สุราษฎร์ธานี - 2 หนุ่มนักท่องเที่ยวชาวอิตาลี โผล่พบตำรวจ หลังมีกระแสข่าวหนีออกจากโรงพยาบาล ทำ ตร.สะดุ้งโหยงกันทั้งโรงพัก ก่อนแจ้งให้นายอำเภอเกาะสมุย พร้อมประสาน สาธารณสุขอำเภอเกสมุย เข้าตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบไข้
จากกรณีสื่อออนไลน์ได้นำภาพหน้าตรงหนังสือเดินทางของ 2 หนุ่มนักท่องเที่ยวชาวอิตาลี มาแชร์ในกันโลกโซเชียล มีข้อความว่า “ชาวต่างชาติหนีการกักตัวโควิด-19 จากเกาะสมุย ข่าวบอกว่ามาเกาะพะงัน เมื่อวานนี้ ใครพบเห็นแจ้งด่วน ขอบคุณค่ะ ช่วยๆ กันนะคะ” ภายหลังที่มีการนำภาพและชื่อหน้าหนังสือเดินทางของ 2 นักท่องชาวอิตาลีนำออกไปโพสต์ ทำให้คนแห่เข้าไปกดแชร์ และส่งกันต่อกันเป็นจำนวนมาก ทำให้คนตื่นตระหนกตามสื่อโซเชียล
ล่าสุด มีนักท่องเที่ยวชาย 2 คน ทราบชื่อคือ นายแกมเปอร์ โจเซฟ สัญชาติอิตาลี อายุ 26 ปี พร้อมด้วย นายอัลเบริด ยานิค อายุ 24 ปี สัญชาติ อิตาลี ได้เดินทางเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ ว่า มายืนยันตัวตนตามที่มีกลุ่มบุคคลนำภาพของตนไปแชร์ในสื่อโซเชียล ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อผุด พากันสะดุ้งโหยง และตกอกตกใจ เกรงว่านักท่องเที่ยวชายทั้ง 2 คน มีเชื้อไข้ไวรัสโควิด-19 เข้ามาในโรงพัก จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด และ พ.ต.ท.มาโนช จันทร์เที่ยง รอง ผกก.ป.สภ.บ่อผุด พ.ต.ท.ชัชชีวิน นาคมูสิค สวป. และ ร.ต.อ.อรุณ มูสิกิ้ม รองสารวัตรตรวจคนเข้าเมือง จ.สุราษฎร์ธานี เดินทางไปตรวจสอบ
ต่อมา พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด ได้แจ้งให้ ว่าที่ ร.ต.กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย ว่า มี 2 นักท่องเที่ยวชาวอิตาลีที่มีการแชร์กันทางโลกโซเชียล โดย 2 นักท่องเที่ยวดังกล่าวได้เดินทางมายืนยันตัวตนที่ สภ.บ่อผุด แล้ว ต่อมาทาง ว่าที่ ร.ต.กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย ได้สั่งการให้ นายธนภณ หวังแก้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเกาะสมุย นำอุปกรณ์เดินทางไปไปตรวจสอบที่ สภ.บ่อผุด
ในเบื้องต้น จากการตรวจสอบนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน ไม่พบมีอาการไข้แต่อย่างใด แต่จากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า นายอัลเบริด ยานิค ได้ประสบอุบัติเหตุ ทำให้ข้อเท้าข้างซ้ายแพลง และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง และหมอที่โรงพยาบาลได้ทำการตรวจวัดไข้ และไม่มีอาการใดๆ แต่เนื่องจากนักท่องเที่ยวทั้ง 2 รายนี้เดินทางมาจากประเทศอิตาลี เป็นประเทศที่เป็นประเทศเสี่ยง จึงได้สั่งให้ 2 นักท่องเที่ยวอยู่ในที่พักเป็นเวลา 14 วัน
แต่นักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน กลับไม่เชื่อฟัง และได้เดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ จนมีคนนำภาพของ 2 นักท่องเที่ยวดังกล่าวมาแชร์ต่อกัน ทำให้นักท่องเที่ยวทั้ง 2 คนเห็นภาพตัวเองตามสื่อโซเชียล จึงเกิดอาการตกใจ พากันเข้ามามอบตัวเพื่อยืนยันตัวตนที่ สภ.บ่อผุด ดังกล่าว
ในเบื้องต้น นายธนภณ หวังแก้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเกาะสมุย ได้ทำการตรวจวัดไข้ของ 2 นักท่องเที่ยวชาวอิตาลีแล้ว แต่ไม่พบไข้ จึงได้ย้ำกับ 2 นักท่องเที่ยวว่า ให้กักตัวเองห้ามเดินทางออกไปไหน โดยให้อยู่ในที่พักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่านหาดเฉวง จำนวน 14 วัน โดยทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเกาะสมุย จะทำการติดตามประเมินผล ตรวจดูอาการทุกวัน จนครบ 14 วัน
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติของนักท่องเที่ยวชาวอิตาลีทั้ง 2 รายนี้ ทราบว่าเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย ผ่านด่านตรวจคัดกรองด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา และได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวต่อที่เกาะสมุย เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง หมู่ 3 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จนประสบอุบัติเหตุข้อเท้าแพลง และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน จนกระทั่งมีกระแสข่าวตามสื่อโซเชียล
ล่าสุด 2 หนุ่มนักท่องเที่ยวชาวอิตาลียังได้เปิดเผยว่า ตนทั้ง 2 คน เข้าใจต่อสถานการณ์เป็นอย่างดี พร้อมขอโทษที่ทำให้คนไทยเดือดร้อน และวิตก ผลกระทบที่ตนเป็นนักท่องเที่ยวมาจากประเทศเสี่ยง และตนจะปฏิบัติตัวตามเจ้าหน้าที่สั่งกักบริเวณในที่พักเป็นเวลา 14 วัน อย่างเคร่งครัด 2 นักท่องเที่ยว กล่าว
จากกรณีสื่อออนไลน์ได้นำภาพหน้าตรงหนังสือเดินทางของ 2 หนุ่มนักท่องเที่ยวชาวอิตาลี มาแชร์ในกันโลกโซเชียล มีข้อความว่า “ชาวต่างชาติหนีการกักตัวโควิด-19 จากเกาะสมุย ข่าวบอกว่ามาเกาะพะงัน เมื่อวานนี้ ใครพบเห็นแจ้งด่วน ขอบคุณค่ะ ช่วยๆ กันนะคะ” ภายหลังที่มีการนำภาพและชื่อหน้าหนังสือเดินทางของ 2 นักท่องชาวอิตาลีนำออกไปโพสต์ ทำให้คนแห่เข้าไปกดแชร์ และส่งกันต่อกันเป็นจำนวนมาก ทำให้คนตื่นตระหนกตามสื่อโซเชียล
ล่าสุด มีนักท่องเที่ยวชาย 2 คน ทราบชื่อคือ นายแกมเปอร์ โจเซฟ สัญชาติอิตาลี อายุ 26 ปี พร้อมด้วย นายอัลเบริด ยานิค อายุ 24 ปี สัญชาติ อิตาลี ได้เดินทางเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ ว่า มายืนยันตัวตนตามที่มีกลุ่มบุคคลนำภาพของตนไปแชร์ในสื่อโซเชียล ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อผุด พากันสะดุ้งโหยง และตกอกตกใจ เกรงว่านักท่องเที่ยวชายทั้ง 2 คน มีเชื้อไข้ไวรัสโควิด-19 เข้ามาในโรงพัก จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด และ พ.ต.ท.มาโนช จันทร์เที่ยง รอง ผกก.ป.สภ.บ่อผุด พ.ต.ท.ชัชชีวิน นาคมูสิค สวป. และ ร.ต.อ.อรุณ มูสิกิ้ม รองสารวัตรตรวจคนเข้าเมือง จ.สุราษฎร์ธานี เดินทางไปตรวจสอบ
ต่อมา พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด ได้แจ้งให้ ว่าที่ ร.ต.กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย ว่า มี 2 นักท่องเที่ยวชาวอิตาลีที่มีการแชร์กันทางโลกโซเชียล โดย 2 นักท่องเที่ยวดังกล่าวได้เดินทางมายืนยันตัวตนที่ สภ.บ่อผุด แล้ว ต่อมาทาง ว่าที่ ร.ต.กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย ได้สั่งการให้ นายธนภณ หวังแก้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเกาะสมุย นำอุปกรณ์เดินทางไปไปตรวจสอบที่ สภ.บ่อผุด
ในเบื้องต้น จากการตรวจสอบนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน ไม่พบมีอาการไข้แต่อย่างใด แต่จากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า นายอัลเบริด ยานิค ได้ประสบอุบัติเหตุ ทำให้ข้อเท้าข้างซ้ายแพลง และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง และหมอที่โรงพยาบาลได้ทำการตรวจวัดไข้ และไม่มีอาการใดๆ แต่เนื่องจากนักท่องเที่ยวทั้ง 2 รายนี้เดินทางมาจากประเทศอิตาลี เป็นประเทศที่เป็นประเทศเสี่ยง จึงได้สั่งให้ 2 นักท่องเที่ยวอยู่ในที่พักเป็นเวลา 14 วัน
แต่นักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน กลับไม่เชื่อฟัง และได้เดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ จนมีคนนำภาพของ 2 นักท่องเที่ยวดังกล่าวมาแชร์ต่อกัน ทำให้นักท่องเที่ยวทั้ง 2 คนเห็นภาพตัวเองตามสื่อโซเชียล จึงเกิดอาการตกใจ พากันเข้ามามอบตัวเพื่อยืนยันตัวตนที่ สภ.บ่อผุด ดังกล่าว
ในเบื้องต้น นายธนภณ หวังแก้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเกาะสมุย ได้ทำการตรวจวัดไข้ของ 2 นักท่องเที่ยวชาวอิตาลีแล้ว แต่ไม่พบไข้ จึงได้ย้ำกับ 2 นักท่องเที่ยวว่า ให้กักตัวเองห้ามเดินทางออกไปไหน โดยให้อยู่ในที่พักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่านหาดเฉวง จำนวน 14 วัน โดยทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเกาะสมุย จะทำการติดตามประเมินผล ตรวจดูอาการทุกวัน จนครบ 14 วัน
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติของนักท่องเที่ยวชาวอิตาลีทั้ง 2 รายนี้ ทราบว่าเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย ผ่านด่านตรวจคัดกรองด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา และได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวต่อที่เกาะสมุย เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง หมู่ 3 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จนประสบอุบัติเหตุข้อเท้าแพลง และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน จนกระทั่งมีกระแสข่าวตามสื่อโซเชียล
ล่าสุด 2 หนุ่มนักท่องเที่ยวชาวอิตาลียังได้เปิดเผยว่า ตนทั้ง 2 คน เข้าใจต่อสถานการณ์เป็นอย่างดี พร้อมขอโทษที่ทำให้คนไทยเดือดร้อน และวิตก ผลกระทบที่ตนเป็นนักท่องเที่ยวมาจากประเทศเสี่ยง และตนจะปฏิบัติตัวตามเจ้าหน้าที่สั่งกักบริเวณในที่พักเป็นเวลา 14 วัน อย่างเคร่งครัด 2 นักท่องเที่ยว กล่าว