กระบี่ - ขนส่งกระบี่แจงยิบ รถเก๋งลุงวัย 64 ปี เลขเครื่องไม่ตรงกับเลขจดทะเบียนเดิม ต่อทะเบียนไม่ได้ ขณะที่ลุงวัย 64 บอกเป็นนัย เจอที่หน้าขนส่ง คาดนำรถมาเผาทิ้ง
จากรณีที่นายจรรยา ปลองคีรี อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 ม.1 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ ได้นำรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า โคโรน่า สีขาว หมายเลขทะเบียน กฉ 3817 กระบี่ พร้อมเอกสารทะเบียนรถ เข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ ว่าได้รับความเดือดร้อน หลังจากที่นำรถไปต่อทะเบียนแล้วทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าต่อทะเบียนไม่ได้ ทั้งที่ปีที่ผ่านๆ มา ต่อทะเบียนได้ทุกครั้ง และขู่ว่าจะเผารถทิ้ง
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (5 มี.ค.) นายรณกรณ์ ทองอินทร์ ขนส่งจังหวัดกระบี่ ได้ประสานให้นายจรรยา นำรถเก๋งคันดังกล่าวเข้ามาที่สำนักงานขนส่งจังหวัดกระบี่ เพื่อทำการตรวจสอบความถูกต้องของทะเบียนรถและเอกสารต่างๆ เบื้องต้นพบว่า หมายเลขเครื่องยนต์ไม่ตรงกับเล่มทะเบียนของรถที่มีการยื่นจดทะเบียนอยู่เดิม ทางขนส่งจึงไม่สามารถต่อทะเบียนให้ได้ เพราะผิดกฎหมาย และได้ประสานไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่อตรวจสอบที่มาของเครื่องยนต์ ที่นายจรรยา ใช้อยู่ พบว่ามีการนำเข้าโดยบริษัทหนึ่ง แต่ปัจจุบันได้ปิดตัวไปแล้ว และยังไม่มีใครยื่นขอจดทะเบียน
นายรณกรณ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ทางขนส่งไม่สามารถรับต่อทะเบียนใหม่ให้แก่ลุงจรรยา ได้เนื่องจากพบว่าเลขเครื่องที่ลุงจรรยาใช้อยู่ ไม่ตรงกับเลขเครื่องที่จดทะเบียนไว้เดิม ซึ่งการแก้ปัญหาก็คือ ลุงจรรยาต้องหาเครื่องยนต์ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายนำมาเปลี่ยนใหม่ ก็สามารถยื่นต่อทะเบียนได้อีกครั้ง
ด้าน นายจรรยา กล่าวว่า ตั้งแต่ตนซื้อรถคันนี้มา เป็นรถมือสอง ตั้งแต่ปี 56 ได้มีการเซ็นโอนลอยไว้จากเจ้าของเดิม และเมื่อวันที่ 9 ก.ย.59 ตนก็ได้ไปโอนรถเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองที่สำนักงานขนส่งจังหวัดกระบี่ และปีต่อมาก็ได้มีการนำรถไปต่อทะเบียนเสียภาษีผ่านบริษัทเอกชน ก็สามารถต่อได้ทุกปี ไม่เคยมีปัญหา แต่มาปีนี้ 2563 ตนได้นำรถไปตรวจสภาพและยื่นต่อทะเบียนกับบริษัทเอกชนรายเดิมอีก แต่ปรากฏว่า พนักงานของบริษัทแจ้งว่า ไม่สามารถนำไปต่อทะเบียนให้ได้ เนื่องจากเลขทะเบียนกับเลขตัวถังรถไม่ตรงกัน ตนก็งงมาก ทำไมถึงถูกปฏิเสธการยื่นขอต่อภาษี ทั้งที่ยื่นต่อมาทุกปี แม้แต่นอตตัวเดียวก็ไม่เคยเปลี่ยนอย่าว่าแต่เครื่องยนต์
นายจรรยา ยังได้กล่าวด้วยความน้อยใจว่า ตัวเองมีรายได้จากเงินคนชรา 600 บาท เงินสวัสดิการ 200 บาท ไม่มีปัญญาจะไปเปลี่ยนเครื่องใหม่ 30,000-40,000 บาทอย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้ก็เท่ากับว่ารถของตนเป็นรถเถื่อนไปแล้ว เอาไปใช้ก็ผิดกฎมาย มีทางเดียวก็คือจะต้องเผาทิ้งและจะนำมาเผาทิ้งที่หน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดกระบี่ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม เพราะก่อนหน้านี้รถของตนยื่นต่อทะเบียนเสียภาษีได้ แต่มาปีนี้ถูกปฏิเสธ ทั้งที่ตนไม่เคยไปทำหรือเปลี่ยนแปลงสภาพตัวรถหรือเครื่องยนต์ใหม่ จะมีก็แต่ซ่อมเล็กๆ น้อยๆ แล้วเจอกันที่หน้า สนง.ขนส่ง
สำรับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า โคโรน่า คันที่นายจรรยา ใช้อยู่ เจ้าของเดิมได้ออกรถเมื่อปี 32 และได้ขายต่อจนมาถึงนายจรรยา รวมอายุกว่า 30 ปี และมีการต่อทะเบียนติดต่อกันมา ไม่เคยมีปัญหา จนกระทั่งล่าสุด นายจรรยา ได้นำไปต่อทะเบียนซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 23 มี.ค.นี้ แต่ไม่สามารถต่อทะเบียนได้
