ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตร.สาคู ร่วมกับ สภ.ท่าฉัตรไชย สภ.ถลาง ซ้อนแผนทลายเครือข่ายยาเสพติดในภูเก็ต รวบ 3 ผู้ต้องหา พร้อมของกลางยาบ้าเกือบ 2 หมื่นเม็ด ไอซ์อีก 1 กก. ขณะที่อีก 1 ผู้ต้องหาไหวตัวทันหลบหนีไปได้

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาคู ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.กะเกณฑ์ นิกรหัสชัย ผกก.สภ.สาคู พ.ต.ท.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ รอง ผกก.สภ.สาคู นำโดย พ.ต.ต.เตชินท์ ดีทองอ่อน สว.สส.สภ.สาคู เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาคู เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าฉัตรไชย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถลาง ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายสญชัย หรือโอ๋ กิ่งแก้ว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 2 ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต น.ส.กำไลทอง หรือเจน นันโท อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 7 ต.ตูมใต้ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี และนายอทิชา หรือหนาน ชำนินา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/2 หมู่ 8 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 2 ห่อ รวมจำนวน 19,392 เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม โทรศัพท์ 3 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้างแห่งหนึ่ง ม.4 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 7 มี.ค.63
สำหรับพฤติการณ์ในการจับกุม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สาคู ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่า นายสญชัย หรือโอ๋ กิ่งแก้ว และ น.ส.กำไลทอง หรือเจน นันโท ซึ่งเป็นบุคคลที่มีพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในพื้นที่ สภ.สาคู จะไปรับยาบ้า ยาไอซ์ในพื้นที่นครศรีธรรมราช ซึ่งสายลับได้แจ้งชุดสืบสวน สภ.สาคู ว่า วันที่ 7 มี.ค. นายวรวุฒิ หรือแอน จารจิต จะเป็นคนขับรถเก๋งไปส่งนายสญชัย หรือโอ๋ กิ่งแก้ว และ น.ส.กำไลทอง หรือเจน นันโท ที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อรับยาเสพติด หลังจากนั้น น.ส.กำไลทอง จะนำยาเสพติดซึ่งใส่ไว้ในลังเดินทางมาพร้อมกับรถตู้โดยสาร ส่วน นายสญชัย และนายวรวุฒิ จะขับรถเก๋งมารอรับยาเสพติดที่บ้านของ นายวรวุฒิ
หลังได้รับแจ้งข้อมูลจากสายลับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสาคูจึงได้ประสานไปยัง ตร.ท่าฉัตรไชย เพื่อวางแผนจับกุม เมื่อรถตู้คันตามที่สายลับแจ้งเข้ามาที่ด่านตรวจทางเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจค้น และพบบุคคลและลังตามที่สายลับแจ้งมา แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดลังต้องสงสัยดังกล่าวเพราะกลัวว่าจะเป็นข้ออ้างในการต่อสู้ชั้นศาลว่าไม่ใช่ยาเสพติดของ น.ส.กำไลทอง หรือเจน นันโท เพราะตำแหน่งที่วางสิ่งของอยู่ห่างกับตัวบุคคล ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ปล่อยให้รถตู้ และ น.ส.กำไลทอง เดินทางต่อไปโดยปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สาคู และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าฉัตรไชย เดินทางติดตามรถตู้คันดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
เมื่อรถตู้คันดังกล่าวขับถึงหน้ โลตัส สาขาถลาง ได้มี นายอทิชา หรือหนาน ชำนินา เดินมารับลังดังกล่าวจากท้ายรถยนต์ตู้คันที่ น.ส.กำไลทอง หรือเจน นันโท เมื่อ นายอทิชา ชำนินา รับกล่องดังกล่าวแล้วได้เดินเข้าไปยังลานจอดรถหน้าโลตัสถลาง โดยมี น.ส.กำไลทอง หรือเจน นันโท เดินไปพร้อมกับ นายอทิชา ชำนินา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สาคู และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าฉัตรไชย ได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้นในลัง นายอทิชา หรือหนาน ชำนินา ถืออยู่ จึงทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นภายในลังด้านบนเป็นปลาเค็ม ส่วนด้านล่างพบยาบ้า จำนวน 19,392 เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ควบคุมตัว น.ส.กำไลทอง หรือเจน นันโท และนายอทิชา ชำนินา พร้อมของกลางทั้งหมดมายัง สภ.สาคู และ สภ.ถลาง เพื่อทำการขยายผล และทำบันทึกจับกุม

โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ควบคุมตัว น.ส.กำไลทอง หรือเจน นันโท ได้มีนายสญชัย หรือโอ๋ กิ่งแก้ว โทรศัพท์เข้ามาหา น.ส.กำไลทอง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ให้ น.ส.กำไลทอง รับสาย โดยนายสญชัย หรือโอ๋ กิ่งแก้ว ถามว่ามีคนมารับและนำของไปวางหรือยัง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สอบถามทราบว่าจะนำกล่องลังดังกล่าวไปให้แก่ นายวรวุฒิ ในจังหวะเดียวกัน นายวรวุฒิ ได้โทรศัพท์ เข้ามือถือของ นายอทิชา เพื่อสอบถามว่าทำไมยังไม่นำของไปส่ง
เจ้าหน้าที่จึงวางแผนว่าจะเอาของไปส่ง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถลาง เพื่อเข้าตรวจค้นและจับตัว นายวรวุฒิ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 8 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยให้นายอทิชา พาไปนำชี้บ้านของนายวรวุฒิ เมื่อไปถึงบ้านของนายวรวุฒิ พบรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีดำ ทะเบียน กท 3859 ภูเก็ต จอดอยู่หน้าบ้านตามที่สายลับแจ้งไว้ แต่ไม่พบตัวของ นายวรวุฒิ และจาการตรวจสอบบริเวณโดยรอบพบบุคคลต้องสงสัยวิ่งหลบหนี และเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ 1 คน นำตัวมาสอบสอบทราบชื่อ คือ นายสญชัย ส่วนนายวรวุฒิ หลบหนีไปได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว นายสญชัย มาสอบสวนเพิ่มเติมที่สภ.ถลาง
ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา นายสญชัย น.ส.กำไลทอง และนายอทิชา ชำนินา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” แต่ นายสญชัย หรือโอ๋ กิ่งแก้ว ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วน น.ส.กำไลทอง หรือแอน นันโท ให้การรับสารภาพ แต่ให้การว่ายาเสพติดที่ตรวจพบไม่ใช่ของตน และนายอทิชา หรือหนาน ชำนินา รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา หลังสอบปากคำทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาคู ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.กะเกณฑ์ นิกรหัสชัย ผกก.สภ.สาคู พ.ต.ท.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ รอง ผกก.สภ.สาคู นำโดย พ.ต.ต.เตชินท์ ดีทองอ่อน สว.สส.สภ.สาคู เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาคู เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าฉัตรไชย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถลาง ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายสญชัย หรือโอ๋ กิ่งแก้ว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 2 ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต น.ส.กำไลทอง หรือเจน นันโท อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 7 ต.ตูมใต้ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี และนายอทิชา หรือหนาน ชำนินา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/2 หมู่ 8 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 2 ห่อ รวมจำนวน 19,392 เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม โทรศัพท์ 3 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้างแห่งหนึ่ง ม.4 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 7 มี.ค.63
สำหรับพฤติการณ์ในการจับกุม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สาคู ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่า นายสญชัย หรือโอ๋ กิ่งแก้ว และ น.ส.กำไลทอง หรือเจน นันโท ซึ่งเป็นบุคคลที่มีพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในพื้นที่ สภ.สาคู จะไปรับยาบ้า ยาไอซ์ในพื้นที่นครศรีธรรมราช ซึ่งสายลับได้แจ้งชุดสืบสวน สภ.สาคู ว่า วันที่ 7 มี.ค. นายวรวุฒิ หรือแอน จารจิต จะเป็นคนขับรถเก๋งไปส่งนายสญชัย หรือโอ๋ กิ่งแก้ว และ น.ส.กำไลทอง หรือเจน นันโท ที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อรับยาเสพติด หลังจากนั้น น.ส.กำไลทอง จะนำยาเสพติดซึ่งใส่ไว้ในลังเดินทางมาพร้อมกับรถตู้โดยสาร ส่วน นายสญชัย และนายวรวุฒิ จะขับรถเก๋งมารอรับยาเสพติดที่บ้านของ นายวรวุฒิ
หลังได้รับแจ้งข้อมูลจากสายลับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสาคูจึงได้ประสานไปยัง ตร.ท่าฉัตรไชย เพื่อวางแผนจับกุม เมื่อรถตู้คันตามที่สายลับแจ้งเข้ามาที่ด่านตรวจทางเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจค้น และพบบุคคลและลังตามที่สายลับแจ้งมา แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดลังต้องสงสัยดังกล่าวเพราะกลัวว่าจะเป็นข้ออ้างในการต่อสู้ชั้นศาลว่าไม่ใช่ยาเสพติดของ น.ส.กำไลทอง หรือเจน นันโท เพราะตำแหน่งที่วางสิ่งของอยู่ห่างกับตัวบุคคล ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ปล่อยให้รถตู้ และ น.ส.กำไลทอง เดินทางต่อไปโดยปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สาคู และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าฉัตรไชย เดินทางติดตามรถตู้คันดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
เมื่อรถตู้คันดังกล่าวขับถึงหน้ โลตัส สาขาถลาง ได้มี นายอทิชา หรือหนาน ชำนินา เดินมารับลังดังกล่าวจากท้ายรถยนต์ตู้คันที่ น.ส.กำไลทอง หรือเจน นันโท เมื่อ นายอทิชา ชำนินา รับกล่องดังกล่าวแล้วได้เดินเข้าไปยังลานจอดรถหน้าโลตัสถลาง โดยมี น.ส.กำไลทอง หรือเจน นันโท เดินไปพร้อมกับ นายอทิชา ชำนินา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สาคู และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าฉัตรไชย ได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้นในลัง นายอทิชา หรือหนาน ชำนินา ถืออยู่ จึงทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นภายในลังด้านบนเป็นปลาเค็ม ส่วนด้านล่างพบยาบ้า จำนวน 19,392 เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ควบคุมตัว น.ส.กำไลทอง หรือเจน นันโท และนายอทิชา ชำนินา พร้อมของกลางทั้งหมดมายัง สภ.สาคู และ สภ.ถลาง เพื่อทำการขยายผล และทำบันทึกจับกุม
โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ควบคุมตัว น.ส.กำไลทอง หรือเจน นันโท ได้มีนายสญชัย หรือโอ๋ กิ่งแก้ว โทรศัพท์เข้ามาหา น.ส.กำไลทอง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ให้ น.ส.กำไลทอง รับสาย โดยนายสญชัย หรือโอ๋ กิ่งแก้ว ถามว่ามีคนมารับและนำของไปวางหรือยัง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สอบถามทราบว่าจะนำกล่องลังดังกล่าวไปให้แก่ นายวรวุฒิ ในจังหวะเดียวกัน นายวรวุฒิ ได้โทรศัพท์ เข้ามือถือของ นายอทิชา เพื่อสอบถามว่าทำไมยังไม่นำของไปส่ง
เจ้าหน้าที่จึงวางแผนว่าจะเอาของไปส่ง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถลาง เพื่อเข้าตรวจค้นและจับตัว นายวรวุฒิ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 8 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยให้นายอทิชา พาไปนำชี้บ้านของนายวรวุฒิ เมื่อไปถึงบ้านของนายวรวุฒิ พบรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีดำ ทะเบียน กท 3859 ภูเก็ต จอดอยู่หน้าบ้านตามที่สายลับแจ้งไว้ แต่ไม่พบตัวของ นายวรวุฒิ และจาการตรวจสอบบริเวณโดยรอบพบบุคคลต้องสงสัยวิ่งหลบหนี และเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ 1 คน นำตัวมาสอบสอบทราบชื่อ คือ นายสญชัย ส่วนนายวรวุฒิ หลบหนีไปได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว นายสญชัย มาสอบสวนเพิ่มเติมที่สภ.ถลาง
ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา นายสญชัย น.ส.กำไลทอง และนายอทิชา ชำนินา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” แต่ นายสญชัย หรือโอ๋ กิ่งแก้ว ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วน น.ส.กำไลทอง หรือแอน นันโท ให้การรับสารภาพ แต่ให้การว่ายาเสพติดที่ตรวจพบไม่ใช่ของตน และนายอทิชา หรือหนาน ชำนินา รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา หลังสอบปากคำทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป