ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชาวภูเก็ตสุดทน! สาวโพสต์ภาพตัดต่อล้อเลียน “ย่ามุก-ย่าจัน” 2 วีรสตรีที่คนภูเก็ตให้ความเคารพ โร่แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ถลาง ดำเนินคดีถึงที่สุด
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ “น้องผิง พระนคร” ได้มีการโพสต์ภาพตัดต่อใบหน้าของท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร (ย่ามุก ย่าจัน) 2 วีรสตรีภูเก็ต ผู้นำทัพต่อสู้กับพม่า ปกป้องเมืองถลาง พร้อมใส่ข้อความลงในภาพระบุว่า “พี่เบลล่า & น้องผิงๆ วีรสตรี ผู้กอบกู้เมืองภูเก็ต” และพิมพ์ข้อความในโพสต์ระบุอีกว่า “คลัยมาด่าพี่อุตมะ ผิงกับเจ๊หล้า จะปกป้องเองค่ะ” และมีการแท็กผู้อื่นอีก 2 ราย (นายอุตมะ เทวคฤหบดี และเจ๊หล้า รีเทิร์น) อย่างไรก็ตาม หลังมีการโพสต์ภาพและข้อความดังกล่าวทำให้ชาวภูเก็ตจำนวนมากไม่พอใจกับพฤติกรรมดังกล่าว เพราะเป็นการไม่ให้เกียรติ และดูหมิ่นเหยียดหยาม และเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันนี้ (27 ก.พ.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.ถลาง นายกองโทอดุลย์ ชูทอง นายอำเภอถลาง พร้อมด้วย นายวิสุทธิ์ โรมินทร์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคง นายสมพร อ่อนทองอิน ปลัดอำเภอ กลุ่มงานความมั่นคงอำเภอถลาง นายอุรุพงศ์ ประทีป ณ ถลาง นายกสมาคมสืบสายสกุลย่ามุกย่าจัน นายธนิต ประทีป ณ ถลาง กรรมการมูลนิธิท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร เจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่อำเภอถลาง ตระกูลประทีป ณ ถลาง ผู้สืบสายสกุล และพี่น้องประชาชนชาว อ.ถลาง และจังหวัดภูเก็ตประมาณ 50 คน
ร่วมหารือกับ พ.ต.ท.อนุกูล หนูเกตุ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ถลาง เพื่อดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้โพสต์ โดยใช้เวลาหารือข้อกฎหมายและแนวทางดำเนินการประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะมีการยื่นหนังสือให้ พ.ต.ท.อนุกูล พร้อมเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันเพื่อดำเนินคดีต่อผู้ที่โพสต์ภาพตัดต่อดังกล่าว
นายกองโทอดุลย์ ชูทอง นายอำเภอถลาง กล่าวว่า วันนี้ทางอำเภอถลาง ซึ่งรับคำสั่งจาก นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วยสมาคมสืบสายสกุลย่ามุกย่าจัน มูลนิธิท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร และทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อบุคคลที่โพสต์ในสื่อโซเชียลในลักษณะของการดูหมิ่น ก่อให้เกิดความเกลียดชัง และยังลบหลู่บรรพบุรุษของชาวไทยและชาวภูเก็ต เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้
ด้าน นายธนิต ประทีป ณ ถลาง กรรมการมูลนิธิท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร กล่าวว่า ตนเองเพิ่งทราบข่าวจากทางจังหวัดว่ามีการโพสต์ลงในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 24 ก.พ.63 ที่ผ่านมา ในนามของคณะกรรมการมูลนิธิท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ไม่ได้นิ่งนอนใจ เข้าปรึกษากับทางจังหวัด ก่อนจะเดินทางมาพบนายอำเภอถลาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ในนามมูลนิธิท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ซึ่งก่อตั้งมา 30 กว่าปี เพื่อสำนึกในบุญคุณและเข้ามาสืบสานเจตนารมณ์ของทั้ง 2 ท่าน
ซึ่งในปีนี้เป็นปีครบรอบ 235 ปี เหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้มีภูเก็ตมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนมามุ่งร้ายต่อท่าน ซึ่งกระทบต่อจิตใจของพี่น้องชาวภูเก็ตและชาวจังหวัดอื่นๆ ที่มาอาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจะต้องมีการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และจากที่ตรวจสอบพบว่าผู้โพสต์รายนี้ไม่ได้อยู่ที่ จ.ภูเก็ต ส่วนอยู่จังหวัดไหนนั้นไม่ทราบแน่ชัด แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ลบหรือปิดเฟซบุ๊ก ยังมีการโพสต์โต้ตอบอย่างต่อเนื่อง และมีการโต้ตอบในทางเสียหายหนักขึ้นเมื่อมีคนไปทักท้วง ซึ่งอยากจะติดตามตัวผู้โพสต์มาดำเนินคดี และจะพาไปกราบขมาลาโทษทั้ง 2 ท่านให้ได้
ด้าน นายอุรุพงศ์ ประทีป ณ ถลาง นายกสมาคมสืบสายสกุลย่ามุกย่าจัน กล่าวว่า ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้ามาร่วม และรวมถึงพี่น้องประชาชนภูเก็ตและทั่วประเทศที่รักย่า (ย่ามุก-ย่าจัน) ซึ่งเราในฐานะผู้แทนสมาคมฯ เองไม่ได้นิ่งนอนใจ จะร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อร้องทุกกล่าวโทษผู้กระทำการดังกล่าว เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ พ.ต.ท.อนุกูล หนูเกตุ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ถลาง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ผู้โพสต์น่าจะมีการสร้างเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมา และมีการกระทำความผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และในเบื้องต้นพบเข้าข่ายการโพสต์ข้อความที่ไม่เป็นจริงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ส่วนอีกประเด็นคือ การโพสต์ดูหมิ่น ลบหลู่ หมิ่นประมาท ก็เข้าความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และนอกจากนี้ ยังต้องดูในรายละเอียดอื่นๆ ด้วยว่าเข้าข่ายความผิดใดเพิ่มเติม
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ “น้องผิง พระนคร” ได้มีการโพสต์ภาพตัดต่อใบหน้าของท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร (ย่ามุก ย่าจัน) 2 วีรสตรีภูเก็ต ผู้นำทัพต่อสู้กับพม่า ปกป้องเมืองถลาง พร้อมใส่ข้อความลงในภาพระบุว่า “พี่เบลล่า & น้องผิงๆ วีรสตรี ผู้กอบกู้เมืองภูเก็ต” และพิมพ์ข้อความในโพสต์ระบุอีกว่า “คลัยมาด่าพี่อุตมะ ผิงกับเจ๊หล้า จะปกป้องเองค่ะ” และมีการแท็กผู้อื่นอีก 2 ราย (นายอุตมะ เทวคฤหบดี และเจ๊หล้า รีเทิร์น) อย่างไรก็ตาม หลังมีการโพสต์ภาพและข้อความดังกล่าวทำให้ชาวภูเก็ตจำนวนมากไม่พอใจกับพฤติกรรมดังกล่าว เพราะเป็นการไม่ให้เกียรติ และดูหมิ่นเหยียดหยาม และเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันนี้ (27 ก.พ.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.ถลาง นายกองโทอดุลย์ ชูทอง นายอำเภอถลาง พร้อมด้วย นายวิสุทธิ์ โรมินทร์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคง นายสมพร อ่อนทองอิน ปลัดอำเภอ กลุ่มงานความมั่นคงอำเภอถลาง นายอุรุพงศ์ ประทีป ณ ถลาง นายกสมาคมสืบสายสกุลย่ามุกย่าจัน นายธนิต ประทีป ณ ถลาง กรรมการมูลนิธิท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร เจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่อำเภอถลาง ตระกูลประทีป ณ ถลาง ผู้สืบสายสกุล และพี่น้องประชาชนชาว อ.ถลาง และจังหวัดภูเก็ตประมาณ 50 คน
ร่วมหารือกับ พ.ต.ท.อนุกูล หนูเกตุ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ถลาง เพื่อดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้โพสต์ โดยใช้เวลาหารือข้อกฎหมายและแนวทางดำเนินการประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะมีการยื่นหนังสือให้ พ.ต.ท.อนุกูล พร้อมเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันเพื่อดำเนินคดีต่อผู้ที่โพสต์ภาพตัดต่อดังกล่าว
นายกองโทอดุลย์ ชูทอง นายอำเภอถลาง กล่าวว่า วันนี้ทางอำเภอถลาง ซึ่งรับคำสั่งจาก นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วยสมาคมสืบสายสกุลย่ามุกย่าจัน มูลนิธิท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร และทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อบุคคลที่โพสต์ในสื่อโซเชียลในลักษณะของการดูหมิ่น ก่อให้เกิดความเกลียดชัง และยังลบหลู่บรรพบุรุษของชาวไทยและชาวภูเก็ต เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้
ด้าน นายธนิต ประทีป ณ ถลาง กรรมการมูลนิธิท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร กล่าวว่า ตนเองเพิ่งทราบข่าวจากทางจังหวัดว่ามีการโพสต์ลงในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 24 ก.พ.63 ที่ผ่านมา ในนามของคณะกรรมการมูลนิธิท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ไม่ได้นิ่งนอนใจ เข้าปรึกษากับทางจังหวัด ก่อนจะเดินทางมาพบนายอำเภอถลาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ในนามมูลนิธิท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ซึ่งก่อตั้งมา 30 กว่าปี เพื่อสำนึกในบุญคุณและเข้ามาสืบสานเจตนารมณ์ของทั้ง 2 ท่าน
ซึ่งในปีนี้เป็นปีครบรอบ 235 ปี เหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้มีภูเก็ตมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนมามุ่งร้ายต่อท่าน ซึ่งกระทบต่อจิตใจของพี่น้องชาวภูเก็ตและชาวจังหวัดอื่นๆ ที่มาอาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจะต้องมีการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และจากที่ตรวจสอบพบว่าผู้โพสต์รายนี้ไม่ได้อยู่ที่ จ.ภูเก็ต ส่วนอยู่จังหวัดไหนนั้นไม่ทราบแน่ชัด แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ลบหรือปิดเฟซบุ๊ก ยังมีการโพสต์โต้ตอบอย่างต่อเนื่อง และมีการโต้ตอบในทางเสียหายหนักขึ้นเมื่อมีคนไปทักท้วง ซึ่งอยากจะติดตามตัวผู้โพสต์มาดำเนินคดี และจะพาไปกราบขมาลาโทษทั้ง 2 ท่านให้ได้
ด้าน นายอุรุพงศ์ ประทีป ณ ถลาง นายกสมาคมสืบสายสกุลย่ามุกย่าจัน กล่าวว่า ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้ามาร่วม และรวมถึงพี่น้องประชาชนภูเก็ตและทั่วประเทศที่รักย่า (ย่ามุก-ย่าจัน) ซึ่งเราในฐานะผู้แทนสมาคมฯ เองไม่ได้นิ่งนอนใจ จะร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อร้องทุกกล่าวโทษผู้กระทำการดังกล่าว เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ พ.ต.ท.อนุกูล หนูเกตุ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ถลาง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ผู้โพสต์น่าจะมีการสร้างเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมา และมีการกระทำความผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และในเบื้องต้นพบเข้าข่ายการโพสต์ข้อความที่ไม่เป็นจริงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ส่วนอีกประเด็นคือ การโพสต์ดูหมิ่น ลบหลู่ หมิ่นประมาท ก็เข้าความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และนอกจากนี้ ยังต้องดูในรายละเอียดอื่นๆ ด้วยว่าเข้าข่ายความผิดใดเพิ่มเติม
