ยะลา - แรงงานไทยตามร้านอาหารในประเทศมาเลเซีย ต่างเร่งเดินทางกลับภูมิลำเนา หลังจากวันพรุ่งนี้ 18 มี.ค. ทางการมาเลเซียสั่งห้ามคนไทยเข้าประเทศ ส่วนคนมาเลเซียก็ห้ามออกนอกประเทศเช่นกัน หวั่นสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ลุกลาม
หลังจากที่รัฐบาลประเทศมาเลเซีย ได้ออกประกาศด่วนในสถานีโทรทัศน์ของประเทศมาเลเซีย ถึงมาตรการการควบคุมโรคโควิด-19 ด่วน โดยนายมูห์ยิดดิน ยัสซิน (Muhyiddin Yassin) นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ออกแถลงข่าวประกาศปิดประเทศมาเลเซียเป็นเวลา 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ 18-31 มีนาคม 2563 นี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมีคำสั่งห้ามจัดกิจกรรมทางศาสนา กิจกรรมการกีฬา วัฒนธรรม และกิจกรรมทางสังคม ห้ามคนมาเลเซียออกนอกประเทศ ใครที่กลับมาจากต่างประเทศต้องกักตัว 14 วัน ห้ามชาวต่างชาติเข้าออกประเทศมาเลเซีย ปิดโรงเรียนทุกแห่ง รวมทั้งปิดหน่วยงานราชการทั้งหมด ยกเว้นการประปา การไฟฟ้า ไปรษณีย์ โทรคมนาคม ปั๊มน้ำมัน สถานีโทรทัศน์ ธนาคาร กระทรวงเศรษฐกิจ กระทรวงสาธารณสุข เรือนจำ สถานีดับเพลิง ท่าเรือ สนามบิน ร้านขายของใช้ประจำวัน เป็นต้น
ล่าสุด วันนี้ (17 มี.ค.) บรรยากาศที่ด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย ด้าน อ.เบตง จ.ยะลา ภายหลังจากที่ทางการมาเลเซียออกประกาศ ส่งผลให้แรงงานในร้านอาหารต้มยำกุ้งหลายแห่งที่กระจายอยู่ตามรัฐต่างๆ ของมาเลเซีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่างตกใจกับการประกาศดังกล่าว เนื่องจากต้องปิดร้านตามประกาศเตือนของรัฐบาล และได้มีการรวมตัวจับกลุ่มกันวิพากษ์วิจารณ์หลังทราบข่าว และมีการประชุมย่อยตามรัฐต่างๆ ของบรรดาแรงงานไทย เพราะย่อมส่งผลกระทบต่อรายได้ ประกอบกับช่วงนี้ขายของไม่ค่อยได้ เพราะคนกลัวติดเชื้อโควิด-19 จึงไม่มาใช้บริการ แต่เมื่อมีประกาศปิดประเทศอย่างเป็นทางการแล้ว อาหาร เช่น ปลา เนื้อ ผักต่างๆ ที่สั่งซื้อมาแล้วย่อมเกิดความเสียหาย อีกทั้งคนงานที่อยู่ตามร้านต่างๆ ต้องไม่มีงานทำในช่วงที่ทางการมาเลเซียปิดประเทศ
ซึ่งหลังจากที่ผู้ประการร้านอาหารต้มยำกุ้งในมาเลเซียได้มีการประชุม และได้ข้อสรุปว่าต้องส่งคนงานกลับภูมิลำเนาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยได้หารถตู้ และรถบัสของประเทศมาเลเซีย เพื่อจัดส่งคนงานกลับกลับก่อนวันที่ 18 มีนาคม โดยวันนี้ได้ระดมเงินเหมารถ ทั้งรถตู้ รถบัสหลาย 100 คันจัดส่งกลับทันที
ผู้สื่อข่าวได้สังเกตกลุ่มแรงงานไทยที่เดินทางกลับต่างนั่งคุยกันเพื่อจะหาทางออกกับมาตรการดังกล่าว ซึ่งมีหลายร้านได้ทำความสะอาดร้านเพื่อตัดสินใจที่จะกลับบ้านหรือจะอยู่ต่อ ส่วนบางร้านก็ตัดสินใจอยู่ โดยจะทำอาหารส่งตามความต้องการของลูกค้า
ขณะที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ทำมาค้าขายกับชาวมาเลเซีย ตามชายแดนถึงกับตกใจเมื่อทราบข่าว ทางการมาเลเซียจะทำการปิดด่าน 14 วัน เพื่อป้องกันการลามของเชื้อโควิด-19 เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีมาเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี และต่อมามีการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ขึ้นมาอีก ทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ต้องทรุดหนักเข้าไปอีก เนื่องจาก อ.เบตง จะทำการค้าขายกับชาวมาเลเซีย และมีสินค้าที่ส่งออกสูงสุด ได้แก่ ยางพารา ไม้ยางพารา ส่วนการนำเข้า ได้แก่ แอมโมเนียที่ใช้ในกระบวนการแปรรูปยางพารา ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไทยยังคงได้เปรียบดุลการค้ามาเลเซีย
นอกจากการค้าชายแดน และการท่องเที่ยวที่ อ.เบตง ที่กำลังเติบโต หลังจากจะมีการเปิดใช้สนามบินในเดือนมิถุนายน 2563 นี้ ปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กำลังจะขยายตัวไปได้ดีเช่นกัน โดยมีนักธุรกิจพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรไปแล้ว 5 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดเล็ก ลูกค้าเป้าหมายคือประชาชนในพื้นที่ รวมถึงเศรษฐีจากมาเลเซีย สิงคโปร์ ที่มีความต้องการด้านที่อยู่อาศัย เพื่อใช้เป็นบ้านพักตากอากาศอีกด้วย
จากการปิดประเทศมาเลเชียในครั้งนี้ จะเริมปิดอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 18-31 มีนาคมนี้ โดยคนไทยที่อยู่ในประเทศมาเลเซีย เดินทางออกได้ตามปกติ แต่เข้าประเทศมาเลเซียไม่ได้ตั้งแต่วันที่ 18-31 มีนาคม ส่วนคนมาเลเซียเดินทางออกนอกประเทศไม่ได้เลย ซึ่งคนไทยที่จะเดินทางเข้าประเทศมาเลเซียไม่ได้ ในระหว่างวันที่ 18-31 มีนาคมนี้ และคนมาเลเซียกลับเข้าประเทศมาเลเซียได้ หลังจากวันที่ 18 มีนาคมนี้ แต่ต้องไปตรวจร่างกาย และกักตัวเอง 14 วัน