ตรัง - หอการค้าภาคใต้ฝั่งอันดามัน เสนอรัฐเร่งสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และจัด “ไทยเที่ยวไทย” กระตุ้นท่องเที่ยว รวมทั้ง “เลี้ยงแพะ” ส่งกลุ่มมุสลิมกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังเจอปัญหาโควิด-19 ฝุ่น PM 2.5 และพืชผลราคาตกต่ำ
นายสลิล โตทับเที่ยง ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน กล่าวว่า หลังจากที่ประเทศไทยได้ประสบปัญหาต่างๆ ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และปัญหาพืชผลทางการเกษตรมีราคาตกต่ำในภาคใต้ ทั้งยางพารา และปาล์มน้ำมัน จนส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมย่ำแย่ รวมทั้งด้านการท่องเที่ยวด้วยนั้น ภาครัฐจะต้องเร่งสร้างภาพลักษณ์ที่ดี สำหรับการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เกี่ยวกับระบบติดตามป้องกัน และดูแลผู้ป่วยไม่ให้แพร่กระจาย เนื่องจากประเทศไทยยังไม่มีผู้เสียชีวิต และมีจำนวนผู้รักษาหายขาดจากโรคนี้เพิ่มขึ้น รวมทั้งไม่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง
นอกจากนั้น จากการที่ จ.ตรัง เป็น 1 ใน 5 แห่งเอเชียที่มีอากาศดีที่สุด และมีธรรมชาติที่สวยงาม ขณะที่ภาคใต้เองก็กำลังเข้าสู่หน้าร้อน ซึ่งสภาพอากาศเช่นนี้ทำให้ไวรัสโควิด-19 ไม่ชอบ ฉะนั้น จึงสามารถนำมาเป็นเครื่องมือที่จะใช้ประชาสัมพันธ์เพื่อเชิญชวนให้มาท่องเที่ยวในลักษณะ “ไทยเที่ยวไทย” หรือให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น เทศบาล อบต. หรือชุมชนต่างๆ เดินทางไปศึกษาดูงานแบบข้ามภาคกัน เช่น คนภาคใต้ขึ้นไปดูงานภาคอีสาน ส่วนคนภาคเหนือ หรือภาคอีสานก็ลงมาดูงานภาคใต้ ซึ่งจะช่วยให้ภาคการท่องเที่ยวดีขึ้น โดยเฉพาะหลายสายการบินที่ขณะนี้ยังมีเที่ยวบินว่างอยู่ ก็จะได้กลับมาเพิ่มเที่ยวบินภายในประเทศมากขึ้น
ส่วนปัญหาที่พืชผลทางการเกษตรมีราคาตกต่ำ หอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้เสนอให้กระจายความเสี่ยงด้วยการปลูกพืชอื่นทดแทน หรือหาอาชีพเสริม ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การส่งเสริมเลี้ยงแพะแปลงใหญ่ เพราะขณะนี้กลุ่มมุสลิมมีความต้องการสูงมาก แต่ผลผลิตที่มีอยู่นั้นไม่เพียงพอ หรือถ้าทั่วโลกบริโภคกันจริงๆ แค่ภายใน 1 เดือนก็จะหมดตลาด อีกทั้งการเลี้ยงแพะก็ทำได้ง่าย และเป็นสัตว์ที่กินได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งใบหรือทางปาล์มน้ำมัน ซึ่งมีมากในภาคใต้อยู่แล้ว และล่าสุด ธ.ก.ส.ก็ยังจัดเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำสนับสนุนให้แก่กลุ่มผู้เลี้ยงแพะด้วย โดยมีเงินกู้ 1 ล้านบาท แต่จ่ายดอกเบี้ยแค่ 100 บาท ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสที่ดีของเกษตรกรชาวใต้