“กระท่อม” พืชที่อยู่คู่วิถี “คนใต้” ทุกสาขาอาชีพมายาวนาน “น้ำท่อม” คือ “น้ำสมุนไพร” ที่คนใต้ดื่มกินกันเป็นประจำ จนมีคำร่ำลือว่า ถ้าไม่ได้ดื่มวันไหน วันนั้นทั้งวันไม่มีเรี่ยวแรง แถมปวดเนื้อปวดตัวไปทุกอณูร่างกาย
เวลานี้เพจ “สมาคมคนรักกระท่อม” มีคนกดไลก์เกือบ 2 แสน นอกนั้นมีคนติดตามหลักหลายหมื่น เช่น เพจ “สมาคมคนกินท่อมของ Thai City” และเพจ “Kratom Thailand”
แต่ทุกวันนี้พืชกระท่อมยังเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 แม้ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุข จะร่วมกับกระทรวงยุติธรรม ลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการยกเลิก “กระท่อม” จากยาเสพติดให้โทษ เพื่อให้คนไทยใช้ประโยชน์จาก “พืชกระท่อม” และ “พืชกัญชา” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ถึงกับยอมรับว่า “กระท่อม” เป็นพืชท้องถิ่นเชื่อมโยงกับภูมิปัญญาชาวบ้าน คนใต้นิยมเคี้ยวใบสด เพื่อให้มีแรงทำงาน และทนแดด แม้อาจมีสารเสพติดบ้าง แต่ก็ถือว่าน้อยมาก และเป็นยาสมุนไพรใช้แก้อาการท้องร่วงได้ด้วย
การยกเลิกพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดให้โทษจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ นำไปวิจัยทางการแพทย์เพื่อต่อยอดในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศได้ ด้านสังคมชาวบ้านก็ได้ใช้ประโยชน์ตามภูมิปัญญาที่มีอยู่
แต่นั่นก็ยังเป็นข้อตกลงเบื้องต้น ต้องมีการแก้กฎหมายที่ขณะนี้ ป.ป.ส. อยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็น
มีคำเตือนว่า “กระท่อม” หากใช้มากเกินไป ใช้ไม่ถูกวิธี หรือผสมสารอื่น นั่นอาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายได้
ล่าสุดเป็นข่าวใน “MGR Online ภาคใต้” เมื่อวันที่ 17 ก.พ.2563 “โจ๋ใต้” อายุ 18 ปี ถูกหามส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล เพราะดื่ม “น้ำท่อม” แพทย์ตรวจพบว่าไตเกือบวาย กระเพาะอาหาร และลำไส้อุดตัน ถ้าส่งถึงมือหมอช้ากว่านี้เสียชีวิตแน่นอน
“พี่สาว” โพสต์เฟซบุ๊กให้ข้อมูลว่า ทั้งพ่อแม่และตนเตือนมาตลอด แต่ไม่เคยฟัง จากนั้นก็มีคนตามมาเมนต์แสดงความคิดเห็น ทั้งเห็นด้วยและเห็นต่าง ทั้งให้ข้อมูลและบอกเล่าประสบการณ์ ทั้งให้ข้อคิดและวิพากษ์วิจารณ์กันสนุกสนาน ชนิดที่เรียกได้ว่า... เป็นหางว่าวเลื้อยเป็นทางยาวติดลมบนมาจนวันนี้
ที่น่าสนใจได้แก่คำเตือนจาก “พี่สาว” เองระบุว่า “สายเขียวทั้งหลายดูไว้เป็นตัวอย่างนะ เพื่อนน้องทุกคนที่กินน้ำกระท่อมที่ผสมอะไรไปบ้างก็ไม่รู้ ให้หยุดกิน พี่เตือนทุกคนด้วยความหวังดี ถ้าน้องกลับไปกินอีก คือต้องแบกถุงขี้ถุงเยี่ยวเท่านั้น เพราะลำไส้เริ่มตันแล้ว”
มีคนหนึ่งแสดงความเห็นดักคอไว้เมนต์ต้นๆ ว่า “ต้องมีนักวิชาการน้ำท่อมแห่มาแสดงตัวแน่ๆ”
เป็นไปตามคาด! ผู้คนมากมายแห่มาช่วยกันวิเคราะห์ไม่ขาดสาย บ้างก็ว่าเพราะกรองไม่สะอาด จึงไปอุดตันในลำไส้ บ้างก็ว่าผสมอย่างอื่นเข้าไปเยอะ หลายคนบอกกินน้ำท่อมมานานหลายสิบปีก็ยังไม่เห็นจะเป็นอะไร
เป็นที่น่าสังเกตว่า เรื่องราวความเห็นเหล่านี้ ทำให้หลายคนต้องกลับมาคิดทบทวนการดื่มน้ำท่อม แม้ว่าก่อนหน้ามีคนอยากเลิกมานักต่อนักแล้วก็ตาม
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีหลายคนที่คนรอบข้างที่รัก และเป็นห่วง แชร์ข่าวนี้ไปบอกให้ “เลิกดื่มน้ำท่อมก่อนที่จะสายเกินไป” ที่สำคัญเป็นที่น่ายินดีว่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่อ่านข่าวนี้แล้วถึงกับประกาศว่า... “จะเลิกดื่มน้ำท่อม”
อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง :
๐ เกือบตายเพราะน้ำท่อม! แพทย์ชี้ไตเกือบวาย กระเพาะ-ลำไส้อุดตัน