นเรือ การทำความสะอาดและพ่นยาฆ่าเชื้อมาโดยตลอด แต่หลังจากโรคระบาดหนักขึ้นคนก็จะไม่ออกเดินทางท่องเที่ยว
ขณะที่ นายนิกร ปภากิจยศพัฒน์ ผู้บริการบริษัทนิกร กรุ๊ป กล่าวถึงสถานการณ์ การท่องเที่ยวทางเรือ ว่า ปัจจุบันการท่องเที่ยวทางเรือได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากนักท่องเที่ยวหายทั้งหมด ผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวหยุดกิจการไปแล้วหลายราย สำหรับในส่วนของนิกร มารีน ขณะนี้ได้มีการปิดให้บริการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เนื่องจากเหลือแขกไม่มาก และไม่ต้องการให้น้องๆ มาเสี่ยงกับเชื้อโรคระบาด จึงตัดสินใจปิดให้บริการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ซึ่งในส่วนของยุโรปเองก็เริ่มที่จะปิดประเทศแล้ว ประกอบกับค่าใช้จ่ายก็สูงขึ้น พนักงานที่อยู่ในบริษัทก็มีมากกว่า 300 คน
การแพร่ระบาดของโรค “โควิด-19” นับว่าสถานการณ์มีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบไปทั่วโลก สำหรับในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยว และเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเศรษฐกิจหลักของภูเก็ตขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยว
สำหรับการท่องเที่ยวทางเรือก็เป็นอีกภาคส่วนการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวทางเรือหายไปอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าปัจจุบันจะมีอยู่บ้านแต่แค่เพียงส่วนน้อยเท่านั้น โดยเฉพาะที่บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง นายประสิทธิ์ โยธารักษ์ ผู้อำนวยการกองกิจการขนส่ง อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือที่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการในการเดินทางไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งในภูเก็ต พังงา และกระบี่ ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน แต่หลังจากเกิดโรคระบาด “โควิด-19” ปรากฏว่า นักท่องเที่ยวจีนหายไปทั้งหมด ที่เหลืออยู่ในปัจจุบันเป็นนักท่องเที่ยวจากกลุ่มยุโรป รัสเซีย ชาติตะวันตกเท่านั้น
โดยปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการท่าเทียบเรืออ่าวฉลองมีอยู่ประมาณ 20-25% รายได้เหลือประมาณวันละ 20,000 บาท จากเดิมที่เก็บได้วัน 60,000-70,000 บาท อย่างไรก็ตาม หลังจากที่หลายประเทศในชาติตะวันตก และประเทศที่มีการแพร่ระบาดประกาศปิดประเทศ นักท่องเที่ยวที่มีอยู่ขณะนี้ก็จะต้องเดินทางกลับ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต แม้ว่าที่ผ่านมา ทางท่าเทียบเรือเองพยายามที่จะสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งการให้บริการจุดล้างมือก่อนลงเรือ ขึ้นเรือ การทำความสะอาดและพ่นยาฆ่าเชื้อมาโดยตลอด แต่หลังจากโรคระบาดหนักขึ้นคนก็จะไม่ออกเดินทางท่องเที่ยว
ขณะที่ นายนิกร ปภากิจยศพัฒน์ ผู้บริการบริษัทนิกร กรุ๊ป กล่าวถึงสถานการณ์ การท่องเที่ยวทางเรือ ว่า ปัจจุบันการท่องเที่ยวทางเรือได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากนักท่องเที่ยวหายทั้งหมด ผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวหยุดกิจการไปแล้วหลายราย สำหรับในส่วนของนิกร มารีน ขณะนี้ได้มีการปิดให้บริการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เนื่องจากเหลือแขกไม่มาก และไม่ต้องการให้น้องๆ มาเสี่ยงกับเชื้อโรคระบาด จึงตัดสินใจปิดให้บริการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ซึ่งในส่วนของยุโรปเองก็เริ่มที่จะปิดประเทศแล้ว ประกอบกับค่าใช้จ่ายก็สูงขึ้น พนักงานที่อยู่ในบริษัทก็มีมากกว่า 300 คน