ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต มีมติปิดสถานที่เสี่ยงแพร่เชื้อโควิด-19 เพิ่มเติม สวนสาธารณะ คลินิกทันตกรรม พร้อมออกประกาศมาตรการขอความร่วมมืองดออกจากบ้านและโรงแรม หลังนักท่องเที่ยวและกลุ่มวัยรุ่นจับกลุ่มตามชายหาดและสถานที่สาธารณะ
นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หลังประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (25 มี.ค.) ว่า คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ได้พิจารณาสั่งปิดสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เพิ่มเติมจากที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยเฉพาะในส่วนของสวนสาธารณะ ซึ่งยังมีผู้คนยังไม่เข้าใจในการดูแลตัวเองและครอบครัว รวมถึงคลินิกทันตกรรม แต่ไม่รวมถึงคลินิกทันตกรรมในโรงพยาบาล
ส่วนกรณีที่มีกลุ่มวัยรุ่น และนักท่องเที่ยวไปจับกลุ่มกันสังสรรค์ตามชายหาดและพื้นที่อื่นๆ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภายหลังจากที่มีข่าวว่านักท่องเที่ยวได้ไปจับกลุ่มดื่มกินกันที่บริเวณชายหาดป่าตองในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ทางจังหวัดได้สั่งการให้นายอำเภอกะทู้ และ สภ.กะทู้ ไปทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวว่ามีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ ซึ่งนักท่องเที่ยวก็เข้าใจและยอมออกจากชายหาดตั้งแต่เวลา 21.00 น.เป็นต้นมา ชายหาดก็ไม่มีกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งในจุดนี้ทางจังหวัดเข้าใจถึงนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อน แต่เมื่อมีการประกาศปิดทั้งสถานบันเทิง สระว่ายน้ำโรงแรม พูลวิลล่า รวมไปถึงกิจกรรมต่างๆ ที่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ โดยเฉพาะสระว่ายน้ำหากระบบคลอรีนไม่ได้มาตรฐานจะทำให้มีการแพร่เชื้อได้ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่มีสถานที่ในการพักผ่อน จึงออกนอกสถานที่พักมาอยู่ตามชายหาด
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อว่า เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ได้มีมติให้ออกประกาศจังหวัดภูเก็ต ถึงมาตรการในการปฏิบัติตัวของนักท่องเที่ยวขณะที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ตในภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก ในเรื่องของการปิดสถานที่ต่างๆ สถานบันเทิง ซึ่งมีประกาศเป็นภาษาอังกฤษคิดว่านักท่องเที่ยวน่าจะเข้าใจในสถานการณ์ แต่ในส่วนของมาตรการในการห้ามออกนอกที่พักทางจังหวัดจะประกาศออกมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใจ ผ่านทางนายอำเภอ เสียงตามสาย พร้อมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการโรงแรม กงสุลประเทศต่างๆ ในการกระจายให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบ เพื่อขอความร่วมมือในการงดออกจากเคหสถาน หรือโรงแรม หากไม่มีความจำเป็น เพื่อร่วมกันควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หลังประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (25 มี.ค.) ว่า คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ได้พิจารณาสั่งปิดสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เพิ่มเติมจากที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยเฉพาะในส่วนของสวนสาธารณะ ซึ่งยังมีผู้คนยังไม่เข้าใจในการดูแลตัวเองและครอบครัว รวมถึงคลินิกทันตกรรม แต่ไม่รวมถึงคลินิกทันตกรรมในโรงพยาบาล
ส่วนกรณีที่มีกลุ่มวัยรุ่น และนักท่องเที่ยวไปจับกลุ่มกันสังสรรค์ตามชายหาดและพื้นที่อื่นๆ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภายหลังจากที่มีข่าวว่านักท่องเที่ยวได้ไปจับกลุ่มดื่มกินกันที่บริเวณชายหาดป่าตองในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ทางจังหวัดได้สั่งการให้นายอำเภอกะทู้ และ สภ.กะทู้ ไปทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวว่ามีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ ซึ่งนักท่องเที่ยวก็เข้าใจและยอมออกจากชายหาดตั้งแต่เวลา 21.00 น.เป็นต้นมา ชายหาดก็ไม่มีกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งในจุดนี้ทางจังหวัดเข้าใจถึงนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อน แต่เมื่อมีการประกาศปิดทั้งสถานบันเทิง สระว่ายน้ำโรงแรม พูลวิลล่า รวมไปถึงกิจกรรมต่างๆ ที่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ โดยเฉพาะสระว่ายน้ำหากระบบคลอรีนไม่ได้มาตรฐานจะทำให้มีการแพร่เชื้อได้ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่มีสถานที่ในการพักผ่อน จึงออกนอกสถานที่พักมาอยู่ตามชายหาด
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อว่า เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ได้มีมติให้ออกประกาศจังหวัดภูเก็ต ถึงมาตรการในการปฏิบัติตัวของนักท่องเที่ยวขณะที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ตในภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก ในเรื่องของการปิดสถานที่ต่างๆ สถานบันเทิง ซึ่งมีประกาศเป็นภาษาอังกฤษคิดว่านักท่องเที่ยวน่าจะเข้าใจในสถานการณ์ แต่ในส่วนของมาตรการในการห้ามออกนอกที่พักทางจังหวัดจะประกาศออกมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใจ ผ่านทางนายอำเภอ เสียงตามสาย พร้อมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการโรงแรม กงสุลประเทศต่างๆ ในการกระจายให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบ เพื่อขอความร่วมมือในการงดออกจากเคหสถาน หรือโรงแรม หากไม่มีความจำเป็น เพื่อร่วมกันควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19