xs
xsm
sm
md
lg

ไม่พบมีการวิสามัญคนร้ายจากเหตุปิดล้อมปะทะเดือดที่เขื่อนปัตตานี จนท.เจ็บ 3 นาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



 
ปัตตานี - เหตุปิดล้อมปะทะเดือดเขื่อนปัตตานี ไม่พบมีการวิสามัญแต่อย่างใด เผยมีเพียงเจ้าหน้าที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 3 นาย หลังก่อนหน้านี้ แม่ทัพภาค 4 เผยเหตุปะทะยังไม่ชี้ชัดคนร้ายเสียชีวิตหรือไม่

ความคืบกรณีหน่วยเฉพาะกิจทหารพราน 22 อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษ สนธิกำลังปิดล้อมพื้นที่เป้าหมาย บริเวณเขื่อนปัตตานี รอยต่อระหว่าง ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี กับ ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อบังคับใช้กฎหมายกับผู้ก่อความไม่สงบ โดยเริ่มส่งกำลังเข้าปิดล้อมมาตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. จนกระทั่งเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุยิงปะทะกันขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มคนร้ายนานหลายนาที

ภายหลังจากเสียงปืนสงบลง ได้มีรายงานว่าพบเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ทราบชื่อเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้แก่ 1.ส.ท.สุขเกษม บุตรน้อย อายุ 32 ปี ที่อยู่ ต.แม่จริม อ.แม่จริม จ.น่าน 2.อส.ทพ.ฮาฟิส เมาะมูซอ อายุ 29 ปี ที่อยู่ 80 หมู่ 3 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา และ 3.อส.ทพ.พรชัย แปลงคิดใส อายุ 32 ปี ที่อยู่ ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา และสามารถวิสามัญคนร้ายได้ จำนวน 2 ราย พร้อมควบคุมตัวได้อีก 1 ราย จึงนำตัวไปเข้าสู่กระบวนซักถามที่ค่ายวังพญา อ.รามัน จ.ยะลา ส่วนคนร้ายที่ถูกวิสามัญ 2 รายนั้น ได้ยืนยันจากโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ว่าไม่เป็นความจริง

กระทั่งล่าสุด พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวถึงเหตุดังกล่าวนี้ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงตรึงพื้นที่อยู่ จากการตรวจสอบพิสูจน์ทราบแล้วว่าเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ก่อเหตุโจมตีฐานชุดคุ้มครองตำบลบ้านทางลุ่ม ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา ที่ผ่านมา โดยตรวจสอบได้จากหลักฐานที่ยึดได้ ทั้งข้าวของเครื่องใช้ และกระสุนปืน พบว่าเป็นชุดเดียวกันกับกลุ่มที่ทำร้ายชาวบ้านลำพะยา
 


 
โดยปฏิบัติการครั้งนี้ได้เริ่มมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา จนถึงเมื่อช่วงสาย ซึ่งได้มีการนำผู้นำศาสนามาช่วยเจรจา แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ยิงโต้ตอบกลับมา จนเจ้าหน้าที่บาดเจ็บไป 3 นาย สถานการณ์ล่าสุดตอนนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า กลุ่มคนร้ายมีการสูญเสียหรือไม่อย่างไร แต่ที่ยืนยันได้คือน่าจะมีผู้ก่อเหตุรุนแรงประมาณ 2-4 คน เพราะได้ยินเสียงปืนตอบโต้มาเป็นระยะๆ ซึ่งปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายการดำเนินการต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อยู่ตามป่าเขา ได้แก่ เขาเมาะแต เขาตะเว จ.นราธิวาส และเขานางจันทร์ จ.ยะลา

ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ปฏิบัติติการในครั้งนี้ เป็นกลุ่มที่หลบหนีมาจากพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา สำหรับการปฏิบัติในห้วงถัดไปก็ยังคงจะปิดล้อมอยู่ โดยจะพยายามให้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด

อย่างไรก็ตาม แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง พร้อมสนับสนุนชุดปฏิบัติการทางอากาศ และทางเรือเข้าให้การสนับสนุน พร้อมกับยังคงใช้การเจรจาผ่านเครื่องกระจายเสียงให้กลุ่มคนร้ายออกมามอบตัว และจะใช้อาวุธเป็นมาตรการสุดท้าย เพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น ทั้งนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้ติดตามข่าวสารที่ถูกต้องจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนว่า หากพบเห็นบุคคลต้องสงสัย สามารถโทรศัพท์มาแจ้งเบาะแสได้ที่สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 หมายเลข 06-1173-2999
 


 
ขณะเดียวกัน มีเพจเฟซบุ๊กอ้างว่า BRN ได้มีการแถลงการณ์มา 6 ข้อ ต่อกรณีการสนธิกำลังปิดล้อมของเจ้าหน้าที่ว่า เป็นเพียงแค่การแสดงหนังละคร โดยที่สมาชิกกลุ่ม BRN Army ทุกคนนั้นปลอดภัย พร้อมขู่ตอบโต้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ ณ ที่ตั้ง โดยให้เหตุผลว่า “เราจะปฏิบัติตามสนธิสัญญาที่ให้ไว้ต่อ Geneva_call อย่างเคร่งครัดฝ่ายเดียว” โดยมีข้อความในเพจดังนี้

“ถึงประชาชนปาตานีทุกท่าน เหตุปะทะที่ตาเซะ ปาตานีกลาง เนื่องจากมีประชาชนมากมายที่อยากทราบความคืบหน้าการปิดล้อมเพื่อควบคุมตัว BRN Army สร้างความเป็นห่วงต่อประชาชนที่ทราบข่าว ทางเราจึงขอรายงานความคืบหน้า ดังนี้ 1) เรายังคงสบายดี และปลอดภัยจากเหตุดังกล่าว เนื่องจากพื้นที่ที่มีการปิดล้อม เป็นที่พักสำหรับพักผ่อนหย่อนใจของประชาชนที่ไปตกปลา และผจญภัย (advenger) ไม่ใช่สถานที่พักของเรา 2) การปิดล้อมดังกล่าวเป็นการข่มขู่คุกคามพี่น้องประชาชน เพื่อสร้างความหวาดกลัว เพื่อให้แตกความสามัคคี 3) การปิดล้อมตรวจค้นเหล่านี้เป็นความกดดันของทางเจ้าหน้าที่ เหตุเพราะ ฉก.ยะลา มีผลงานที่ไม่น่าประทับใจ จึงถูกเบื้องบนกำชับให้สร้างผลงานที่เป็นรูปธรรมให้ได้ 4) การกดดันไม่อาจก่อให้เกิดความหวาดกลัวต่อ BRN Army ได้ เนื่องจากเป็นการทดสอบความแข็งแกร่งด้วยเหตุการณ์จริง 5) ไม่ได้มีการปะทะแต่อย่างใด และมันเป็นการสร้างสถานการณ์ของฝ่ายสยามไทย จนมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังข่าวที่เผยแพร่ออกไป (โดนลูกหลงฝ่ายตน) 6) อื่นๆ ขอขอบคุณประชาชนทุกท่านที่ส่ง Message มามากมายหลังจากเกิดเรื่อง ทาง BRN Army จะแสดงความขอบคุณให้เห็นเป็นประจักษ์อีกครั้ง จึงขอให้ทางกองทัพสยามไทย เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ณ ที่ตั้งของท่าน #เราจะปฏิบัติตามสนธิสัญญาที่ให้ไว้ต่อ Geneva_call อย่างเคร่งครัดฝ่ายเดียว #สยามไม่อาจยอมรับสนธิสัญญาดังกล่าวได้ BRN Army”
 


 
นอกจากนี้ ในพื้นที่เขื่อนโดยรอบ เป็นสถานที่ประกอบอาชีพของประชาชนในพื้นที่มาเป็นเวลายาวนาน แต่เมื่อมีเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ในลักษณะนี้ และยืดเยื้อมาเป็นเวลายาวเกือบสัปดาห์ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงจุดนี้ด้วย เพื่อการลดผลกระทบที่มีต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ในการที่จะใช้พื้นที่เพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงครอบครัวให้สามารถดำเนินได้ตามปกติอีกครั้ง โดยสะท้อนผ่านสื่อมาเป็นระยะ และทุกคนขอเป็นกำลังใจต่อเจ้าหน้าที่ทุกคนให้มีความปลอดภัยในขณะปฏิบัติหน้าที่
 




กำลังโหลดความคิดเห็น