ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สมาพันธ์คณะกรรมการอิสลาม 14 จังหวัดภาคใต้ เข้าเยี่ยม ศอ.บต. ให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่หลังผ่านพ้นจากเหตุการณ์ไม่สงบ ด้านเลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมเดินหน้าพัฒนาพื้นที่ จชต.ต่อไป
จากเหตุการณ์วางระเบิดหน้าศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ทำให้หลายฝ่ายออกมาปฏิเสธการกระทำอันโหดร้ายของฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลาม 14 จังหวัดภาคใต้ สำนักจุฬาราชมนตรี และสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่างก็ปฏิเสธการกระทำในการโจมตีของผู้ที่ไม่หวังดี ขณะที่สื่อมวลชนภาคใต้เรียกร้องให้ขบวนการเคลื่อนไหวของผู้ที่ไม่หวังดี ยุติการกระทำอันโหดร้าย เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบไปยังประชาชนผู้บริสุทธิ์
พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมต้อนรับคณะจากสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลาม 14 จังหวัดภาคใต้ มาร่วมให้กำลังใจแก่ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ ศอ.บต. ที่ได้ผ่านพ้นเหตุการณ์ความไม่สงบ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 เวลาประมาณ 10.30 น. ที่มีผู้ก่อความไม่สงบได้วางระเบิดหน้าศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา ทำให้เจ้าหน้าตำรวจ เจ้าหน้าที่ ศอ.บต. และสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บหลายราย ซึ่งก่อนหน้านั้น คนร้ายได้นำระเบิดไปวางใต้ต้นไม้หน้า ศอ.บต. เพื่อเป็นการก่อกวน ขณะที่หลายฝ่ายออกมาปฏิเสธการกระทำของผู้ก่อเหตุ
นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า การใช้ความรุนแรงอย่างไร้ขอบเขต โดยไม่คำนึงถึงประชาชนผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก สตรี ผู้สูงวัย และผู้นำศาสนา เป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม และละเมิดกับหลักธรรมคำสอนของทุกศาสนาอย่างร้ายแรง สำหรับศาสนาอิสลามนั้น ถือเป็นบาปใหญ่ที่พระผู้เป็นเจ้าจะลงโทษผู้กระทำการเยี่ยงนี้ก่อนสิ่งอื่นใดในวันพิพากษา
ด้าน พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวขอบคุณทุกฝ่าย โดยเฉพาะคณะจากสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลาม 14 จังหวัดภาคใต้ ที่ได้มาให้กำลังใจในวันนี้ พร้อมยืนยันว่าเราจะทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างสุดเต็มกำลังความสามารถ เราจะนำความสันติสุขให้กลับคืนสู่พื้นที่ปลายด้ามขวานโดยเร็ว การทำลายป้ายหน้าศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้เจ้าหน้าที่ ศอ.บต.ทุกคนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง แต่พวกเราทุกคนได้สร้างกำแพงแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ องค์ประกอบภายในของกำแพงแห่งนี้ประกอบไปด้วยอิฐ แต่กำแพงที่ได้สร้างใหม่นั้นเต็มไปด้วยหัวใจ และแรงศรัทธาของพวกเราทุกคน เพราะผู้คนที่อยู่หลังกำแพงแห่งนี้ คือผู้ที่อาสามาพัฒนาพื้นที่แผ่นดินภาคใต้ให้มีชีวิตที่เป็นสุข และนำจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้คืนสู่พื้นที่สันติสุข เราพร้อมที่จะเดินหน้าต่อไปเพื่อลูกหลานของประชาชนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นชาติพันธุ์ หรือศาสนาใดก็ตาม เราพร้อมที่จะดูแลทุกคนให้มีความสุขอย่างยั่งยืนสืบไป
