สุราษฎร์ธานี - เอกชนหัวใส ดัดแปลงขนำเฝ้าหอยแครงเป็นโฮมสเตย์ เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวกลางทะเลอ่าวบ้านดอนสุราษฎร์ธานี แต่ไม่ขออนุญาต เจ้าท่าฯ นำทีมจับส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.การเดินเรือน่านน้ำไทย
จากกรณีเมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา นายลพบุรี โยธาศิริ หัวหน้าชุดปราบปรามกรมเจ้าท่าสาขาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 202 พร้อมกำลัง 4 นาย ออกตรวจท้องทะเลอ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบมีการก่อสร้างบ้านพักจัดทำเป็นโฮมสเตย์ เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวกลางทะเลบริเวณพิกัด 9.24736 N 99.49833E ตำบลท่าทอง อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
จึงเข้าทำการตรวจสอบพบ นายสงวน ทรัพย์ประเสริฐ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 216/2 ม.1 ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ และนายอารี เชิดสูงเนิน อายุ 59 ปี กำลังก่อสร้างบ้านพักดังกล่าว จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ เพื่อดำเนินคดีในข้อหาปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำก่อนได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า
นายสงวน ทรัพย์ประเสริฐ เจ้าของบ้านพักดังกล่าวเปิดเผยว่า ตนเลี้ยงหอยแครงจำนวน 2 แปลง ประมาณ 70 ไร่ จึงได้ดัดแปลงขนำเฝ้าหอยแครงมาก่อสร้างเพิ่มเติมเป็นโฮมสเตย์ ชื่อขนำ ทรัพย์ประเสริฐ เปิดเป็นโฮมสเตย์ จัดทำเป็นแหล่งเรียนรู้ทางทะเล ปากน้ำท่าทอง พร้อมบริการรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ภายใต้สโลแกน ล่องเรือแลเล ชมตะวัน ตกปลา คว้าหอย อาหารอร่อย พักผ่อนสบาย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ด้านนายลพบุรี ได้กล่าวเตือนประชาชนที่จะก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำโดยไม่ได้ขออนุญาต จึงขอให้ทุกคนตรวจสอบจากเจ้าท่าก่อนว่าตนเองได้รับอนุญาตหรือยัง หากยังไม่ได้รับอนุญาตแต่ไปดำเนินการก่อสร้างเพิ่มเติม หรือก่อสร้างใหม่ก็จะถูกจับกุมและถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.การเดินเรือน่านน้ำไทย ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 117 หรือผู้ใดได้รับอนุญาตตามมาตรา 117 แล้วปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นสิ่งใดไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับโดยคำนวณตามพื้นที่ของอาคาร หรือสิ่งอื่นใดในอัตราไม่น้อยกว่าตารางเมตรละ 1,000 บาทแต่ไม่เกินตารางเมตรละ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และต้องระวางโทษปรับรายวันวันละไม่เกินตารางเมตรละ 20,000 บาทตลอดเวลาการฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าท่าตามมาตรา 118 ทวิ วรรคหนึ่ง หรือจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง สำหรับสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำทางเจ้าท่าจะได้ออกคำสั่งให้รื้อถอนภายในเวลาที่กำหนดไม่เกิน 1 ปี หรือไม่น้อยกว่า 30 วัน สำหรับรายนี้อาคารเดิมเป็นขนำเฝ้าหอยแครงและเป็นไปตามคำสั่ง คสช. แต่ผู้ประกอบการได้ดำเนินการต่อเติมในส่วนของห้องน้ำและอาคารหลังใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2 หลัง เพื่อมาจัดทำเป็นโฮมสเตย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโฮมสเตย์ ขนำทรัพย์ประเสริฐ รายนี้ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่ชายทะเลชายฝั่ง 1,000 เมตร และเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวมานานนับปี แล้ว หลังจากโฮมสเตย์สินมานะฟาร์มได้เกิดเพลิงไหม้และปิดบริการไป ขนำทรัพย์ประเสริฐจึงได้ดัดแปลงจากขนำเฝ้าหอยแครงมาเป็นโฮมสเตย์ รับนักท่องเที่ยว เมื่อมีการเริ่มขยายตัวผู้ประกอบการจึงมีการก่อสร้างเพิ่มเติมโดยไม่ได้ขออนุญาตและมีผู้ร้องเรียนไปทางจังหวัด และ กอ.รมน.อย่างต่อเนื่อง และในที่สุดทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีคำสั่งให้ทางเจ้าท่าเร่งดำเนินการจับกุมดำเนินคดีดังกล่าว
จากกรณีเมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา นายลพบุรี โยธาศิริ หัวหน้าชุดปราบปรามกรมเจ้าท่าสาขาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 202 พร้อมกำลัง 4 นาย ออกตรวจท้องทะเลอ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบมีการก่อสร้างบ้านพักจัดทำเป็นโฮมสเตย์ เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวกลางทะเลบริเวณพิกัด 9.24736 N 99.49833E ตำบลท่าทอง อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
จึงเข้าทำการตรวจสอบพบ นายสงวน ทรัพย์ประเสริฐ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 216/2 ม.1 ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ และนายอารี เชิดสูงเนิน อายุ 59 ปี กำลังก่อสร้างบ้านพักดังกล่าว จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ เพื่อดำเนินคดีในข้อหาปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำก่อนได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า
นายสงวน ทรัพย์ประเสริฐ เจ้าของบ้านพักดังกล่าวเปิดเผยว่า ตนเลี้ยงหอยแครงจำนวน 2 แปลง ประมาณ 70 ไร่ จึงได้ดัดแปลงขนำเฝ้าหอยแครงมาก่อสร้างเพิ่มเติมเป็นโฮมสเตย์ ชื่อขนำ ทรัพย์ประเสริฐ เปิดเป็นโฮมสเตย์ จัดทำเป็นแหล่งเรียนรู้ทางทะเล ปากน้ำท่าทอง พร้อมบริการรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ภายใต้สโลแกน ล่องเรือแลเล ชมตะวัน ตกปลา คว้าหอย อาหารอร่อย พักผ่อนสบาย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ด้านนายลพบุรี ได้กล่าวเตือนประชาชนที่จะก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำโดยไม่ได้ขออนุญาต จึงขอให้ทุกคนตรวจสอบจากเจ้าท่าก่อนว่าตนเองได้รับอนุญาตหรือยัง หากยังไม่ได้รับอนุญาตแต่ไปดำเนินการก่อสร้างเพิ่มเติม หรือก่อสร้างใหม่ก็จะถูกจับกุมและถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.การเดินเรือน่านน้ำไทย ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 117 หรือผู้ใดได้รับอนุญาตตามมาตรา 117 แล้วปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นสิ่งใดไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับโดยคำนวณตามพื้นที่ของอาคาร หรือสิ่งอื่นใดในอัตราไม่น้อยกว่าตารางเมตรละ 1,000 บาทแต่ไม่เกินตารางเมตรละ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และต้องระวางโทษปรับรายวันวันละไม่เกินตารางเมตรละ 20,000 บาทตลอดเวลาการฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าท่าตามมาตรา 118 ทวิ วรรคหนึ่ง หรือจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง สำหรับสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำทางเจ้าท่าจะได้ออกคำสั่งให้รื้อถอนภายในเวลาที่กำหนดไม่เกิน 1 ปี หรือไม่น้อยกว่า 30 วัน สำหรับรายนี้อาคารเดิมเป็นขนำเฝ้าหอยแครงและเป็นไปตามคำสั่ง คสช. แต่ผู้ประกอบการได้ดำเนินการต่อเติมในส่วนของห้องน้ำและอาคารหลังใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2 หลัง เพื่อมาจัดทำเป็นโฮมสเตย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโฮมสเตย์ ขนำทรัพย์ประเสริฐ รายนี้ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่ชายทะเลชายฝั่ง 1,000 เมตร และเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวมานานนับปี แล้ว หลังจากโฮมสเตย์สินมานะฟาร์มได้เกิดเพลิงไหม้และปิดบริการไป ขนำทรัพย์ประเสริฐจึงได้ดัดแปลงจากขนำเฝ้าหอยแครงมาเป็นโฮมสเตย์ รับนักท่องเที่ยว เมื่อมีการเริ่มขยายตัวผู้ประกอบการจึงมีการก่อสร้างเพิ่มเติมโดยไม่ได้ขออนุญาตและมีผู้ร้องเรียนไปทางจังหวัด และ กอ.รมน.อย่างต่อเนื่อง และในที่สุดทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีคำสั่งให้ทางเจ้าท่าเร่งดำเนินการจับกุมดำเนินคดีดังกล่าว
